บิ๊กพท. ปูด นายกฯ เคยเสนอ โรดแมป 5 ข้อมาแล้ว

รายงานข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า  แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ประเมินสถานการณ์กันภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเสนอโรดแมป 5 ข้อเพื่อสร้างความปรองดองโดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความแปลกใจให้กับแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงเป็นอย่างมาก เนื่องจากโรดแมปดังกล่าวเคยผ่านการนำเสนอและการเจรจาต่อรองในทางลับกันหลายครั้งผ่านหลายระดับทั้งที่เป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เวทีหลักของการเจรจาอยู่ระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับแกนนำหลักของคนเสื้อแดง โดยในซีกรัฐบาลผ่านทางนายกอร์ปศักดิ์  สภาวะสุข เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และมรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ในขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงคือนายวีระ  มุสิกพงษ์ ประธานนปช. โดยการเจรจาครั้งล่าสุดมีขึ้นประมาณวันที่ 28และ29 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้ยื่นข้อเสนอยุบสภาภายใน 6 เดือนรวมเลือกตั้ง แต่ทางนปช.ได้ปฎิเสธไปและเสนอเงื่อนไขให้ยุบสภาภายใน 3 เดือนรวมเลือกตั้งแต่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้  จากนั้นการเจรจาก็เงียบหายไปจนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ก็มาเสนอเรื่องนี้ต่อสาธารณชน

ข่าวแจ้งว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงประเมินกันว่าการที่นายอภิสิทธิ์ ออกมานำเสนอเรื่องนี้ในสถานการณ์ที่เสื้อแดงอยู่ในภาวะตกต่ำหลังจากที่บุกรพ.จุฬาฯ นั้นเป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ต้องการให้คนเสื้อแดงออกมาปฎิเสธเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจะส่งผลในทางลบและกระแสสังคมตีกลับไปยังเสื้อแดงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลจะถูกมองว่าเป็นฝ่ายเสียสละ อีกทั้งมีความกังวลว่าหากมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปเป็นนายชวน  หลีกภัย โรดแมปดังกล่าวอาจจะถูกยกเลิก นอกจากนี้หลังจากนายอภิสิทธิ์ออกมาแถลงโรดแมปดังกล่าว แกนนำพรรคเพื่อไทยได้โทรศัพท์สอบถามไปยังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งได้รับคำตอบว่านายอภิสิทธิ์ไม่เคยหยิบเรื่องนี้มาหารือแต่อย่างใด

ข่าวแจ้งว่า ในการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับว่ามีการพูดถึงเรื่องคดีความของแกนนำคนเสื้อแดงจริง โดยเฉพาะการให้รัฐบาลหยุดกล่าวหาเรื่องการล้มล้างสถาบันและก่อการร้ายแต่ไม่ได้มีการเสนอไปถึงขั้นนิรโทษกรรมในส่วนคดีอื่นๆ แลกกับการที่ทางกลุ่มนปช.จะไม่ส่งคดีไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ สั่งใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามเข้าสลายการชุมนุม นอกจากนี้ยังมีประเด็นการนิรโทษกรรมทางการเมือง แต่แกนนำพรรคเพื่อไทยหารือแล้วและเห็นว่าจะเป็นผลดีกับพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าเพราะมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบพรรคและได้รับอานิสสงส์

จากกรณีดังกล่าว ขณะที่พรรคเพื่อไทยแม้จะมีการนิรโทษกรรมได้จริงก็ไม่ได้ประโยชน์เพราะอดีตกรรมการบริหารไทยรักไทยจำนวนมากไม่ได้ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยแล้ว  และบางส่วนก็ไม่ต้องการกลับมาเล่นการเมือง ขณะที่จำนวนกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนมีจำนวนเพียง 37 คนเท่านั้นและไม่ใช่แกนนำหลัก ประเด็นนี้จึงถูกตัดออกไปเพราะเชื่อว่ากระแสสังคมจะไม่เอาด้วย

ข่าวแจ้งว่า สำหรับการแก้เกมของเสื้อแดงนั้นแนวทางที่หารือคือจะยื้ดเวลาให้ได้มากที่สุด พร้อมกับเสนอให้มีการเปิดการเจรจาอย่างเปิดเผยระหว่างรัฐบาลและแกนนำเสื้อแดงอีกครั้ง

ส.ว.ใต้ชี้โรดแมปนายกฯ แนวปฏิบัติยังไม่ชัด แนะดึงทุกส่วนร่วมหาขั้นตอน


"นพดล"ไม่เชื่อนายกฯจริงใจทำ"โรดแมป" ติงเลือกตั้ง14พ.ย.นานไป

ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอโรดแมป 5 ข้อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า เป็นการหาทางลงให้ตัวเองมากกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อในความจริงใจของนายอภิสิทธิ์ สิ่งที่ระบุก็ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งเรื่องคดีการเมือง รัฐสวัสดิการและเสรีภาพสื่อมวลชน ซึ่งฝ่ายอื่น ฝ่ายคนเสื้อแดงจะต้องตอบสนองอย่างระมัดระวัง คำนึงถึงความรู้สึกประชาชนด้วย อย่าเพิ่งไปรีบตะครุบ และต้องถามพรรคร่วม รวมทั้งคนในพรรคประชาธิปัตย์ก่อนว่า เห็นด้วยหรือยังกับข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม แต่การที่มีทางออกให้ประเทศถือเป็นสิ่งที่ดี     

นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงข้อเสนอโรดแมป 5 ข้อ ของนายกรัฐมนตรีว่า ขอสนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว เพราะเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะได้เห็นปัญหาคลี่คลาย ซึ่งโรดแมปของนายกฯ ครอบคลุม ทั้งในแง่การปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปสื่อและการสร้างความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆ แม้กระทั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์การชุมนุม แต่แนวทางการปฏิบัติขอให้ยืนอยู่บนแนวทางประชาธิปไตยด้วย เพราะเป็นหลักสากล ที่สามารถเทียบเคียงนานาชาติได้ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของนายกฯ ยังขาดแนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ดังนั้น ต้องให้ทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการหารือเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันอย่างจริงจัง  ซึ่งคงไม่ใช่มาพูดคนเดียวหรือพูดวันเดียวจะจบ

นายสิริวัฒน์ กล่าวว่า ระยะเวลาเพียง 5 เดือน ในการดำเนินการตามข้อเสนอ 5 กรอบนั้น ไม่ต้องสนใจว่าจะทำได้จริงมากน้อยแค่ไหน เอาแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ยุติได้ก่อนก็น่าพอใจแล้ว ส่วนการจะแก้ปัญหาในระยะยาว ก็แค่วางแนวทางที่เป็นรูปธรรมไว้ ซึ่งถ้ายังไม่ประสบผลสำเร็จก็ไม่เป็นไร ก็ให้รัฐบาลใหม่ และภาคส่วนต่างๆ เข้ามาร่วมแก้ปัญหาต่อไป เพราะปัญหาที่หมักหมมมายาวนานเช่นนี้ อาจต้องใช้เวลาเยียวยา จะแก้ทีเดียวให้ได้ผลทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก ซึ่งคนไทยทุกภาคส่วนต่างๆจึงต้องร่วมกันฝ่าฟัน

เมื่อถามว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และผู้อาวุโสของพรรคยังไม่ทราบข้อเสนอของนายกฯ นายสิริวัฒน์ กล่าวว่า ตนห่วงเรื่องนี้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องเร่งทำความเข้าใจและขอเสียงสนับสนุนจากลูกพรรค รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล เพราะแกนนำ นปช.ออกมาแถลงว่า จะขอดูท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลและในพรรคประชาธิปัตย์ก่อน ซึ่งขอให้กำลังใจนายกฯ เพื่อที่จะเร่งสามารถนำพาประเทศให้เกิดความปรองดองและเดินหน้าสู่ความสำเร็จ

นายนพดล กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า ยังคิดว่านานไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าเวลาไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญที่การแก้ไขความเท่าเทียม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คดีความต่างๆที่เกิดขึ้น การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม จะยุติลงอย่างไร บ้านเมืองของเราจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างไร