 |
| โลกลุ้นปฏิบัติการกู้ชีพชิลี ช่วย33ชีวิต |
 |
 |
|
ทยอยพ้นนรกลึก700เมตร! เหมืองถล่มฝังใต้ซาก2เดือน รบ.ยอมทุ่มหมื่นล.ช่วยเหลือ ปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานเหมืองใต้ดินชิลี 33 คน ซึ่งติดอยู่ในเหมืองทองแดงและทองคำใต้ดินซานโฮเซนาน 69 วัน เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันพุธที่ 13 ตุลาคมตามเวลาประเทศไทย หลังการทดสอบระบบปฎิบัติการชักรอกด้วยการใช้แคปซูลกู้ภัยผ่านไปด้วยดี สื่อต่างประเทศให้ความสนใจนำเสนอข่าวนี้อย่างครึกโครม สถานีโทรทัศน์หลายแห่งต่างถ่ายทอดสดการช่วยเหลือคนงานเหมืองครั้งนี้ไปทั่วโลก ปฎิบัติการช่วยชีวิตเริ่มขึ้น ด้วยการส่งหน่วยกู้ภัยคนแรกคือ นายมานูเอล รอดริเกซ ผู้เชี่ยวชาญการกู้ภัยในเหมืองของบริษัท โคเดลโค บริษัทผลิตทองแดงของทางการชิลี ลงไปพร้อมแคปซูลฟินิกซ์ไปยังจุดที่คนงานเหมืองรออยู่ที่ระดับความลึก 622 เมตร และนำตัวนายฟลอเรนซิโอ อัลวาลอส วัย 31 ปี คนงานเหมืองคนแรกขึ้นสู่พื้นดินได้สำเร็จ ใช้เวลาทั้งสิ้น 16 นาที สาเหตุที่เขาได้รับการช่วยเหลือเป็นคนแรกเพราะมีสุขภาพแข็งแรง และกำลังใจดี เมื่อขึ้นมาถึงนายฟลอเรนซิโอสวมกอดลูกชายวัย 7 ขวบ ภรรยา และประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปินาร่าที่มารอต้อนรับ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลใกล้เคียง สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุโกลาหลขึ้นช่วงก่อนที่นายอัลวาลอสจะได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาบนพื้นดินเป็นคนแรก ระหว่างครอบครัวอัลวาลอสรอการกลับมาของนายฟลอเรนซิโออยู่ในเต็นท์ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่ปักหลักรอทำข่าว รวมทั้งผู้นำชิลีและรัฐมนตรีหลายคน เมื่อสื่อมวลชนเห็นการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ว่านายอัลวาลอสขึ้นมาแล้ว ก็รีบไปรอในจุดที่ครอบครัวคนงานเหมืองยืนอยู่ หวังได้ภาพเวลาแห่งความยินดีเป็นคนแรก แต่ระหว่างที่นายอัลวาลอส กำลังสวมกอดภรรรยาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อผู้สื่อข่าวต่างยื้อแย่งกันทำข่าว จนเกิดการชกต่อย ฉุดกระชาก ช่วงนั้นนางมาเรีย ภรรยาของอัลวาลอส ได้ใช้ธงชาติชิลีฟาดลงไปที่ศีรษะของผู้สื่อข่าวที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยความโกรธแค้น แต่ผู้สื่อข่าวยังคงต่อสู้กันไม่หยุด จนกระทั่งเต็นท์ของครอบครัวพัง ก่อนจะสลายตัวไปในที่สุด ขณะที่การช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป โดยมาริโอ เซปูลเวด้า ช่างไฟฟ้าวัย 39 ปี ได้รับการช่วยเหลือขึ้นสู่พื้นดินเป็นคนที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า นายเซปูลเวด้ายังคงมีกำลังใจดีเยี่ยมและสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีอารมณ์ขันเต็มเปี่ยม ด้วยการนำเอาก้อนหินจากใต้เหมืองลึกกว่า 600 เมตรติดตัวขึ้นมาด้วย โดยบอกว่านำมาฝากทุกคนเป็นที่ระลึก จากนั้น นายฮวน อิญาเนส วัย 52 ปีได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาเป็นคนที่ 3 ต่อด้วยนายการ์ลอส มามานี โซลิส คนงานเหมืองเพียงคนเดียวที่เป็นชาวโบลิเวีย ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดีอิโว โมราเลส ผู้นำโบลิเวีย จะเดินทางมายังเหมืองในวันนี้ เพื่อพบกับนายมามานี คนงานที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาเป็นคนที่ 5 ได้แก่จิมมี ซานเชส พ่อลูกหนึ่งซึ่งเป็นคนงานเหมืองที่มีอายุน้อยที่สุดเพียง 19 ปี และทำงานที่เหมืองซาน โฮเซแห่งนี้ได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น นายออสมาน อารายา วัย 30 ปี ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาเป็นคนที่ 6 และตรงเข้าสวมกอดกับภรรยาและครอบครัวทันที นายโฮเซ โอเยด้า ได้รับการช่วยเหลือเป็นคนที่ 7 นายเคลาดิโอ ยาเนซ ได้รับการช่วยเหลือต่อเป็นคนที่ 8 ซึ่งเขาได้สวมกอดภรรยาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานมา 11 ปี และประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกันหากได้รับการช่วยเหลือ และมาริโอ โกเมซ คนงานเหมืองอายุมากที่สุดวัย 63 ปีที่ติดอยู่ในเหมือง ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาเป็นคนที่ 9 สำหรับนายโกเมซเป็นผู้ที่เขียนข้อความด้วยหมึกสีแดงที่ระบุว่า คนงานเหมืองทุกคนยังปลอดภัยดีใต้เหมือง และส่งขึ้นมาผ่านท่อเล็กๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฎิบัติการกู้ชีพในครั้งนี้ใช้เวลาในการช่วยเหลือคนงานเฉลี่ยแล้ว 1 คนต่อ 1 ชั่วโมง โดยที่ปฎิบัติการครั้งนี้ ต้องล่าช้าออกไป 2 ชั่วโมง จากเดิมรัฐบาลชิลีประกาศจะเริ่มปฎิบัติการเวลา 20.00 น.วันอังคาร์ ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 06.00 น.วันพุธตามเวลาประเทศไทย สำหรับแคปซูลที่ใช้ขนส่งคนงานนั้นประดิษฐ์ครั้งแรก ใช้ชื่อว่า "ฟินิกซ์" ซึ่งเป็นชื่อสัตว์ในเทพตำนาน เป็นเทพแห่งไฟ สัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน หมายถึงการนำพาชีวิตคนงานเหมืองขึ้นมามีชีวิตใหม่ ถ้าไม่ผิดพลาด ปฏิบัติการจะเสร็จภายใน 2 วัน โดยการขนส่งใช้เวลา 15-20 นาทีต่อรอบ ความเร็วของแคปซูลคือ 3 เมตรต่อวินาที สำหรับแคปซุลดังกล่าวได้รับการออกแบบพิเศษในภารกิจกู้ภัยครั้งนี้ โดยภายในติดตั้งไว้ด้วยห้ากาก และถังอ๊อกซิเจน นอกจากนี้ ยังมีฝาเปิดฉุกเฉินเพื่อใช้เป็นทางออก หากแคปซูลเกิดติดกลางคัน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าการที่ปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานเหมืองชิลีต้องล่าช้า เนื่องจากการทดสอบแคปซูลในช่วงสุดท้าย ปรากฎว่าตัวแคปซูลมีรอยถลอก และรอยบุบจากการกระแทกหลังดึงขึ้นมาจากอุโมงค์ช่วยเหลือที่เสริมความแข็งแรงด้วยท่อเหล็ก ทำให้ต้องใช้เวลาแก้ไข อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ปฏิบัติการช่วยเหลือยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหา โดยคนงานที่จะขึ้นมาคนสุดท้ายคือ นายลูอิส อูร์ซัว วัย 54 ปี ช่างทำแผนที่ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มคนงานและทำแผนที่สภาพพื้นที่โดยรอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคนงาน 33 คนติดอยู่ใต้เหมือง มีบางคนต้องเผชิญอาถรรพ์บางอย่างที่เหลือเชื่อ เช่น โฮเซ่ เฮนริเกซ กอนซาเลซ ที่ได้ชะตาต้องกับเลข 33 เริ่มจากที่ระยะเวลาแต่งงาน 33 ปี เป็นกรรมกรเหมืองมา 33 ปี และเป็นหนึ่ง 33 คน ที่ติดอยู่ในเหมือง ด้านเซบาสเตียน ปีเนร่า ประธานาธิบดีชีลี กล่าวแสดงความขอบคุณพระเจ้า ทีมงานกู้ภัย ทีมงานของคณะรัฐมนตรีเหมืองแร่และรัฐมนตรีสาธารณสุข ที่สามารถช่วยเหลือคนงาน 33 คนที่ติดอยู่ภายใต้เหมืองมาอย่างยาวนาน 69 วัน นานที่สุดเป็นประวัติการณ์ และว่าเหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ชิลีมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ทุกอย่าง เหมือนที่ประเทศเคยฟื้นจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่นายเรนซ์ โกลบอร์น รัฐมนตรีกิจการเหมืองแร่ บอกว่าหากปฏิบัติการช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น อาจสามารถช่วยเหลือคนงานทั้งหมดขึ้นมาได้ในเวลาเพียง 1 วันครึ่ง เร็วกว่าที่คาดไว้ถึงครึ่งวัน นายวชิรพงศ์ นาสารีย์ 1ใน2วิศวกรไทย ที่ร่วมทีมช่วยเหลือ 33 คนงานที่ติดอยู่ในเหมืองใต้ดินที่ชิลี ให้สัมภาษณ์ว่า การช่วยเหลือไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ การดำเนินการเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ การช่วยเหลือแต่ละคนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง การช่วยเหลือทั้ง 33 คนน่าจะใช้เวลากว่า 30 ชั่วโมง โดยการช่วยเหลือจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีกำหนดหยุดพัก "สำหรับทีมงานที่มาร่วมปฎิบัติการณ์ครั้งนี้มีประมาณ 500 คนจากทั่วโลก จากเหตุการณ์นี้คนชิลีให้ความสำคัญทั่วประเทศ มีแผนสำรองมากมาย ยอมจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือพลเมืองของตัวเอง ซึ่งเมื่อคนแรกที่ขึ้นมาจะสั่นระฆังที่อยู่บริเวณใกล้เคียง พร้อมโบกธงชาติและโห่ร้องคำว่าชิลี สำหรับผมรู้สึกภูมิใจที่เป็นตัวแทนคนไทยที่เข้าไปมีส่วนรวม โดยอยู่ในทีมที่ดูงานเชื่อม ดูการเสริมเหล็กในรอยเชื่อมต่อ เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด แต่การทำงานทั้งหมดทุกทีมไม่มีใครคิดว่าอยู่คนละทีม ทุกคนคิดเหมือนกันหมดว่าต้องช่วยคนงานทั้ง 33 คนกลับบ้านให้เร็วที่สุด" นายวชิรพงศ์ กล่าว ทั้งนี้ ปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานชิลีตลอดกว่าสองเดือนที่ผ่านมาได้ทำให้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนร่า เพิ่มขึ้นเป็น 57% จากการสำรวจช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน จากเดิมมีคะแนนนิยม 54% ในการสำรวจเดือนพฤษภาคม และนายลอเรนซ์ โกลบอร์น รัฐมนตรีกิจการเหมืองแร่ กลายเป็นรัฐมนตรีที่ได้คะแนนนิยมมากที่สุดในรัฐบาล สื่อของชิลีรายงานว่ารัฐบาลยังคงไม่เปิดเผยงบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือคนงานเหมืองทั้ง 33 คน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าน่าจะต้องใช้เม็ดเงินในปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยถึงเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่คนงานทั้ง 33 คนจะมีชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย จะมีเงินทองไหลมาเทมาจากการไปให้สัมภาษณ์ทั้งกับรายการโทรทัศน์ หนังสือและการขายเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ |
วันที่ : 21 มีนาคม 66 8:40:10
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ http://www.muslimthaipost.com