สธ.ออกระเบียบให้สิทธิรักษาฟรี ผู้นำศาสนา และผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่ชาติ พร้อมลดค่าห้องพิเศษ อาหารพิเศษร้อยละ 50 กระทรวงสาธารณสุขออกระเบียบให้สิทธิรักษาฟรี ผู้นำศาสนา และผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่ประเทศชาติ พร้อมลดค่าห้องพิเศษ อาหารพิเศษร้อยละ 50 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าได้ทำการลงนามออกระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลฉบับที่ 5 พ.ศ.2553 ไปแล้ว เพื่อให้สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลแก่กรรมการอิสลามประจำจังหวัด กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น พระภิกษุ และสามเณร รวมทั้งบุคคลที่ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ ให้ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลโดยไม่คิดมูลค่า และหากอยู่ห้องพิเศษจะได้รับสิทธิส่วนลดค่าห้องพิเศษและอาหารพิเศษ ร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้ โดยระเบียบนี้ ได้กำหนดการรับสิทธิเป็น 2 ประเภท คือประเภทที่ 1 ได้รับสิทธิทั้งตนเอง รวมถึงบุคคลในครอบครัว มีทั้งหมด 7 กลุ่ม ประกอบด้วยผู้ได้รับพระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรป, ทหารและเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งไปร่วมรบกับสหประชาชาติ ณ ประเทศเกาหลี หรือไปทำการรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม, อาสาสมัครมาลาเรียตามโครงการของกระทรวงสาธารณสุข, ช่างสุขภัณฑ์หมู่บ้านตามโครงการของกรมอนามัย, ผู้บริจาคเงิน ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นใดให้กับกระทรวงสาธารณสุขซึ่งคำนวณเป็นเงินแล้วไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท ,ผู้บริหารโรงเรียนและครูของโรงเรียนเอกชนที่สอนศาสนาอิสลาม ควบคู่กับวิชาสามัญหรือวิชาชีพ ในเขตจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต และกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รวมถึงกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย ประเภทที่ 2 ได้รับสิทธิเฉพาะตัว ประกอบด้วย 10 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญราชการชายแดน, ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, ทหารและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปราบปรามผู้ก่อการร้าย , บุคคลผู้ได้รับบาดเจ็บจากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามผู้กระทำความผิด, บุคคลผู้ถูกโจรทำร้ายร่างกาย, สมาชิกผู้บริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ซึ่งมีหนังสือรับรองจากสภากาชาดไทยว่าได้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป, หมออาสาหมู่บ้านตามโครงการของกระทรวงกลาโหม, ผู้บริจาคเงิน ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นใดให้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคำนวณเป็นเงินแล้วไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ,พระภิกษุ และสามเณร และอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ทั้งนี้ระเบียบดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป |