พี พาร์ค เรสซิเดนซ์ รุดเดินหน้าธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ พัฒนา พี-พาร์คเรสซิเด้นท์ สู่ เสรี 47 ...............................................................................
ปัจจุบัน “เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์” ถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากรูปแบบการให้บริการไม่แตกต่างจากการบริการของโรงแรมเท่าใดนักกอปรกับ “เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์” มีจุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่มากกว่า ดังนั้น จะเห็นว่าตลาดเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์นั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโดยจะขยายออกสู่นอกเมืองมากขึ้นโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า หรือ Airport Link ที่มุ่งสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น
โครงการ "พี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ พระราม 9 –สุวรรณภูมิ" ถือเป็นโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่มีระดับอีกโครงการหนึ่งที่รองรับลูกค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มคนทำงาน ฯลฯด้วยรูปแบบการบริการและระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

คุณอนีส เพ็ชรทองคำ ผู้ดูแลโครงการพี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ พระราม 9 –สุวรรณภูมิ ให้เกียรติกับทางทีมงานร่วมพูดคุยเกี่ยวกับหลักการบริหารและความสำเร็จจนนำมาสู่การต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดตัวเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์แนวคิดใหม่ภายใต้การดูแลของทีมงานที่เปี่ยมศักยภาพด้วยความรู้และประสบการณ์การบริหารโครงการในคอลัมน์ CEO Interview ส่วนความเป็นมาจะเป็นอย่างไรนั้น น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
@@ จากธุรกิจต้นสายสู่ธุรกิจปลายสาย @@
เมื่อกล่าวถึงที่มาของการลงมาทำธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่านั้นหากเท้าความให้ดีแล้ว โครงการพี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ พระราม 9 – สุวรรณภูมิถือว่าเป็นโครงการในเครือของบริษัท พาร์ควิลเลจ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพาร์วิลเลจ บางบัวทอง โครงการบ้านงามเจริญ ที่บางขุนเทียน พัทยา และบางบัวทอง จากนั้นจึงเริ่มแผ่กิ่งก้านสาขาด้วยการเปิดตัวโครงการอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ตลอดรวมถึงโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าที่กำลังประสบความสำเร็จในขณะนี้ เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งวงการอสังหาฯ ซึ่งต่อไป “คุณอนีส” ยังแย้มด้วยว่าหากมีโอกาสคาดว่าจะพัฒนาโรงแรมคุณภาพอีกด้วย

“คุณอนีส” เริ่มต้นกล่าวถึงที่มาของโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อย่าง พี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ พระราม 9 – สุวรรณภูมิว่าเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการพี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ จรัลสนิทวงศ์ – พระราม 7 หลังจากประสบความสำเร็จมีลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งการมาเปิดโครงการพี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ พระราม 9 นั้น เขามองว่าโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพด้วยระบบโครงข่ายคมนาคมที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นใกล้ Air Port Link เพียง 300 เมตร เจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ 1.กลุ่มคนทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ใช้ Air Port Link โดยจะมีรถยนต์หรือไม่มีรถยนต์ก็ได้ คือเข้าเมืองก็สะดวก 2.กลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศทางแถบยุโรปหรือสแกนดิเนเวียที่เน้นที่พักอาศัยนอกเมืองหรือต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบมีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี่ ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการท่องเที่ยวทางภาคใต้ที่หลังจากกลับจากภาคใต้และหาที่พักที่ใกล้สนามบิน หรือกลุ่มคนต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทยและต้องใช้ Air port Link เดินทางไปทำงานตามบริษัทหรือนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น
“เราเปิดพี-พาร์คเรสซิเดนซ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2553 หรือประมาณ 1 ปีมาแล้ว ซึ่งหลังจากที่ได้รับการอนุมัติเราก็เริ่มดำเนินการทันทีโดยยังไม่มี Grand Opening ซึ่งหลังจากที่มีคนเข้ามาพัก เราจึงเริ่มมีการจัดระบบและเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ จนถึงขณะนี้ถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก”
@@ รูปแบบบริการที่ตรึงใจลูกค้า @@
“คุณอนีส” ย้อนหลังพื้นที่ พี-พาร์ค เรสซิเด้นท์ พระราม 9 –สุวรรณภูมิ ว่าเป็นของมูลนิธิดารุลอิหฺซานมาก่อน หลังจากนั้นก็ให้บริษัท พี-พาร์ค เรสซิเดนซ์ จำกัด เข้ามาบริหารจัดการให้ โดยมีการดำเนินการพัฒนาเปลี่ยนแปลงสามารถทำรายได้และทำให้โครงการนี้เป็นที่พูดถึง จนในที่สุดจึงได้ก่อเกิดโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งแบ่งเป็น 2 อาคาร ทำธุรกิจในลักษณะให้เช่ารายเดือนในอาคารแรก และรายแพ็กเกจในอาคารที่ 2 โดยได้มีการเปลี่ยนรูปแบบสไตล์การตกแต่งและบรรยากาศที่เหมือนอยู่ที่บ้าน และการบริการที่เรียกว่าครบวงจร ทั้งร้านอาหาร คอฟฟี่ชอพ ฟิตเนส WiFiอินเตอร์เน็ต สระว่ายน้ำ รูมเซอร์วิส ระบบรักษาความปลอดภัย และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารเป็นทีมให้ดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาประตูแรกด้วยระบบคีย์การ์ด 2 ชั้น เป็นต้น

ด้านรูปแบบการบริการ มี 2 รูปแบบ คือ
1. แบบรายเดือน คืออาศัยอยู่แบระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี หรือจะหลายปีก็ได้
2. การบริการระยะสั้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ต่ำกว่า 6 เดือนลงมา และอาศัยแบบเป็นช่วงๆ หรือ 3-4 วันเราก็จะเป็นบริการแบบแพ็กเกจ
ตอนนี้มีลูกค้าเข้าอยู่ทั้ง 2 รูปแบบคิดเป็นสัดส่วน 50 : 50 โดยอาคารแรกจะเป็นในส่วนของรายเดือน อาคารที่ 2 จะเป็นรายเดือนครึ่งหนึ่ง ซึ่งในอนาคตเราจะทำเป็นอาคาร 1 เป็นรายเดือนทั้งหมด และอาคาร 2 รายแพ็กเกจทั้งหมด และหลังจากที่เราทำรายแพ็กเกจแล้วปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก เราจึงเปิดห้องที่มีความหลากหลายมากขึ้น จากเมื่อก่อนเป็นเตียงเดียวทั้งหมด
ตอนนี้เรามีทั้งเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และห้องใหญ่ที่มีเตียงเดี่ยวบวกกับห้องรับแขก รวมแล้วมีห้อง 3 ประเภท โดยห้องที่มีห้องรับแขกเรียกว่าห้อง Deluxe อีกห้องเรียกว่า Superior Double เป็นห้องเตียงเดี่ยวขนาด king size และ Supreriar Twin คือห้องเตียงคู่ และยังมีแผนที่จะเปิดบริการห้องพักกลุ่มลูกค้า เฮลแคร์รองรับลูกค้าจากโรงพยาบาลสมิติเวช สาขานี้ถือว่าเป็นสาขาที่ 2 ซึ่งสาขาแรกคือ พี-พาร์ค เรสซิเดนซ์ จรัญสนิทวงศ์-พระราม 7 ประสบความสำเร็จมาก ซึ่งโครงการนั้นเรารองรับลูกค้ากลุ่มเฮลแคร์ ผู้ที่มารักษาพยาบาล และที่มาเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งโครงการเราอยู่ติดกับโรงพยาบาลยันฮีที่มีชื่อเสียงทางด้านความงาม และการดูแลทางการแพทย์ จึงได้รับการตอบดีมาก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่มาเข้าอบรมสัมมนาซึ่งทางพี พาร์ค เรสซิเดนซ์มีห้องสัมมนาไว้รองรับอีกด้วยรับรองได้ตั้งแต่ 30-100 คน และยังเป็นกลุ่มต่างชาติที่มาท่องเที่ยวเมืองเก่าอย่างวัดพระแก้ว หรือสถานที่สำคัญตามลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

เรามีโครงการทั้งหมด 4 ทำเล คือ
1. พี-พาร์ค เรสซิเดนซ์จรัลสนิทวงศ์-พระราม 7 ติดรพยันฮี และท่าเรือด่วยเจ้าพระยา เดืนทางเข้าเมืองสะดวก บรรยกาศสงบเงียบ เพราะตั้งอยู่ในซอยส่วยตัว
2. พี-พาร์ค เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – สุวรรณภูมิ ตั้งอยุ่ติดกับแอร์พอตลิ้งค์ สถานีหัวหมาก และติดศุนย์การค้าชั้นนำมากมาย
3. เอสพีอพาร์ต์เม้นท์ ลาดพร้าว เจาะกลุ่มคนทำงานและกลุ่มนักศึกษา ตั้งอยุ่ตรงข้ามบิกซ๊ ลาดพร้าว และทางด่วน ใกล้เดอมอลบางกะปิ
4. เสรี 47 เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ล่าสุดบนถนนเสรีไทย มีห้องพักอาศัย 90 ห้อง อยู่เขตบึงกุ่มติดกับสวนน้ำเสรีไทย ปอดแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของคนกรุงเทพ บรรยกาศสงบ ห่างไกลมลภาวะ อยุ่ใกล้แยกนิด้า และกำลังเปิดรองรับลูกค้าทั้งระยะสั้น และระยะยาวเหมือนกับพี-พาร์ค เรสซิเดนซ์ เดิมเคยเป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าและเราเข้ามาปรับปรุงดูแลใหม่ โดยมีการตกแต่งรูปแบบห้องใหม่ให้ดูมีระดับมากขึ้น เจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาโท-เอกที่นิด้า การเดินทางสะดวกสบายใกล้เส้นทางเดินเรืองอย่างคลองแสนแสบ และอยู่บนเส้นทางบึงกุ่ม-มีนบุรี ติดสวนสยามที่มีกลุ่มพนักงานที่ทำงานอยู่ด้านในกลุ่มวิศวกรที่ทำโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณนั้น ตั้งเป้ามีลูกค้าเข้าพักเต็มทุกห้องไว้ที่ 6 เดือน
@@ หัวใจแห่งการบริหาร คือ ทำงานเป็นทีม @
“คุณอนิส” ยึดหลักการทำงานเป็นทีม และเชื่อว่ารูปแบบการทำงานดังกล่าวจะทำให้งานสำเร็จเป็นรูปธรรมมากที่สุด ดังที่ผ่านมาจะเห็นได้จากพี-พาร์คเรสซิเด้นท์ จรัลสนิทวงศ์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้เขามีแผนทำการประชาสัมพันธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการกระจายข่าวทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งสื่อที่ได้ผลมากคืออินเตอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ และโฆษณาป้ายคัตเอ้าท์ นอกจากนี้ ยังมีการร่วมธุรกิจกับบริษัทเหล่าทัวร์ที่จะส่งลูกค้ามาให้ และตามสถาบันศึกษาทั้งอาจารย์ นักศึกษา และสถาบันสอนภาษาที่มีครูต่างชาติ

“เราเป็นทีมที่ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจที่เราจะทำ ซึ่งก่อนที่จะเริ่มต้นทำโครงการหนึ่งๆ นั้นเราจะเริ่มต้นจากการเข้ามาศึกษาพื้นที่ และมองว่าควรจะทำอะไร โดย ณ ตอนนี้เรายังไม่มีแผนที่จะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ เพียงแต่ต้องการที่จะพัฒนาจากสิ่งที่เรามีไปก่อน เมื่อประสบความสำเร็จแล้วเราจึงจะไปเริ่มที่จะพัฒนาโครงการอื่นๆต่อไป”

“คุณอนิส” ยอมรับว่าในการพัฒนาโครงการหนึ่งๆ นั้นจะต้องใช้เวลาการทำงานค่อนข้างมากกว่าจะประสบความสำเร็จและต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง คือ ทีมงานที่มีประสิทธิภาพสามารถถ่ายทอดงานให้กับลูกน้องเพื่อให้ดำเนินการต่อได้ นอกจากนี้ ยังต้องมีอุดมการณ์ร่วมกัน และเนื่องจากสังคมสิ่งแวดล้อมแต่ละโครงการไม่เหมือนกัน จึงต้องมาศึกษาถึงจุดเด่นจุดด้อยว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งศึกษากลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ถึงความเป็นไปได้ว่าควรจะเป็นกลุ่มใด แล้วเชิญชวนให้มาร่วมธุรกิจ หรือมาใช้บริการ

“อย่างโครงการเสรี 47 เป็นโครงการอพาร์ทเม้นท์ที่ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น จะสังเกตว่าโครงการเราทุกโครงการอยู่ใกล้กับชุมชนมุสลิม ที่เสรี 47 ก็อยู่ใกล้กับมัสยิด เราถือว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน หากเราเข้าไปที่ชุมชนใด เราจะเข้าไปพัฒนาชุมชนนั้นๆให้เกิดการเปลียนแปลงในทางที่ดีด้วย ซึ่งเราอยากให้คนจดจำชื่อของเรา ซึ่งสิ่งที่เราทำนั้นจะทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ และช่วยเหลือพึ่งพากันได้”
- www.muslimthai.com |