|
||
Muslimthai Focus : รักษา 3 ปี สาวโดนน้ำกรด เปลี่ยนหน้าสำเร็จ! | ||
ประสบความสำเร็จ! ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าเด็กสาวที่ถูกน้ำกรดระเบิดเข้าหน้าเสียโฉม รักษาใกล้เคียงคนปกติ จนเข้าสังคมได้โดยไม่อับอาย และแต่งงานมีบุตร 1 คน วันนี้ (15 ก.ย.) นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้บริหาร รพ.ยันฮี นพ.ธวัชชัย บุญพัฒนพงศ์ นพ.สุกิจ วรธำรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยแพทย์ตกแต่ง แถลงข่าว “เปลี่ยนใบหน้า” ประสบความสำเร็จ โดย นพ.สุพจน์ กล่าวว่า ย้อนกลับไปประมาณ 4 ปีก่อน รพ.ยันฮี ได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งด.ญ.ณธิดา ไชยสิทธิ์ หรือ น้องแหม่ม ได้เข้ามารักษาตัวเพราะถูกน้ำกรดย่อยยางพาราระเบิดใส่ใบหน้า และลำตัวโดยไม่ได้คาดฝัน นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า การรักษา ด.ญ.ณธิดา ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2549 จากการตรวจ และให้การวินิจฉัย พบว่า ด.ญ.ณธิดา มีบาดแผลจากการกัดทำลายของสารเคมีบนใบหน้า ลำตัว และน้ำกรดบางส่วนยังได้กระเด็นเข้าตา จมูก และริมฝีปาก ทำให้มีปัญหาเรื่องการมองเห็น การหายใจ รวมทั้งการรับประทานอาหาร “เราพบว่าใบหน้ามีแผลเป็นนูน ผิวหนังถูกดึงรั้งจากน้ำกรดกัด ทำให้ใบหน้าผิดรูปไปมาก หางตาด้านซ้ายหดรั้งมาก ทำให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่ จมูกถูกน้ำกรดกัดหายไปบางส่วน จนไม่มีลักษณะหรือโครงสร้างเดิม และมุมปากหดรั้ง ทำให้ไม่สามารถอ้าปากได้ ต้องรับประทานอาหารอย่างยากลำบาก” นพ.ธวัชชัย กล่าวต่ว่า เมื่อประเมินสภาพปัญหาแล้ว คณะแพทย์จึงได้วางแผนการรักษาโดยเลือกการผ่าตัดเปลี่ยนย้ายผิวหนังบนใบหน้า สร้างจมูก และริมฝีปากใหม่ เพื่อช่วยให้ใบหน้าของผู้ป่วยกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ส่วนขั้นตอนการรักษาตลอด 3 ปี มีดังนี้ ใบหน้าด้านซ้ายบริเวณแก้ม มีแผลเป็นนูนใหญ่ กินเนื้อที่กว้าง จำเป็นต้องผ่าตัดแผลเป็นออกทั้งหมด แล้วย้ายผิวหนังบริเวณหน้าท้องมาปิดตามแนวผิวหนังของใบหน้าที่ถูกตัดออกไป ทั้งนี้ ภายหลังการผ่าตัดย้ายผิวหนัง เนื้อเยื่อมีการติดกันดี ไม่มีการอักเสบ ทำให้ใบหน้าด้านซ้ายดูเป็นปกติมากขึ้น จากนั้นจึงทำการรักษาใบหน้าบริเวณด้านขวา ซึ่งยังมีผิวหนังดีที่ไม่ถูกน้ำกรดกัด แพทย์จึงได้ใช้วิธียืดผิวหนังดีให้กว้างขึ้น เป็นวิธีที่เรียกว่า Tissue Expansion คือ การใส่ลูกโป่งเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อยืดผิวหนังและเนื้อเยื่อให้กว้างใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะต้องเข้ามารับการฉีดน้ำเกลือเข้าไปในลูกโป่งให้พองโตทุกสัปดาห์ เพื่อให้เนื้อเยื่อยืดออกมากที่สุด เพื่อนำเนื้อไปปิดบริเวณหน้าด้านขวาได้ จากนั้นแพทย์ทำการตัดแผลเป็นนูนออก และยืดเนื้อดีที่เกิดจากการขยายตัวด้วยลูกโป่งเข้าไปปิดแทน ผิวหนังที่ตัดออกไปจนทำให้ใบหน้าเรียบเหมือนปกติ ส่วนบริเวณหางตาด้านซ้ายที่มีผิวหนังเป็นผังฝืด ทำให้หนังตาหดรั้งมาก จนทำให้ลืมตาซ้ายไม่ได้ แพทย์ทำการผ่าตัดเอาผังผืดหนังตาออกโดยการผ่าตัดด้วยวิธี Z-Plasty ซึ่งการผ่าตัดลักษณะนี้แผลผ่าตัดจะเป็นรูปซิกแซก ช่วยลดการดึงรั้งบริเวณหางตา ทำให้หางตาเปิด ปิดได้ตามปกติ ต่อมาได้ทำจมูกใหม่ เพราะจมูกถูกน้ำกรดกัดจนเนื้อจมูกแหว่งหายไปไม่มีรูปร่างเดิมเหลืออยู่เลย แพทย์ใช้วิธี Flap เป็นการตัดหนังศีรษะจากบริเวณด้านข้างของศีรษะมาปลูกถ่ายเป็นเนื้อเยื่อบริเวณจมูกเหมือนเดิม เพื่อให้ได้รูปจมูกที่ดูใกล้เคียงปกติมากที่สุด นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ขั้นตอนการผ่าตัดสำคัญๆ ผ่านพ้นไปแล้ว คงเหลือการผ่าตัดแผลเล็กๆ น้อย อย่างแผลเป็นนูนบางแห่งที่แขน ขา ไหล่ ส่วนสีผิวหนังที่ยังมีรอยคล้ำอยู่ สามารถใช้ยาช่วยได้ อย่างไรก็ตาม ตลอด 3 ปีที่รักษาอย่างต่อเนื่อง อาการดีขึ้นตามลำดับ และสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ปัจจุบันเธอมีครอบครัวแล้ว และมีบุตร 1 คน อย่างไรก็ตาม การรักษาครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของ รพ.ยันฮี ที่มีส่วนได้ช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาดังกล่าวให้อยู่ในสังคมได้ โดยไม่ต้องอับอายจากแผลเป็นนูนที่ดูน่ากลัวมาก ด้าน น.ส.ณธิดา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ รพ.ยันฮี รักษาให้ฟรี ซึ่งก่อนหน้าที่จะรักษาเธอไม่กล้าสู้หน้าใคร ไม่กล้าส่องกระจกดูหน้าตัวเอง ไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะเพื่อนๆ ล้อ รู้สึกเป็นทุกข์อย่างบอกไม่ถูก มาวันนี้เธอออกไปนอกบ้านโดยไม่อายใคร แม้ว่าใบหน้ายังมีร่องรอยอยู่บ้าง สีผิวไม่เท่ากัน แต่คุณหมอบอกว่าจะค่อยตกแต่งอีก 2-3 ครั้ง ส่วนสีผิวจะค่อยปรับเองตามธรรมชาติ |
||
พิมพ์จาก : http://muslimthai.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=19&id=14744
วันที่ : 25 มีนาคม 66 18:15:05 สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ http://www.muslimthaipost.com |