จากกรณีที่ ทีมฟุตบอลเยาวชนหญิงไทย ไม่ได้เข้าแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 14-25 ส.ค.53 โดย อิหร่าน ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันตามเดิม เนื่องจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อนุญาตให้นักฟุตบอลหญิงมุสลิมที่ใส่ผ้าคลุมหรือ "ฮิญาบ" ลงแข่งขันได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาและการเมือง สำหรับทัพนักกีฬาไทย ทำให้จำนวนที่ผ่านคัดเลือกเข้าแข่งขันแน่นอนแล้วล่าสุด ลดลงเหลือที่ 22 คน จาก 11 กีฬา คือ วินด์เซิร์ฟ 1, ยิงปืน 1, จักรยาน 4, ยิมนาสติก 1, ว่ายน้ำ 2, เรือพาย 2, เทควันโด 1, แบดมินตัน 2, เรือใบ 2, เทเบิลเทนนิส 2, ยกน้ำหนัก 4 "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ในมหกรรมกีฬาดังกล่าว เปิดเผยว่า ตอนนี้ต้องรอเพิ่มเติมจาก กรีฑา ที่ส่งเข้าแข่งขัน 12 คน รวมทั้งวอลเลย์บอลหญิง หรือ ชาย แต่ยอมรับว่านักตบลูกยาง คงจะคว้าโควตาลำบาก เพราะคัดจากศึกชิงแชมป์เอเชีย เพียงทีมเดียว ขณะเดียวกัน ทีมวอลเลย์บอล ก็ตั้งเป้าไว้เพียงติด 1 ใน 8 เพื่อไปเล่นวอลเลย์บอลเยาวชนโลก ในปีหน้า ดังนั้น จากจำนวนนักกีฬาดังกล่าว จะส่งผลต่อโควตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กำหนดไว้ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนนักกีฬา และได้ทำเรื่องขอเพิ่มเติมไปแล้ว แต่บัดนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากไอโอซี นายธนา กล่าวต่อว่า จากโควตาดังกล่าว ณ ปัจจุบัน จะได้เจ้าหน้า 7-8 คน ซึ่งคาดว่า สุดท้ายแล้ว ทัพไทย น่าจะผ่านคัดเลือกรวม 30 คน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน หักตนเองที่เป็นหัวหน้าคณะ และจะไม่มีผู้ช่วย ก็ไม่สามารถแบ่งไปดูแลครบทุกชนิดกีฬา เป็นปัญหาต่อนักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังเป็นเยาวชน อาจมีบางชนิดกีฬาต้องดูแลกันเอง แต่จะพยายามช่วยเต็มที่ วิธีแก้ไขอาจทำบัตรเดย์พาส ให้กับเจ้าหน้าที่ ทำหน้าที่วันต่อวัน นายธนา กล่าวต่อว่า ในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในวันที่ 10 พ.ค.53 เวลา 13.00 น. จะหารือเรื่องกิจกรรมของเจ้าภาพ ที่มีตลอดการแข่งขัน จะต้องอบรมนักกีฬา 2 ครั้ง เพราะอยากให้มีส่วนร่วมที่สุด โดยตอนเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 1 ก็ไม่ได้ร่วมกิจกรรมแม้แต่ครั้งเดียว |