งานสุเหร่ากับคนมุสลิมเป็นของคู่กันมาตั้งแต่อดีตกาล คู่กันมานานแสนนาน นานจนจำไม่ได้ (ที่จำไม่ได้เพราะเกิดไม่ทัน) ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสได้ไปงานสุเหร่าจะได้พบเจอกับคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแคง ไปจนถึงระดับอิหม่าม คอเต๊ปหรือกระทั่งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่ามีการปลูกฝังให้ไปงานสุเหร่ากันตั้งแต่แบเบาะเลยล่ะ ซึ่งก็รวมถึงตัวผมเองด้วย ผมเองก็จำไม่ได้ว่าไปงานสุเหร่าครั้งแรกเมื่อไหร่ แต่เท่าที่นึกออกจนถึงวันนี้ไปมาไม่รู้กี่สิบงานเข้าไปแล้ว เผลอๆอาจจะเหยียบเข้าร้อยงานไปแล้วก็ได้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครไปงานสุเหร่ามากไปกว่ากัน แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ใครมองเห็นช่องทางการตลาดชัดกว่ากันต่างหาก งานสุเหร่าส่วนใหญ่ที่พบมักจะเป็นงานเพื่อหาทุน หารายได้ให้กับสุเหร่านั้นๆ ซึ่งรายได้ของงานสุเหร่าก็จะมาจาก 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ รายได้จากการรับบริจาค และรายได้จากร้านค้า รายได้จากการรับบริจาคผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะการบริจาคในหนทางศาสนาใครจะได้มากได้น้อยเป็นเรื่องของคนบริจาคกับอัลลอฮ (ซบ.) เหนียตยังไงก็ได้อย่างนั้นไป ที่นี้สำหรับในส่วนของรายได้จากร้านค้า ในการจัดงานแต่ละครั้งก็จะมีการเก็บรายได้จากบรรดาร้านต่างๆที่มาตั้ง บางงานก็คิดราคาเป็นล๊อกๆไปเลย แต่บางงานก็บริจาคกันไปแบบเต็มจำนวน หลังหักค่าใช้จ่าย บางเจ้าก็ให้ทั้งทุนทั้งกำไรไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆอะไรเลย สุเหร่าที่จัดงานก็จะได้เงินในแต่ละครั้งมากหรือน้อยแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ส่วนใหญ่ก็มักบรรลุผลตามเป้าเนื่องจากความร่วมมือของคนพื้นที่ ถิ่นใครๆก็รัก และคนอื่นๆที่มาร่วมงานด้วยกับเจตนาที่จะทำบุญ แล้วร้านที่มาออกงานล่ะ นอกจากรายได้และกำไรในแต่ละครั้งที่มาออกงาน เขาได้อะไรอีกบ้าง สิ่งแรกเลย แน่นอนทีเดียวว่าเค้าจะเป็นที่รู้จักของบรรดาผู้มาพบเห็นในงาน ครั้งแรกๆก็อาจจะยังไม่คุ้นกัน แต่ถ้าออกงานบ่อยๆถี่ๆไปเกือบจะทุกงานแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าชื่อติดหูติดตาผู้บริโภคแน่นอน ประการต่อมานอกจากการได้เป็นที่รู้จักแล้ว ถ้าอัธยาศัยดีหน่อยอาจจะสร้างลูกค้าประจำได้เลยทีเดียว เพราะการไปออกร้านตามงานสุเหร่านั้นคือการตลาดทางตรง (Direct Marketing) ได้สัมผัสลูกค้าตัวเป็นๆ นี่คือสิ่งที่บรรดาร้านต่างๆ มีโอกาสที่จะได้แน่ๆแล้วจากการมาออกงานแต่ละครั้ง แล้วถ้าต้องการจะได้มากกว่านี้ล่ะ จะทำอะไรได้อีกบ้าง ??? เราต้องมาดูกันเป็นจุดๆไป ส่วนที่เด่นที่สุดในทุกๆงานคือเวทีกลาง ในงานสุเหร่าเวทีกลางจะไม่ถูกปล่อยว่างเลยยกเว้นเวลาละหมาด และไม่ว่าคนจะไปนั่งฟังหรือไม่ก็ตาม แต่ก็เชื่อมั่นได้เลยว่า ทุกคนที่มางานต้องเห็นเวทีแน่ๆ แล้วก็ยังจะได้ยินเสียงพูดบนเวทีตลอดเวลาไม่ว่าจะเดินอยู่ตรงส่วนไหนของงาน สองจุดนี้แหละครับที่เล่นได้แน่ๆ ถ้าสินค้าของท่านเป็นผู้สนับสนุนงานและสามารถทำให้โลโก้สินค้าไปโผล่อยู่บนเวทีได้ ถือว่าผ่านในกระบวนการสร้างความรับรู้ให้กับลูกค้า แล้วถ้ายังทำให้พิธีกรในงานพูดถึงสินค้าของท่านบ่อยๆได้ คุณจะได้คะแนนบวกในการสร้างการจดจำทันที นอกจากเวทีแล้วจุดอื่นๆในงานก็ยังทำอะไรได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะรับบริจาค ทางเดินต่างๆในงาน บริเวณใกล้ห้องน้ำ ฯลฯ ก็ยังเป็นอีกหลายพื้นที่ๆน่าช่วงชิงการมองเห็น จดจำและรุ้สึกดี ทางหนึ่งสร้างแบรนด์ด้วยการสร้างพื้นที่รับรู้ในตราสินค้า อีกทางหนึ่งสร้างแบรนด์ด้วยการขายโดยนำสินค้าไปบริการลูกค้าถึงที่ แล้วงานสุเหร่าที่ใครๆในชุมชนก็ต้องมา จะคุ้มเกินคุ้มสำหรับท่าน โดย ชานนท์ ยิ้มใย ที่มา นิตยสารริสกี [email protected] |