พบคุณค่าไม้กฤษณาที่ DAM GHARU WOOD ผ่านประสบการณ์และความพิถีพิถันกว่า 30 ปี ...............................................................
เมื่อพูดถึงคุณประโยชน์ของไม้กฤษณา ไม่ว่าจะเป็นมีสรรพคุณทางยา ให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ และยังเป็นส่วนผสมชั้นดีกับเครื่องสำอางบางชนิด ปัจจุบันถือว่าไม้กฤษณาเป็นไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะตลาดในแถบตะวันออกกลางที่นิยมนำชิ้นไม้กฤษณามาทำเป็นเครื่องหอมต่างๆ
DAM GHARU WOOD หรือชื่อภาษาไทย ดำกฤษณา เป็นร้านขายส่งและปลีกไม้กฤษณารวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ผ่านการบริหารกิจการโดย “คุณดำ เจริญสุข” ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำธุรกิจไม้กฤษณามากว่า 30 ปี ปัจจุบัน “คุณดำ” มีโรงงานสกัดน้ำมันไม้กฤษณาและพื้นที่ปลูกไม้กฤษณารวม 29 ไร่ ที่ จ.ตราด และถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความช่ำชองเรื่องไม้กฤษณาอีกคนหนึ่งในวงการเลยทีเดียว

@@ บ่มเพาะประสบการณ์กว่า 30 ปี @@
“คุณดำ” ท้าวความเป็นมาก่อนที่จะหันมาทำธุรกิจนี้ว่า เขาเริ่มทำธุรกิจซื้อขายไม้กฤษณามาตั้งแต่ปี 2523 โดยเริ่มต้นจากการค้าส่งก่อน ซึ่งแหล่งสินค้าส่วนใหญ่จะมาจากฝั่งประเทศกัมพูชา หรือลาว และเริ่มหาที่ปลูกไม้กฤษณาพร้อมก่อตั้งโรงงานรวมอยู่ด้วย บนเนื้อที่ 29 ไร่ ที่จังหวัดตราด เมื่อปี 2540 และมาเปิดร้านในย่านถนนซอยนานาเมื่อปี 2546 โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาจากกลุ่มในแถบประเทศตะวันออกกลาง อาทิ เช่น คูเวต ซาอุดิอาระเบีย ดูไบ บาเรน กาตาร์ และโอมาน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ที่ให้ความสนใจไม้กฤษณารวมทั้งผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณาอีกด้วย
นับตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจนี้มาถือว่าประสบความสำเร็จ มีลูกค้าให้การยอมรับในเรื่องคุณภาพของไม้กฤษณา โดย “คุณดำ” กล่าวว่าทางร้านจะเน้นในเรื่องของคุณภาพ เริ่มตั้งแต่การปลูก การดูแล การคัดสรรอย่างพิถีพิถัน และมีโรงงานกลั่นน้ำมันกฤษณาคุณภาพอีกด้วย ปัจจุบัน “คุณดำ” ได้นำชิ้นไม้กฤษณามาสกัดเป็นน้ำมันกฤษณาที่ไม่มีสารหรือสิ่งแปลกปลอมเจือปน การันตีได้จากกลิ่นที่มาจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการนำน้ำมันกฤษณามาผลิตเป็นสินค้าแปรรูปอื่นๆ ในราคาที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผลกับลูกค้ามากที่สุด โดยสินค้าที่ขึ้นชื่อของทางร้าน ได้แก่ น้ำมันตราดจากโรงงาน น้ำหอม โลชั่นบำรุงผิว และสบู่เหลวอาบน้ำ กลิ่น silver attar ผลิตภัณฑ์ใหม่ของร้าน DAM GHARU WOOD ซึ่งถือว่าได้รับการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี แม้ว่าสินค้าจะเข้าสู่ตลาดได้ไม่นาน



“ลักษณะการทำธุรกิจของเราเป็นรูปแบบครอบครัว ดำเนินธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งน้ำมันกฤษณาที่เราสกัดได้นั้นถือเป็นหัวน้ำหอมสูตรเฉพาะของทางร้านโดยผ่านการกลั่นจากโรงงานแล้วส่งต่อให้กับ supplier เพื่อนำไปผลิต เป็นสินค้าแปรรูปอื่นๆ โดยใช้ตราสินค้าที่เราคิดค้นขึ้นมาเอง ที่ผ่านมายอดการผลิตเริ่มที่หลักร้อย ปัจจุบันขึ้นสู่หลักพันขวด”
@@ ไม้กฤษณาคุณภาพต้องดูที่สีและกลิ่น @@
ต้นกฤษณาเป็นต้นไม้ที่ไม่มีรากแก้ว ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ง่ายต่อการปลูกในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศและดินชุ่มชื้น ดังนั้นการดูแลรักษาจึงค่อนข้างยากเพราะจะง่ายต่อการหักโค่น ที่ผ่านมาทาง จ.จันทบุรี ตราด และระยองจะปลูกกันมาก พื้นที่ติดกับทะเลจึงมีลมพายุค่อนข้างบ่อย ต้องดูแลไม่ให้ต้นกฤษณาล้ม เพราะเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีราคาแพง อีกทั้งภาครัฐยังให้การสนับสนุนและทำการประชาสัมพันธ์ด้วยการแจกกล้าพันธุ์ไม้กฤษณา “คุณดำ” ให้ความสำคัญกับต้นกฤษณาแทบทุกต้น มีการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีทุกชนิด เนื่องจากคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้า ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า

สำหรับวิธีการแยกเกรดชิ้นไม้กฤษณา “คุณดำ” แนะนำว่าชิ้นไม้กฤษณาเกรด A เนื้อไม้จะต้องมีสีดำ หนา และมีน้ำมันกฤษณาสะสมอยู่เยอะ และเมื่อนำชิ้นไม้ไปจุดบนเตาเผา น้ำมันกฤษณาที่สะสมอยู่จะพลุเดือดขึ้นมาและส่งกลิ่นหอมอบอวล ส่วนเกรด B C และ D รองลงมา ลูกค้าบางรายมองว่ากลิ่นหอมคล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเกรด A และเกรดรองลงมาคือ ความหอมติดทนหรือไม่ นอกจากนี้ชิ้นไม้กฤษณาที่นำมาบดเป็นผงมีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องเสียได้อีกด้วย

“เกี่ยวกับเรื่องสายพันธุ์ของไม้กฤษณาในอดีตไม่มีใครพูดถึงมากนัก จะมาพูดถึงก็ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่มีการมาก่อตั้งเป็นชมรม หรือบริษัทต่างๆ ได้มีการแบ่งสายพันธุ์ ทั้งใบใหญ่ ใบเล็ก เปลือกหนา เปลือกบาง ซึ่งจากประสบการณ์การทำธุรกิจค้าส่งไม้กฤษณามากว่า 30 ปี ผมมองว่าแทบไม่มีความแตกต่างกัน คนส่วนใหญ่มักจะคิดกันไปเองมากกว่า”

@@ คุณภาพสมราคา @@
เมื่อพูดถึงสินค้าแปรรูปจากน้ำมันกฤษณา อาทิเช่น น้ำหอม โลชั่นบำรุงผิว และ สบู่เหลวอาบน้ำ ภายใต้แบรนด์ ABSOLUTE OUD แบรนด์ใหม่ของ DAM GHARU WOOD ที่การันตีในเรื่องคุณภาพและความหอมติดทน อย่างไรก็ตาม ลูกค้าต่างให้การยอมรับในเรื่องของราคาที่ไม่แพงจนเกินไปรวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานการผลิตตามกระบวนการทางเคมี และตัดสินใจซื้ออย่างไม่ลังเล

“คุณดำ” แนะนำวิธีการเลือกไม้กฤษณาคุณภาพดีจะต้องมีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเพราะจะให้น้ำมันที่มีคุณภาพและให้ปริมาณที่มากกว่า ยิ่งถ้ามีอายุมากจำนวนและคุณภาพของน้ำมันจะยิ่งมีมากขึ้น เรียกได้ว่า ยิ่งแก่ยิ่งมัน ยิ่งแก่ยิ่งดีนั่นเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการเจาะต้นกฤษณาอีกด้วย แม้ว่าต้นกฤษณาที่ปลูกไว้มีอายุถึง 12 ปีแล้วก็ตาม แต่คุณดำก็ยังคงรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่ที่มีการปลูกต้นกฤษณาเพื่อส่งป้อนโรงงาน ซึ่งคุณดำให้ความเห็นว่า เนื่องจากอายุของต้นกฤษณาที่ปลูกไว้ยังอ่อนเกินไป อาจส่งผลต่อคุณภาพของหัวน้ำมันสูตรเฉพาะของโรงงานตามไปด้วย
ในเรื่องของราคาของไม้กฤษณาส่วนที่นำไปสกัดเป็นน้ำมันเริ่มต้นตั้งแต่กิโลกรัมละ 80-200 บาท จากนั้นราคาจะขยับขึ้นมาเป็นหลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วย เช่น ลูกค้าฝั่งอาหรับจะเน้นเรื่องกลิ่นหอมติดทน ฝั่งญี่ปุ่นเน้นเรื่องรูปร่าง สี และความสวยงามเป็นหลัก



“คุณดำ” ฝากทิ้งท้ายในฐานะผู้ประกอบการร้านขายไม้กฤษณาคนหนึ่ง ว่า ทางร้าน ยึดถือความซื่อสัตย์เป็นหลักโดยคำนึงถึงประโยชน์และความต้องการของลูกค้า กล่าวคือ สินค้าทุกอย่างจากทางร้านที่ลูกค้าซื้อไปนั้นต้องสมกับเงินจำนวนมากที่จ่ายให้กับเรา ดังนั้น ทางร้านจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาคิดค้นพร้อมทั้งพัฒนาปรับปรุงสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย
ท่านใดสนใจสามารถแวะเข้าเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน DAM GHARU WOOD ซ.สุขุมวิท 3/1 ติดธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานานาเหนือ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-655-7594 หรือ 089-7750879 , 089-7722594 , 081-6849295
|