'เบลเยียม' เล็งสั่งแบน สตรีมุสลิมสวมชุดบุรก้า

 รัฐสภาเบลเยียมเตรียมออกกฎหมายห้ามสตรีมุสลิมแต่งกายชุดบุรก้า  ซึ่งคลุมมิดชิดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าไม่เว้นแม้แต่ดวงตา  คาดจะเป็นมาตรการเด็ดขาดครั้งแรกที่ประกาศใช้ในยุโรป
     เมื่อวันที่   31  มีนาคมที่ผ่านมา  คณะกรรมาธิการกิจการภายในประจำรัฐสภา  ลงมติเป็นเอกฉันท์สั่งแบนการแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลามที่กำหนดให้สตรีต้องสวมชุดและผ้าคลุมหน้าปกปิดทั้งตัว  ซึ่งรวมถึงชุดแบบนิกอบและบุรก้าด้วย
     หากผู้ใดฝ่าฝืนสวมชุดดังกล่าวเดินตามสถานที่สาธารณะจะถูกปรับเป็นเงิน  15-25  ยูโร  หรือจำคุกสูงสุด  7  ปี  หรือทั้งจำทั้งปรับ  เว้นเสียแต่ว่าได้รับการอนุญาตจากตำรวจให้สวมได้
     พรรครัฐบาลและฝ่ายค้านเบลเยียมต่างเห็นพ้องผลักดันมาตรการนี้  จึงคาดว่าร่างกฎหมายน่าจะผ่านสภาได้อย่างง่ายดายในวันพฤหัสบดี  
     อย่างไรก็ดี  จูดิธ  ซันเดอร์แลนด์  นักวิจัยอาวุโสจากฮิวแมน  ไรท์ส  วอช  เตือนว่าการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวจะนำมาซึ่งวิกฤติการเมืองที่ร้าวลึกซ้ำเติมความขัดแย้งเดิมที่มีอยู่ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล  "ผมเห็นว่าร่างกฎหมายนี้อาจไปละเมิดสิทธิ์ของชาวมุสลิมที่เต็มใจจะแต่งกายตามหลักศาสนาของเขา"  ซันเดอร์แลนด์ให้ความเห็นต่อ
     เขาชี้ด้วยว่า  ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ  บ่งชี้ว่าการสวมผ้าคลุมปกปิดทั้งใบหน้าแบบสตรีมุสลิม   มีผลกระทบอย่างไรต่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ  ในสังคม  ซันเดอร์แลนด์มองว่าการสั่งห้ามสวมบุรก้าไม่น่าจะช่วยให้สตรีมุสลิมมีสิทธิเสรีภาพในการแต่งกายมากขึ้น  หากแต่จะทำให้พวกเธอต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านมากกว่า
     เบลเยียมพยายามผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว  ท่ามกลางวิกฤติการเมืองครั้งสำคัญเมื่อพรรคร่วมขู่จะถอนตัวออกจากรัฐบาล  หากการเจรจาแบ่งสรรอำนาจระหว่างชุมชนชาวฝรั่งเศสและชุมชนชาวแฟลนเดอร์ไม่ได้ข้อยุติภายในเส้นตาย  24  ชั่วโมง
     ชาวแฟลนเดอร์  ซึ่งพูดภาษาดัตช์  เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ  มีสัดส่วน  60%  ของประชากรเบลเยียมทั้งหมด  10.5  ล้านคน.