สำนักข่าวมุสลิมไทย  นักศึกษาสาขาภาพยนตร์ในแมนฮัตตัน ก่อเหตุอุกอาจแทงมุสลิม

สำนักข่าว CNN – Michael Enright นักศึกษาสาขาภาพยนตร์วัย 21 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในคณะ Visual Arts ในแมนฮัตตัน ก่อเหตุอุกอาจที่ทำให้คนที่รู้จักคุ้นเคยกับเขารู้สึกตกตะลึง

Michael Enright นักศึกษาสาขาภาพยนตร์

Mark Nell นักสืบตำรวจนิวยอร์กกล่าวว่า เอ็นไรท์ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมรุนแรงระดับ 2 ในการจู่โจม และพยายามฆ่า เนื่องมาจากความเกลียดชัง รวมทั้งข้อหาที่มีความรุนแรงระดับ 4 ฐานครอบครองอาวุธมีด โดยเมื่อคืนวันอังคาร (24/08) เขาได้โดยสารรถแท็กซี่ ที่ขับโดย Ahmed Sharif ชาวอเมริกันเชื้อสายบังคลาเทศ วัย 43 ปี ซึ่งการพูดคุยในตอนแรกก็เป็นไปอย่างมีไมตรีจิต โดยเอ็นไรท์พยายามสอบถามถึงพื้นเพของชารีฟ และเขามาอยู่อเมริกานานเท่าไหร่แล้ว รวมทั้งถามว่าเขาเป็นมุสลิมหรือเปล่า และถือศีลอดด้วยมั้ย

Ahmed Sharif ชาวอเมริกันเชื้อสายบังคลาเทศ

หลังจากเงียบไป 2-3 นาที ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเอ็นไรท์เริ่มด่าชารีฟอย่างหยาบคาย และตะโกน “อัสลาม มุอะลัยกุม” พร้อมกับชักมีดขึ้นมาทำร้ายร่างกายของชารีฟ โดยชารีฟมีแผลถูกปาดที่คอ หน้า ไหล่ และที่มือ ในลักษณะที่พยายามป้องกันตัวเอง เรื่องจบลงโดยชารีฟพยายามดิ้นรนหนีลงจากรถ และวิ่งไปเรียกตำรวจ ซึ่งจับเอ็นไรท์ได้ในที่สุด

สาเหตุที่ใครหลายๆ คนชอคกับการกระทำของเอ็นไรท์ เป็นเพราะเขามีประวัติเคยเป็นอาสาสมัครของกลุ่ม Intersections International ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร ที่มุ่งหวังเสริมสร้างความสันติสุขแก่ประชาคมโลก โดยไม่เลือกศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ 

เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา เอ็นไรท์ เดินทางไปอัฟกานิสถาน โดยได้ทุนสนับสนุนบางส่วนจากองค์กรนี้ เขาได้ไปถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวิตทหารอเมริกันที่ปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถาน เพื่อใช้ในวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับสาขาวิชาที่เรียน และยังร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการเยียวยาจิตใจทหารผ่านศึก ที่ประสบกับความโหดร้ายจากสงคราม โดยการเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลาย และเปิดเผยปมต่างๆ ที่ทำให้เกิดบาดแผลในส่วนลึกจิตใจ

Robert Chase ผู้อำนวยการบริหาร Intersections International กล่าวว่า เอ็นไรท์เข้ามาร่วมงานในฐานะอาสาสมัครด้วยความกระตือรือร้น และภายหลังเขายังมีส่วนอย่างมาก ในการทำงานเพื่อเชื่อมผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม และต่างศาสนา ให้หลอมรวมกลมกลืนกันอย่างสันติ ซึ่ง Chase กล่าวว่า เขาไม่อาจหยั่งลึกลงไปในจิตใจของเอ็นไรท์ได้ว่า เหตุใดจึงคิดก่ออาชญากรรมนี้ขึ้น

เหตุที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผู้บริหารรัฐนิวยอร์ก เดวิด ปีเตอร์สัน ออกมากล่าวว่า ไม่อาจยอมให้อคติ และความไม่รู้แพร่พิษทำลายชุมชนชาวนิวยอร์กได้อีกต่อไป ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และทำงานหนักเช่นชารีฟ จะต้องไม่ถูกปฏิเสธความน่าเคารพยกย่องที่เขาควรได้รับ

เขายังกล่าวอีกว่า ความรุนแรงที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ต้องเรียกร้องให้สังคมหันกลับมาเปิดใจปรึกษาหารือกัน เกี่ยวกับโครงการสร้างศูนย์อิสลามและมัสยิด ด้วยความกลมเกลียว และเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเขาเชื่อว่าจะช่วยทำให้ชาวนิวยอร์กได้กลับมามีความสามัคคีกันอีกครั้งหนึ่ง

ชารีฟอพยพมาอยู่อเมริกาเมื่อกว่า 25 ปีที่แล้ว เขาขับรถแท็กซี่มา 15 ปี มีลูกที่เกิดเป็นพลเมืองสหรัฐ 4 คน เขากล่าวว่า ไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหดหู่ และสิ้นหวัง ในการเป็นมุสลิมอเมริกันเท่าครั้งนี้มาก่อน

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กล่าวว่า เอ็นไรท์อาจทำไปเพราะความมึนเมา เนื่องจากพบขวดเหล้าสก๊อตช์เปล่าอยู่ในเป้หลังของเขา  - www.muslimthai.com