KABUL — Eight years after the US invasion that promised progress and liberation, Afghans see Western democracy as synonymous of indecency and fornication.

"I see signs of democracy among customers with bare arms and necks," Mansoor Aslami, 21, a cosmetics shop owner, told Agence France Presse (AFP) on Tuesday, August 4.

คาบูล – 8 ปีตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเข้ามารุกรานอัฟกานิสถาน อเมริกาสัญญาจะให้ความก้าวหน้า และเสรีภาพ แต่ชาวอัฟกันเห็นประชาธิปไตยแบบของชาวตะวันตก ในรูปลักษณ์ของความหยาบคาย และการสำส่อน

เจ้าของร้านขายเครื่องสำอางบอกว่า ลูกค้าสวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยมากขึ้น และวัยรุ่นหญิง-ชายเดินควงกันตามท้องถนน ชาวอัฟกันจำนวนมากตระหนักถึงวัฒนธรรมแปลกแยก ที่เข้ามาพร้อมกับการรุกรานของทหารอเมริกาในปี 2001

ชาวอัฟกันรุ่นปู่-ย่า อาจจะไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของประชาธิปไตย เพราะลูกหลานมักจะบอกว่า การแต่งกายแบบตะวันตกของเขา คือ แบบอย่างประชาธิปไตย

สถานีโทรทัศน์เอกชนช่อง 13  ที่เผยแพร่วิดีโอดนตรี และภาพยนตร์แบบตะวันตก มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้เป็นแบบอย่างอิสลาม และเคเบิ้ลที.วี.หลายช่องถูกห้ามฉาย หลังจากสภาอุละมะอฺร้องเรียนว่าเผยแพร่รายการที่ผิดศีลธรรม

ประเทศอัฟกานิสถานเริ่มใช้ระบอบประชาธิปไตยในปี  1960 และ 1970 โดยจัดการเลือกตั้งสภาผู้แทนแบบจำกัด  แต่การริเริ่มประชาธิปไตยถูกทำลายในปี 1979 โดยกองทัพโซเวียตเข้ามารุกราน ทำให้เกิดการแบ่งกลุ่มเป็นก๊ก เป็นเหล่า และสู้รบกันเป็นสิบปี รวมทั้งมีการแทรกแซงจากต่างชาติ

ในปี 1996-2001 รัฐบาลตอลิบันห้ามการร้องรำทำเพลง ห้ามผู้ชายโกนเครา สั่งให้ผู้หญิงสวมชุดบุรก้าที่ปิดมิดชิด และห้ามเด็กผู้หญิงไปโรงเรียน

แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทันทีหลังตอลิบันถูกขับไล่ออกไป ทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกลไม่เห็นด้วย เพราะวัฒนธรรมประชาธิปไตยทำให้เยาวชนออกห่างจากศาสนา และความมีศีลธรรม และพากันเห็นพ้องว่า ถ้าประชาธิปไตยเป็นเช่นนี้ พวกเขาขอเลือกที่จะไม่มีประชาธิปไตยดีกว่า

อย่างไรก็ดี คนรุ่นใหม่ยังคงหวังว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดี และการเลือกตั้งในระดับจังหวัดที่กำลังจะมาถึง คงจะให้โอกาสพวกเขาได้ลงคะแนนให้กับใครสักคน ซึ่งรับใช้อิสลาม และมาตุภูมิ ด้วยวิถีทางแห่งประชาธิปไตยที่แท้จริง และขอให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ชาวอัฟกันได้เลือกกำหนดชะตาชีวิตด้วยตัวเองเสียที