ผู้จัด"ดอกส้มสีทอง"ยันละครช่วยสอนพฤติกรรมไม่ดีมากกว่า "ชมพู่"ชี้ถ้าเด็กดูผู้ปกรองควรแนะนำด้วย
จาก กรณีที่ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้แจ้งเตือนไปยังสถานีช่อง 3 ถึงเนื้อหาของละคร "มงกุฏดอกส้ม ดอกส้มสีทอง" ว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะตัวละคร "เรยา" ที่แสดงกริยาที่ไม่ดีกับบุพการี และหากเป็นไปได้ก็ขอไม่ให้เผยแพร่ดีกว่า
ด้าน น.ส.อรุโณชา ภาณุพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น ผู้ผลิตละครเรื่อง ดอกส้มสีทอง ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงนางถ่ายเถา สุจริตกุล ผู้ประพันธ์ เขียนเรื่องนี้มาตั้งแต่ 11 ปีก่อน เพื่อต้องการสะท้อนภาพสังคม ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูลูกอย่างเอาใจ ขณะเดียวกันเด็กก็เติบโตในบ้านเศรษฐี จึงเกิดความรู้สึกอยากได้ อยากมี อยากเป็น ซึ่งก็ตรงกับสภาพสังคมปัจจุบัน นอกจากนั้นยังต้องการแสดงให้เห็นว่าหากครอบครัวใด ผู้ชายมีภรรยาน้อย ทุกคนในครอบครัวจะไม่มีความสุข
เมื่อถามว่าเอาเรื่องจากไหนมา ก็เรื่องที่เกิดขึ้นในสังคม น.ส.อรุโณชากล่าว และว่า ในส่วนที่มีคนบอกว่าละครมีความรุนแรง ไม่เหมาะจะออกอากาศ เพราะเป็นตัวอย่างไม่ดีกับเด็กและเยาวชนนั้นยอมรับว่าเรื่องอาจรุนแรงบ้าง แต่ของอย่างนี้ขึ้นกับมุมมองและการนำไปปรับใช้ เพราะถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าคำพูดของตัวละครจะแฝงแง่คิด ทุกครั้งที่ เรยา มีพฤติกรรมไม่ดี จะมีตัวละครตัวอื่นพูดเตือนทันทีว่าไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ตั้งแต่ละครออกอากาศบริษัทยังได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ชมกลับมามาก ทั้งเด็กที่บอกว่า เรยา ทำกับแม่อย่างนี้ได้อย่างไร บางคนบอกว่าก่อนหน้านี้ตนก็เคยทำ แต่เมื่อมาเห็นภาพสะท้อนจาก เรยา ก็รู้แล้วว่าเป็นสิ่งไม่ดี ขณะที่ผู้ชายคนหนึ่งบอกกับนางถ่ายเถาว่า ถ้ามีภรรยาน้อยแล้วครอบครัวมีปัญหาขนาดนี้ก็ไม่มีดีกว่า ยังมีอาจารย์อีกคนหนึ่งบอกว่า นำละครเรื่องนี้ไปเป็นสื่อการสอนนักศึกษาด้วย
"เสียงสะท้อนทุกเสียงเป็นสิ่งที่เรารับฟังและขอบคุณ แต่แง่มุมตรงนี้ผู้ประพันธ์ ผู้เขียนบท ผู้ผลิตมีเจตนาที่ดี อยากสะท้อนสังคมจริงๆ อยากให้เกิดสิ่งที่นำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์" น.ส.อรุโณชากล่าว
น.ส.อรุโณชากล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ได้รับคำแนะนำว่าการสะท้อนสังคมเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องมีการให้ข้อคิดที่ถูกต้องควบคู่กันไป ซึ่งละครเรื่องนี้ก็ได้ทำมาตลอด
ขณะที่นางศัลยา สุขะนิวัตติ์ หรือ ศัลยา ผู้เขียนบทละคร กล่าวว่า เชื่อว่าคนดูเกิน 90% จะไม่เลียนแบบพฤติกรรมที่ เรยา ทำกับแม่ เพราะเห็นชัดว่าเป็นสิ่งที่น่าเกลียด และไม่ถูกต้อง
"จริงๆ ลูกอย่างเรยามีไม่น้อย จึงหวังให้เก็บสิ่งที่เห็นไปเป็นบทเรียน คงไม่มีเด็กคนไหนหรอกที่เห็นเรยาตวาดแม่ แล้วบอกตัวเองว่าฉันจะวีนแม่อย่างนี้บ้าง นางศัลยากล่าว และว่า สำหรับคนที่เกรงว่าเด็กจะเกิดการเลียนแบบทั้งเรื่องพฤติกรรมกับแม่ หรือการแสดงบทรักกับผู้ชายหลายคน ตนมีความเห็นว่านิสัยของคนไม่ได้ถูกหล่อหลอมจากการดูละครหรอก เพราะที่สุดแล้วใครจะเป็นอย่างไรจะมาจากสิ่งแวดล้อมและครอบครัวเป็นสำคัญ ละครไม่มีอิทธิพลมากพอจะทำให้คนเลียนแบบได้ในชั่วข้ามคืน และเรื่องนี้ก็มีความดีความชั่วบาลานซ์กันตลอดเวลา มั่นใจว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ให้ตัวอย่างเลวๆ แก่คน" นางศัลยากล่าว
ด้านนายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 กล่าวว่า ก่อนนำละครออกอากาศสถานี จะให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่อกำหนดเรตที่เหมาะสม สำหรับเรื่องนี้ตนเชื่อว่าหากติดตามดูจนถึงที่สุด ไม่ตัดตอนดูเป็นฉากๆ ก็จะรู้ผลลัพธ์ที่ตัวละครได้ว่าเป็นอย่างไร
"สำหรับเรื่องที่ว่าอาจเป็นตัวอย่างไม่ดีแก่เด็กและเยาวชน นายบริสุทธิ์กล่าวว่า หากพูดกันตรงๆ การชมรายการโทรทัศน์ของเด็กผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำ และหากเห็นว่าไม่เหมาะกับเด็กก็ควรพาเด็กออกไปจากหน้าจอ เพราะเรื่องอย่างนี้ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม โดยในส่วนสถานีเองก็มีความรับผิดชอบเต็มที่ ไม่ได้ละเลยสังคม ทั้งนี้ ดอกส้มสีทอง เหลือออกอากาศเพียงไม่กี่ตอนแล้ว เพราะจะอวสานในวันที่ 19 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม หากมีการร้องเรียนเข้ามาที่สถานีก็จะรับเรื่องมาพิจารณา" นายบริสุทธิ์
ขณะที่ น.ส.อารยา เอ ฮาร์เก็ต หรือ "ชมพู่" ซึ่งรับบท "เรยา" กล่าวว่า สำหรับชมแล้วละครเรื่องนี้เป็นบทเรียนชีวิตที่ดี เพราะเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงในสังคม ซึ่งก็ไม่ต่างกับภาพข่าวที่สะท้อนความเป็นจริงเช่นกัน เพียงแต่ละครอาจสอดแทรกความบันเทิงไปด้วยเท่านั้น
"ถ้าชมเป็นพ่อแม่ ชมคงไม่สอนลูกว่าโลกนี้ขาวสะอาด เพราะนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ละครเรื่องนี้คือเรื่องเล่าของชีวิตที่หลากหลายมากๆ และเห็นบทสรุปของแต่ละคน แต่ละปัญหาได้เลยในสองเดือน ไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง ชมเห็นด้วยว่าเด็กๆ ควรจะได้รับการแนะนำเสริมด้วยเวลาดู เพราะวุฒิภาวะยังไม่มากพอ ถึงแม้ว่าทั้งบท คำพูด และสถานการณ์ต่างๆ ช่วยสอนด้วยแล้วก็ตาม แต่ถ้าผู้ปกครองเห็นว่าเนื้อหาไม่เหมาะสมลูกไม่ควรดู ก็น่าจะหาทางคอนโทรลลูก ถ้ายังปล่อยให้ดูคนเดียวนี่ถือเป็นเรื่องของแต่ละครอบครัว" อารยากล่าว
ชมพู่ยังกล่าวอีกว่า มั่นใจว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับดอกส้มสีทองล้วนมีเจตนาดีและหวังจะให้แง่คิดต่อสังคม ซึ่งคนที่ได้ดูตั้งแต่ต้นเรื่องจะรู้เลยว่านี่ไม่ใช่ละครที่ให้แค่ความสะใจในอารมณ์เท่านั้น
|