กสอ.ชูแฟชั่นมุสลิมยึดทั่วโลก (ไทยรัฐ)

จับมือดีไซเนอร์เปิดตัว 50 คอลเลกชั่นยั่วใจ ส่งต่อทูตพาณิชย์ไทยกลุ่มประเทศมุสลิมพรีเซ็นต์ต่อ ...
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต้องเร่งบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนภายในโรงงานให้ได้สูงสุด เพื่อเป็นการหากำไรจากการดำเนินกิจการ พร้อมกันนี้ต้องผลิตสินค้าให้มีความโดดเด่นกว่าประเทศคู่แข่ง รวมถึงการสร้างสรรค์สินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการทำตลาดในระยะยาวต่อไป
"เงินบาทแข็งค่าขึ้นกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออกในเชิงจิตวิทยาแน่นอน ซึ่งเอสเอ็มอีต้องปรับตัวผลิตสินค้าของตัวเองให้โดดเด่น สร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้แข่งขันในตลาดได้"
นายอาทิตย์กล่าวอีกว่า กสอ.ได้อยู่ระหว่างการร่วมกับดีไซเนอร์ในการออกแบบเครื่องแต่งกายแฟชั่นมุสลิม เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้า เพื่อต่อยอดให้เกิดการค้าขายและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น เบื้องต้นมีเครื่องแต่งกายแฟชั่นมุสลิมราว 50 แบบ (คอลเลกชั่น) ส่งให้ทูตพาณิชย์ไทยในกลุ่มประเทศมุสลิม อาทิ ตะวันออกกลาง อินเดีย และภูมิภาคอาเซียน นำไปเผยแพร่ให้กับผู้ค้าเสื้อผ้าแต่ละประเทศที่สนใจ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเครื่องแต่งกายแฟชั่นมุสลิมของไทยได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ และยังไม่มีการทำตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง บรูไน มาเลเซีย เป็นต้น ที่นิยมเดินทางมาซื้อสินค้าโดยตรงจากตลาดค้าปลีกค้าส่งย่านประตูน้ำ โบ๊เบ๊ และหาดใหญ่ เป็นต้น ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการที่ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีต้องการสร้างแบรนด์ เครื่องแต่งกายแฟชั่นมุสลิมก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการหารือในรายละเอียดอย่างจริงจัง เพราะตลาดดังกล่าวถือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย (นิชมาร์เก็ต) แต่ยังไม่มีใครทำแบรนด์ระดับโลก ซึ่งถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย
"กสอ.ได้ทำโครงการแฟชั่นเครื่องแต่งกายมุสลิมมา 2-3 ปี แล้ว ซึ่งเป็นการเน้นดีไซน์เสื้อผ้าให้โดดเด่น สร้างภาพพจน์ และกระตุ้นภาพลักษณ์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมุสลิมของไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วย". |