มั่นใจศักยภาพขนเงินมาลงทุนเมืองสตูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้นำคณะบรรดาหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัดสตูลไปเข้าร่วมประชุมกับสถานกงสุลใหญ่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย เนื่องในโอกาสที่ทางรัฐปีนังจัดโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งมีเอกอัครราชทูตประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ กงสุลเมืองโกตาบารู และเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้านเศรษฐกิจเข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้การประชุมร่วมครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว รวมทั้งการลงทุนในพื้นที่จังหวัดสตูลกับรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย
นายสุเมธ กล่าวว่า ทางจังหวัดสตูลได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าในปี 2553 เป็นต้นทางจังหวัดสตูลต้องมีสินค้าส่งออกเข้าไปในประเทศมาเลเซียจากเดิมปีละ 300 ล้านบาท จะต้องเป็นปีละ 1,000 ล้านบาทซึ่งจะทำให้การส่งออกเฟื่องฟูเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้การไปประชุมครั้งนี้ทางจังหวัดได้นำประธานหอการค้าจังหวัดสตูล, ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสตูล, นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล, นายกสมาคมโรงแรม และบรรดาหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ หัวหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจังหวัดสตูล, หัวหน้าประมงจังหวัดจังหวัดสตูล, สำนักงาน ปศุสัตว์จังหวัดจังหวัดสตูล ซึ่งได้กำชับให้บรรดา หัวหน้าส่วนดังกล่าวเร่งดำเนินงานอย่างเต็มสูบ อย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานเรื่องการส่งออกดังกล่าว
นายสุเมธกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางพบปะหารือกับนักลงทุนของมาเลเซีย ที่หอการค้าจีนเรื่องจะทำอย่างไรให้นักลงทุนมาเลเซียมาลงทุนให้มากที่สุด โดยการนำจุดแข็งของจังหวัดที่มีอยู่แล้วในแต่ละด้าน มาเป็นจุดขายเพื่อทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เช่นจะต้องประชาสัมพันธ์การเป็นเมืองชายแดนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยเฉพาะเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดสตูลหลังจากก่อนหน้านี้นักลงทุนในประเทศมาเลเซียมองว่าสตูลมีเหตุการณ์เหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความชัด เจนมากกว่านี้ เพราะนักลงทุนหรือชาวมาเลเซีย ยังมองว่าสตูลเป็นพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ซึ่งภายหลังได้แจกแจงอย่างละเอียดนักลงทุนมาเลเซียเข้าใจอย่างโจ่งแจ้งตอบรับจะเข้ามา ลงทุน
สำหรับสินค้าฮาลาลทางจังหวัดสตูลกำลังเตรียมการที่ส่งไปเปิดตลาดในประเทศมาเลเซียเพื่อเปิดตลาดในต่างประเทศให้ประชาชน ทางโน้นได้รู้จักสินค้าในพื้นที่จังหวัดสตูลซึ่งทางจังหวัดสตูลจะมีการแจกแจงเรื่อง กระบวนการผลิต และขั้นตอนการออกเครื่องหมายฮาลาล อย่างละเอียดเพื่อให้ผู้บริโภคของประเทศมาเลเซียเกิดความมั่นใจในกระบวนการที่ถูก ต้องตามหลักการทางศาสนาอิสลาม ส่วนเรื่องประชาสัมพันธ์การส่งออกและการท่องเที่ยวนั้นทางจังหวัดสตูลกำลังเร่งดำเนินการอยู่อย่างเต็มที่ต่อเนื่องเพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาตามเป้าหมายให้มากที่สุด
ด้าน นายวรเดช วีระเวคิน กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง กล่าวว่า สำหรับเมืองปีนังนั้นเป็นรัฐ ที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากเป็นอันดับ 3 ของมาเลเซีย โดยเฉพาะด้านการศึกษา ท่องเที่ยว และการค้า จังหวัดสตูลจึงควรจะดึงดูดชาวมาเลเซียให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสตูลให้มากในขณะเดียวกันจังหวัดสตูลจะต้องศึกษาวัฒนธรรมวิถีชีวิตของประชาชนในมาเลเซียให้ดีด้วยเพื่อจะได้นำมาปรับใช้ตามความต้องการของชาวมาเลเซียได้อย่างดีเยี่ยม และการประชุมหารือด้านการค้าระหว่างจังหวัดสตูลกับนักลงทุนรัฐเปอร์ลิสในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งโดยเฉพาะ ด้านการท่องเที่ยวที่ไม่เน้นผูกพันกับประเทศประเทศหนึ่งแต่จะมีการร่วมมือกับปีนัง ไทย-สตูล และสิงคโปร์ โดยเฉพาะในปีหน้า 2553 รัฐปีนังรับว่าจะขยายสายการบินไปสิงคโปร์จาก 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 80 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คาดว่าสามารถดึงนักท่องเที่ยวปีนังและอำเภอหาด ใหญ่ จังหวัดสงขลา
นายสุเมธกล่าวว่าสำหรับเรื่องการค้าชายแดน ที่ผ่านมาจังหวัดสตูลมีมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมกว่า 300 ล้านบาทต่อปีและมีการค้ากับรัฐปีนังน้อยมาก เนื่องจากจังหวัดสตูลไม่มีท่าเทียบเรือที่มาตรฐาน ปีนังทำการค้ากับท่าเรือ กันตัง จังหวัดตรังมาโดยตลอด ดังนั้นจังหวัดสตูลกำลังเร่งปรับปรุงท่าเทียบเรือศุลกากรตำบลตำมะลัง อำเภอเมืองสตูลให้เกิดความทันสมัยเพิ่มมากขึ้นสามารถขนส่งตู้คอนเทเนอร์สินค้าขนาดใหญ่ระหว่างสตูลกับรัฐปีนังวันละ 1 เที่ยวซึ่งเส้นทางดังกล่าวใช้เวลาในการเดินเรือเพียง 3 ชั่วโมงซึ่งนักลงทุนมาเลเซีย พร้อมที่จะร่วมมือในการดำเนินกิจการดังกล่าวเพราะลดต้นทุนมาก โดยเฉพาะอิฐบล็อก และไม้ยางพาราที่ทางรัฐปีนังต้องการคาดว่าในปี 53 มูลค่าการส่งออกสินค้าทำรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 1,000 ล้าน บาทต่อปี. |
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน