สำนักข่าวมุสลิมไทย

100,000 converts to Islam living in the UK - with white women most keen to embrace Muslim faith

ลอเรน บูธ น้องเมียของอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่ แบลร์

หนังสือพิมพ์เดลี่ เมล์ ออนไลน์ - กลุ่ม Faith Matters ซึ่งเป็นกลุ่มพหุศรัทธาได้เปิดเผยการวิจัยที่จัดทำโดย Kevin Brice แห่งมหาวิทยาลัย Swansea ซึ่งระบุว่า ชาวอังกฤษที่เข้ารับอิสลามมีจำนวนเลยหลัก 1 แสนคนแล้ว และส่วนมากเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงาน เป็นผู้ที่มีหัวคิดแบบก้าวหน้าและทันสมัย ตัวเลขนี้แสดงว่าสตรีชาวอังกฤษที่เข้ารับอิสลามเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในรอบ 10 ปี พวกเธอส่วนมากเป็นหญิงผิวขาวที่กล่าวว่า รู้สึกเบื่อหน่ายในลัทธิบริโภคนิยม และความเสื่อมศีลธรรมในสังคม อย่างไรก็ตามองค์กรเฟธ แม๊ทเทอร์ ได้รายงานว่า สตรีอังกฤษที่เข้ารับอิสลามส่วนมากมีความเห็นว่า ศาสนาอิสลามสามารถไปกันได้ดีกับสังคมแบบตะวันตก และเน้นย้ำว่า กลุ่มสตรีที่เข้ารับอิสลามนี้เป็นคนปกติธรรมดาทั่วไป ที่มีแนวคิดเกี่ยวกับศาสนาอิสลามในแบบเดียวกัน รายงานระบุว่า ในปี 2010 เพียงปีเดียว มีชาวอังกฤษหญิง-ชาย เข้ารับอิสลามประมาณ 5,200 คน ในจำนวนนี้ 1,400 คนอาศัยอยู่ในลอนดอน 2 ใน 3 ของจำนวนนี้เป็นผู้หญิง ซึ่งร้อยละ 70 ของหญิงที่เข้ารับอิสลามเป็นคนผิวขาว และอยู่ในวัย 27 ปี

    ในปี 2001 ประมาณการณ์ของชาวอังกฤษที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามอยู่ที่ 60,000 คน ซึ่งหลังจากนั้นได้เกิดการแพร่ขยายของเหตุการณ์ความรุนแรงจากแนวคิดอิสลามสุดโต่ง รวมทั้งการวางแผนก่อการร้ายซึ่งครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม

Nicky Reilly ผู้เปลี่ยนมานับถืออิสลามกลายเป็นผู้วางแผนก่อเหตุร้าย โดยพยายามจะระเบิดร้านอาหารในเมืองบริสตอล โดยอีก 2 คน คือ Richard Reid ซึ่งซุกระเบิดในรองเท้า และ Germaine Lindsay ซึ่งก่อเหตุระเบิดในเดือนกรกฎาคม

รายงานระบุว่า ผู้เข้ารับอิสลามใหม่ที่เปลี่ยนมาเป็นคนหัวรุนแรงมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น วัฒนธรรมแบบอังกฤษที่ผู้เข้ารับอิสลามมองว่าเป็นความเหลวแหลกได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความเมามายหัวราน้ำ การขาดศีลธรรม ความเสรีทางเพศ และการคลั่งไคล้วัตถุนิยม

หมายเหตุบรรยายภาพ : ลีน อะลี วัย 31 ปี อดีต ดีเจ.จากเดอเก้นแฮม ในแคว้นแอสเซค ยอมรับว่าก่อนเข้ารับอิสลาม เธอเป็นแบบวัยรุ่นตะวันตกทั่วๆ ไป ที่ใช้ชีวิตแทบทุกคืนในงานปาร์ตี้ สวมเสื้อผ้าที่ทั้งรัดรึง และเปิดเผยร่างกายตามแฟชั่น รวมทั้งมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย แต่เบื้องหลังการใช้ชีวิตที่สิ้นเปลืองนี้ เธอยังรู้สึกถึงการขาดในบางสิ่งตลอดเวลา ต่อเมื่อได้มาพบกับเพื่อนชายมุสลิมที่มหาวิทยาลัยขณะเมื่ออายุได้ 19 ปี ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสนใจในอิสลาม และเปลี่ยนศาสนาหลังจากได้ศึกษาจนถ่องแท้แล้ว เธอมีความสุขที่ได้นมาซวันละ 5 ครั้ง และได้ศึกษาเกี่ยวกับอิสลามที่มัสยิด   ปัจจุบันเธอแต่งกายแบบฮิญาบ และประกาศว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่แสดงถึงความเป็นอิสระ ที่ไม่ตกเป็นทาสของแฟชั่น และตัวเธอก็เป็นอิสระจากสังคมที่เหลวแหลก และรู้สึกยินดีที่ไม่ได้เป็นผลพวงของสังคมเช่นนี้

การศึกษาวิจัยนี้ยังได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างอื่น อาทิ

- กว่า 1 ใน 4 ของผู้เข้ารับอิสลามยอมรับว่า มีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเอง ระหว่างการเป็นมุสลิมที่เคร่งครัด กับการใช้ชีวิตในอังกฤษ

- 9 ใน 10 กล่าวว่า การเปลี่ยนมารับอิสลามทำให้แต่งตัวสุภาพเรียบร้อยขึ้น

- สตรีอังกฤษที่เข้ารับอิสลามกว่าครึ่ง ที่เริ่มคลุมฮิญาบ และร้อยละ 5 ของจำนวนนี้คลุมบุรก้า (ปิดหน้า)

- กว่าครึ่งของสตรีอังกฤษที่เข้ารับอิสลามกล่าวว่า ใช้ชีวิตค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากครอบครัว-ญาติ พี่น้อง มีทัศนคติในทางลบต่ออิสลาม

- ปีที่ผ่านมา ลอเรน บูธ น้องเมียของอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่ แบลร์ ทำให้สังคมชาวอังกฤษตื่นตะลึงด้วยการประกาศเข้ารับอิสลาม

   Fiyaz Mughal ผู้อำนวยการองค์กร Faith Matters กล่าวว่า สื่อต่างๆ แสดงให้เห็นความรู้สึกในด้านลบต่อการเข้ารับอิสลาม และเห็นว่าการเข้ารับอิสลามเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ได้มีการนำศาสนาอิสลามไปเกี่ยวข้องกับแนวคิดก่อการร้าย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมแบบอคติที่ปฏิบัติกันมาช้านานในตะวันตก- www.muslimthai.com

สนใจศึกษาอิสลาม หรือเข้าอบรมมุสลิมใหม่ได้ ที่มูลนิธิสันติชน รามคำแหง 53/ลาดพร้าว 112 (สอนทุกวันอาทิตย์)

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.oknation.net/blog/knowislam

โครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม  มูลนิธิสันติชน (คลิกเว็บไซต์)
439 ถนนลาดพร้าว 112 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร. 0 2539 4693-5 ต่อ 19  โทรสาร  0 2539 4696