สำนักข่าวมุสลิมไทย บาทหลวงเทอรี่ โจนส์เดินหน้าต่อเผากุรอาน ท้าทายโลกมุสลิม

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ถึงแม้สาวกของบาทหลวงเทอรี่ โจนส์ ยังคงเดินหน้าจัดวันเผาอัล-กุรอาน โดยอ้างว่าเพื่อประท้วงการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายมุสลิม ในเหตุการณ์ 9/11 แต่เห็นได้ชัดว่ายังมีการวิเคราะห์ว่าสมควรจะจัดงานดังกล่าวหรือไม่

สาเหตุที่มีการลังเลในครั้งนี้ เนื่องมาจากฝ่ายทหารสหรัฐได้ท้วงติงมาว่า การเผาอัล-กุรอานอาจทำให้เกิดผลกระทบกับกองทัพสหรัฐที่ปฏิบัติการรบอยู่ในประเทศมุสลิมหลายประเทศ

นายพล David Petraeus ผู้บัญชาการกองทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ว่า การเผาอัล-กุรอานอาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่กับทหารสหรัฐ รวมทั้งจะกระทบความพยายามของสหรัฐทั้งมวล เกี่ยวกับการแก้ปัญหาในอัฟกานิสถาน

เมื่อวันอังคาร โจนส์ได้ตอบโต้แถลงการณ์ของ Petraeus ในการให้สัมภาษณ์ CNN ว่า ทางที่ดีท่านนายพลควรจะชี้นิ้วสั่งพวกอิสลามหัวรุนแรงเหล่านั้นให้หุบปากมากกว่า และบอกพวกเขาว่า สหรัฐจะไม่มีวันคุกเข่า หรืออ่อนข้อให้

โจนส์ยังกล่าวว่า เขาเพียงแต่จะเผาคัมภีร์ ไม่ได้จะฆ่า หรือฆาตกรรมใคร

แผนของบาทหลวงโจนส์ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากมุสลิมทั่วโลก รวมทั้งเจ้าหน้าที่สหรัฐ โดยสถานทูตสหรัฐในกรุงคาบูล ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่ให้อภัยการกระทำซึ่งเป็นการไม่ให้ความเคารพต่อศาสนาอิสลาม และมีความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความพยายามที่จะดูหมิ่นสมาชิกของศาสนาต่างๆ หรือชนกลุ่มน้อย

แถลงการณ์ดังกล่าวย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐขอประณามอย่างรุนแรง ต่อความตั้งใจที่จะละเมิดมุสลิม โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนนี้ ซึ่งตรงกันข้ามกับนโยบายของรัฐบาล

ทางด้านบาทหลวงโจนส์ได้กล่าวว่า สาวกของเขาก็รู้ว่าการเผาอัล-กุรอานเป็นการล่วงละเมิดมุสลิม แต่พวกเขาก็ถูกล่วงละเมิดเช่นกัน เมื่อมีการเผาธงชาติสหรัฐ หรือเมื่อมีการเผาคัมภีร์ไบเบื้ล แต่สิ่งที่ต้องการสื่อให้โลกรู้ สำคัญยิ่งกว่าการถูกละเมิดหลายเท่านัก

เขายังกล่าวอีกว่า มุสลิมได้รับการต้อนรับในสหรัฐตราบเท่าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และอย่าพยายามนำกฎหมายอิสลามมาใช้ สิ่งต่างๆ ที่เขาเผยแพร่ออกไป มุ่งโจมตีมุสลิมกลุ่มที่เป็นพวกหัวรุนแรง ไม่ใช่มุสลิมทั่วๆ ไป

ศูนย์ Dove World Outreach Center กล่าวอ้างว่าก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1986 โดยเป็นโบสถ์สำหรับทั้งคนมั่งมี คนยากจน เยาวชน และผู้สูงอายุ โดยมีจุดประสงค์เพื่อธำรงความถูกต้องชอบธรรม และความสัตย์จริงของคัมภีร์ไบเบิ้ล เว็ปไซต์ของโบสถ์ชักชวนให้ผู้คนต่อต้านการทำบาป และเรียกร้องให้หันกลับมาสำนึกผิด รณรงค์ว่าการทำแท้ง คือฆาตกรรม โฮโมเซ็กช่วล คือบาป และพระเยซูเท่านั้นที่เป็นพระผู้ไถ่บาปแก่มวลมนุษย์

เว็ปไซต์ดังกล่าวระบุว่า ศาสนาใดก็ตามที่แสดงตัวว่าปฏิเสธความสัตย์จริงของพระเยซู ก็เท่ากับเป็นศาสนาของมารร้าย  ดังนั้น อิสลามจึงเป็นที่รังเกียจ เพราะระบุสถานะอื่นให้กับพระเยซูนอกเหนือจากการเป็นบุตรของพระเจ้า ซึ่งเท่ากับเป็นการลบล้างอำนาจในการไถ่บาปออกจากท่าน

Plemon el-Amin อิหม่ามแห่งมัสยิดแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย กล่าวว่า บาทหลวงโจนส์คงไม่เคยอ่านอัล-กุรอาน จึงไม่มีทางทราบว่า หนังสือที่เขาตั้งใจจะเผานั้น อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวการสรรเสริญพระเยซู (นบีอีซา) เช่นเดียวกับเรื่องของโมเสส และอับราฮัม รวมทั้งศาสดาทั้งหลายที่ปรากฎนามในคัมภีร์ไบเบิ้ลที่เขาศรัทธา อิหม่ามยังกล่าวว่า ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะต่อกรกับโจนส์คือ ปล่อยให้เขาพล่ามไปโดยไม่ต้องไปสนใจ เหมือนคนสติเฟื่องที่ยืนอยู่ตามมุมถนน คอยบอกคนที่เดินผ่านไปมาว่า วันสิ้นโลกใกล้จะมาถึงแล้ว

ขณะนี้องค์กรคริสเตียนที่ให้การสนับสนุน และปกป้องศูนย์ของบาทหลวงโจนส์ ได้ถอนตัวไปแล้ว โดย Shannon Carson ผู้ก่อตั้งองค์กรกล่าวว่า สื่อได้นำเรื่องของบาทหลวงโจนส์ไปตีแผ่จนทำให้เกิดความวุ่นวาย แตกแยก และโกรธแค้นไปทั่ว โบสถ์เกือบ 30 แห่ง อารามยิวอีกหลายแห่ง ก็กำลังรณรงค์โครงการต่อต้านบาทหลวงโจนส์ และวันเผาอัล-กุรอานของเขาเช่นกัน