Muslimthai Focus : จับตามุสลิมเขมร แห่ลง3จ.ใต้ พบกว่า1.5พันคน
ไทยรัฐ - จับตามุสลิมเขมร แห่ลง3จ.ใต้ พบกว่า1.5พันคน

ทหารพรานสระแก้วพบพิรุธมุสลิมเขมรไม่กลัวตายแห่ทะลักลง 3 จว.ใต้ของไทย เผยตั้งแต่ต้นปีมีลงไปแล้วกว่า1,500 คน ไม่พบประวัติเดินทางกลับ ทั้งที่พาสปอร์ตอยู่ได้ 1 เดือน นอกจากนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุร้ายกับกลุ่มคนเหล่านี้..

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 13 พ.ค. ขณะ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1206 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 132 กองกำลังบูรพา(ผบ.ร้อย ทพ.1206ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา) นำกำลังตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดบริเวณจุดตรวจหน้ากองร้อยทหารพรานคลองลึก หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบกลุ่มชาวเขมรมุสลิมจำนวนมาก เดินทางผ่านด่าน พรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในฝั่งไทย จึงเรียกตรวจ

ตรวจสอบทราบว่าเป็นชาวเขมรที่นับถือศาสนาอิสลาม (เขมรมุสลิม) จำนวน 41 คน เป็นชาย 20 คน หญิง 18 คน เด็กชาย 2 คน และเด็กหญิง 1คน เดินทางมาจาก จ.กัมปงจาม ประเทศกัมพูชา โดยทั้งหมดมีพาสปอร์ตเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง เมื่อสอบถามอ้างว่าจะเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ ชายแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตพบว่าพาสปอร์ตที่ชาวเขมรมุสลิมนำมาแสดงเป็นพาสปอร์ตใหม่เดินทางมาครั้งแรกทุกคน อีกทั้งจะเดินทางไปยังชายแดนภาคใต้ของไทยซึ่งยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบอยู่ โดยไม่มีความหวาดกลัวใดๆ จึงตัวมาตรวจค้นอย่างเข้มงวดที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ซึ่งจากการตรวจค้นภายในกระเป๋าเสื้อผ้าพบแต่ละคนมีการลักลอบนำยารักษาโรค ชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นยาปฏิชีวนะ และครีมลอกผิว ซึ่งเป็นของต้องห้ามนำเข้า จึงตรวจยึดไว้ จากนั้นได้ทำการบัณทึกภาพและทำประวัติไว้ก่อนจะอนุญาตให้เดินทางต่อไป

ร.อ.ชาญ  เผยว่าจากการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 53 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีชาวเขมรมุสลิมที่เดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนราธิวาสและปัตตานี แล้วจำนวน 1,572 คน รวมประมาณ 5 เดือนเฉลี่ยเดินทางไปเดือนละ 300 คน และเมื่อไปตรวจสอบกับ ด่าน ตม.อรัญประเทศ พบว่าไม่มีหลักฐานการเดินทางกลับของชาวเขมรมุสลิมเหล่านี้เลย ทำให้สงสัยว่าชาวเขมรมุสลิมเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน เนื่องจากวีซ่าเข้าประเทศไทยอยู่ได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น อีกทั้งความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงเกิดเหตุร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวเขมรมุสลิมเหล่านี้ ซึ่งเดินทางไปเป็นจำนวนมากนับพันคน กลับไม่เคยเกิดเหตุร้ายขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท ทางกองร้อยทหารพรานที่ 1206ฯ จึงต้องเข้มงวดในการตรวจค้นและทำประวัติ เพราะเกรงว่าอาจจะมีการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายไปร่วมสนับสนุนกลุ่มโจรใต้ได้.

พิมพ์จาก : http://muslimthai.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=19&id=10428
วันที่ : 29 มีนาคม 66 19:27:33
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ http://www.muslimthaipost.com