สำนักข่าวมุสลิมไทย นักวิจัยโต้คัมภีร์อัล-กุรอาน และศาสนคริสต์ เกี่ยวกับเรื่องแหวกน้ำทะเล เป็นวิทยาศาสตร์
สำนักข่าวรอยเตอร์ – สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยรายงานที่จัดทำโดยทีมงาน แห่งศูนย์วิจัยบรรยากาศของสหรัฐ (NCAR) และมหาวิทยาลัยโคโรลาโด ซึ่งระบุว่า เรื่องราวที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ของศาสนคริสต์ และอัล-กุรอาน ที่เกี่ยวกับศาสดามูซา หรือโมเสส ที่ได้แหวกน้ำทะเลเป็นทางเพื่อนำชาวยิวที่เป็นทาส หนีการติดตามของกองทหารฟาโรห์ เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน อาจมองได้ว่าเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ มากกว่าอภินิหาร

โดย Carl Drews แห่ง NCAR เขียนในแถลงการณ์ว่า ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับลมพายุที่มีผลต่อน้ำทะเล ทีมงานได้ทำสถานการณ์จำลองขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งพบว่า ลมแรงระดับหนึ่งสามารถแยกน้ำให้ออกจากกันตามทฤษฎีพลศาสตร์ของน้ำ และกฎทางฟิสิกส์ ซึ่งทำให้เกิดเส้นทางที่ใช้เดินได้เป็นเวลาสั้นๆ และหลังจากหมดพลังลมแล้วน้ำก็จะกลับมารวมกันอย่างเดิม
Drews และทีมงาน ได้ศึกษากรณีพายุไต้ฝุ่นที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งสามาทำให้เกิดคลื่นยักษ์ และผลกระทบด้านต่างๆ ของลมพายุรุนแรงที่มีต่อน้ำลึก
ทีมของเขาได้จำลองในคอมพิวเตอร์ถึงพิกัดของสถานที่บนฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน ที่น่าจะเป็นสถานที่ที่โมเสสนำทาสชาวยิวมาหยุดอยู่ และจัดทำโมเดลของพื้นที่ที่ควรจะเป็นในช่วงเวลานั้น ซึ่งจะนำไปสู่การที่น้ำทะเลสามารถแยกออกจากกันชั่วขณะ โมเดลดังกล่าวเป็นรูปตัว U ซึ่งเชื่อมแม่น้ำไนล์ และบึงตื้นๆ ที่อยู่ตามแนวฝั่งทะเล
การวิจัยแสดงผลว่า ลมพายุที่แรงขนาด 63 ไมล์ต่อชั่วโมง พัดไม่หยุดตลอด 12 ชั่วโมง สามารถแหวกน้ำได้ลึก 2 เมตร ยาว 3-4 กิโลเมตร กว้าง 5 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะคงอยู่นานประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า การแยกน้ำทะเลสามารถเป็นไปได้โดยใช้ทฤษฎีทางฟิสิกส์ - www.muslimthai.com |