ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 มี.ค. ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ. 119/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5,พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี,พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบังซ่อนเร้นทำ ลายศพ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำหรือไม่กระทำการใด กรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย พระญาติกษัตริย์ไฟซาล ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ปี 2533 โดย ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้ว สอบคำให้การ ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ต่อมาอัยการโจทก์แถลงขอนำพยานเข้าสืบ 206 ปาก ใช้เวลา 32 นัด โดยพยานปากสำคัญประกอบด้วยอุปทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการที่สอบสวนคดีร่วมสอบสวนคดี ส่วนทนายจำเลยขอนำสืบพยานต่อสู้ 40 ปาก ใช้เวลา 12 นัด ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรให้ตัดพยานโจทก์ตามสมควรเพื่อความเหมาะสมในการกำหนดนัดพิจารณาคดี โดยให้สืบพยานโจทก์ 28 นัด และสืบพยานจำเลย 12 นัด ทุกวันพฤหัสบดี และศุกร์ ต่อเนื่องกันไป และกำหนดวันสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
|