สำนักข่าวมุสลิมไทย นิวยอร์กจัดนิทรรศการ “1,001 นวัตกรรมมุสลิม” คิดค้นโดยมุสลิม
สำนักข่าวตะวันออกกลาง - ขณะนี้กำลังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “1,001 นวัตกรรมมุสลิม” ขึ้น ณ หอวิทยาศาสตร์แห่งนิวยอร์ก (New York Hall of Science) ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Queens รัฐนิวยอร์ก นวัตกรรมเหล่านี้คิดค้นขึ้นโดยมุสลิม ในสมัยยุคทองของอิสลาม ซึ่งรุ่งโรจน์อยู่ในช่วง 1 พันปีที่ผ่านมา หรือในระหว่างศตวรรษที่ 7 – 17

การคิดค้นของมุสลิมในยุคนั้นเป็นจุดริเริ่มของการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ต่างๆ นำมาซึ่งการต่อยอดของนักประดิษฐ์คิดค้นในยุคต่อๆ มา นักวิทยาศาสตร์หลายคนที่ไม่ได้เป็นมุสลิมได้ฉกฉวยเอาความมีชื่อเสียงไปครอบครอง โดยส่วนมากไม่ได้เอ่ยถึงพื้นฐานที่มาของการคิดค้นในยุคแรกๆ โดยมุสลิม ที่อาจจะล้มลุกคลุกคลาน หรือไม่ได้ผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ แต่เป็นพื้นฐานที่มั่นคงในการพัฒนาต่อของคนรุ่นต่อๆ มาอีกหลายรุ่น
ผู้มาชมนิทรรศการรู้สึกตื่นตะลึงกับความรู้ใหม่ ซึ่งนำเทคโนโลยีปัจจุบันมานำเสนอสิ่งประดิษฐ์ที่มุสลิมคิดค้นขึ้นในสมัยโบราณ หลายคนที่แม้เคยศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมมุสลิมจากเอเชีย แอฟริกา และตอนใต้ของยุโรป ก็เพิ่งได้รับรู้ถึงการคิดค้นที่ทันสมัยของมุสลิมเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้นิทรรศการได้ไปจัดแสดงที่กรุงลอนดอน และอิสตันบูล โดยประสบความสำเร็จมีผู้เข้าชมทะลุเป้ากว่า 800,000 คน ก่อนที่จะมาแสดงที่นิวยอร์กเป็นแห่งแรกในทวีปอเมริกเหนือ

นอกจากจะเป็นการเปิดเผยที่มาของการประดิษฐ์ และผู้ประดิษฐ์คิดค้นมุสลิมแล้ว นิทรรศการนี้ยังท้าทายความคิดเก่าๆ เกี่ยวกับมุสลิม ที่ฝังแน่นอยู่ในความรู้สึกของผู้คนโดยเฉพาะชาวตะวันตก ที่มีความจงชังอิสลามเพราะความไม่รู้ และการปฏิเสธที่จะรับรู้
การวิจัยของศูนย์ Pew Research ในปี 2009 เปิดเผยว่า ร้อยละ 38 ของชาวอเมริกันมีความเห็นว่า อิสลามเป็นศาสนาที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงมากกว่าศาสนาอื่น
ตรงกันข้าม นิทรรศการนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของมรดกทางวัฒนธรรมอันสูงส่งของมุสลิม และยังคัดค้านกับคำกล่าวของผู้รู้ชาวตะวันตกที่มักจะอ้างว่า ชาวตะวันออกไม่ค่อยมีสมองที่จะคิดค้นประดิษฐ์สิ่งต่างๆ และความคิดเหล่านี้ก็ครอบงำชาวตะวันตกมานานนับเป็นศตวรรษ นิทรรศการนี้ก่อให้เกิดความประหลาดใจ และภาคภูมิใจในหมู่ชนอเมริกันมุสลิม ในฐานะที่ศาสนาอิสลามส่งเสริมการแสวงหาความรู้ และวิทยาการใหม่ๆ และสิ่งที่พวกเขาเพิ่งได้รับรู้นั้น ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนส่วนมากในตะวันตก

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตคือ ในขณะที่ยุคทองของมุสลิม (Golden Age of Muslim) กำลังเรืองโรจน์ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เรียกว่ายุคมืด “Dark Ages” ในยุโรป ตามที่กล่าวอ้างถึงในภาพยนตร์สั้นที่แนะนำการเข้าชมนิทรรศการนี้ ภาพยนตร์นี้มีชื่อว่า “1001 Inventions and The Library of Secrets” นำแสดงโดยดาราตุ๊กตาทอง
เบน คิงสลี่ย์ ซึ่งแสดงเป็นนักวิทยาศาสตร์มุสลิมชาวตุรกีในสมัยศตวรรษที่ 12 ชื่อ Al Jazari ในภาพยนตร์เรื่องนี้ อัล-ญาซารี นำพากลุ่มเยาวชนในสมัยศตวรรษที่ 21 เดินทางท่องโลกในยุคเรืองรองของอิสลาม เพื่อพบปะกับนักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรมุสลิมในสมัยนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมการศึกษายอดเยี่ยม (Best Educational Film) ประจำปี 2010 ในการเทศกาลประกวดภาพยนตร์ที่เมืองคานส์

สิ่งประดิษฐ์คิดค้นของ อัล-ญาซารี ที่นำมาแสดงในนิทรรศการนี้ ได้แก่ แบบจำลองนาฬิกาที่เดินด้วยพลังน้ำ นอกจากนั้นมีผลงานการออกแบบเครื่องกลไกในการบิน ของนักประดิษฐ์ในสมัยศตวรรษที่ 19 อับบาส อิบนฺ เฟอร์นาส ซึ่งหลายคนยกย่องให้เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นกลไกในการบินเป็นคนแรก และยังมีการแสดงภาพเขียนของเรือเดินทะเลในสมัยศตวรรษที่ 15 ที่มีขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล ซึ่งนายพลเรือมุสลิมชาวจีน Zheng Heใช้เดินทางท่องทะเลไปสำรวจรอบโลก นิทรรศการนี้ยังมีการแสดงผลงานการประดิษฐ์คิดค้นของศาสนิกอื่นในสมัยเดียวกัน อาทิ Maimonides นักฟิสิคซ์ชาวยิวในศตวรรษที่ 12 ที่ทำงานร่วมกับนักปรัชญามุสลิมในเมืองคอร์โดบา ประเทศสเปน การทำงานร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ที่มีศรัทธาต่างกัน อยู่บนพื้นฐานของความรู้ที่พัฒนามาจากนักคิดในสมัยโรมัน และกรีก ซึ่งนักประดิษฐ์คิดค้นของยุโรป ก็นำความรู้ในยุคทองของอิสลามไปพัฒนาต่อยอดขึ้นอีก ในยุคเรเนสซองซ์ (ยุควิทยาการเฟื่องฟู) ของยุโรปซึ่งเกิดขึ้นหลังจากนั้นอีกหลายร้อยปี

นิทรรศการนี้ริเริ่มจัดทำโดยมูลนิธิ Science, Technology and Civilisation แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นองค์กรทางวิทยาการที่ไม่แสวงหาผลกำไร และไม่สังกัดศาสนา กำหนดแสดงในนิวยอร์กจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ หลังจากนั้นจะนำไปจัดแสดงที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์แคลิฟอร์เนีย ในเมืองลอสแองเจลิส จนถึงสิ้นปี 2011 และจะเปิดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์ เนชั่นแนล จีโอกร๊าฟฟิค (National Geographic Museum) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี.ในปี 2012 - www.muslimthai.com |