สองแผ่นดิน อิ่มบุญหนุน...ดับไฟใต้ มองกลับไปในมุมมองพุทธศาสนิกชน  มัสยิด 300 ปี.
"ทักษิณ ราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน" คำขวัญประจำจังหวัดนราธิวาสหรือ "ที่อยู่ของคนดี" เป็นคำกล่าวที่ชี้ให้เห็นภาพของเมืองอันสงบสุขร่มเย็น แหล่งภูมิประวัติศาสตร์ มรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่า โดดเด่นเรื่อง 2 ศาสนาที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว
เราเริ่มต้น "ท่องแดนธรรม" วันแรกที่ วัดชลธารานิสิงเห หรือวัดพิทักษ์แผ่นดินไทย อ.ตากใบ ซึ่งไทยใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงราชอาณาเขตไทยกับทางการอังกฤษ ช่วงที่มีการปักปันเขตแดนระหว่างสยามประเทศกับประเทศมลายูที่อังกฤษครอบครอง อยู่ เยี่ยม
 องค์ เจ้าแม่โต๊ะโมะ.
ชม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ศึกษาประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ชมภาพถ่ายการเสด็จพระราชดำเนินเยือนหัวเมืองใต้ของพระมหากษัตริย์ไทยบน "คาบสมุทรมลายู" ต่อด้วยการเดินเท้าศึกษาเส้นทางธรรมชาติใน... ป่าพรุโต๊ะแดง (ป่าพรุผืนสุดท้ายของประเทศไทยและเป็นป่าพรุแห่งเดียวที่อยู่ในเขตเมือง) ภายใน "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร" ย้อนรอยเส้นทางวิถีชีวิตชุมชนในพื้นที่ซึ่งผูกพันกับ "ปาล์มสาคู" (Metroxylon sagus Rottb.) พันธุ์ไม้สารพัดประโยชน์ เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่พรุและที่ลุ่มน้ำขังทั่วไป ที่คนโบราณนำมาสกัดเป็นแป้งสาคูกินแทนข้าว
แวะสักการะ "เจ้าแม่โต๊ะโมะ" ที่ อ.สุไหงโก-ลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชนชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก "กัปตันคิว" ชาวอังกฤษหัวหน้าคนงานทำเหมืองแร่ทองคำที่เขาโต๊ะโมะ อ.สุคิริน มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่ จึงอัญเชิญองค์จำลองจากประเทศจีนมาตั้งไว้ในศาลบริเวณสถานที่ทำเหมืองแร่ ทองคำ ภายหลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านได้พร้อมใจกันอัญเชิญองค์เจ้าแม่โต๊ะโมะมาประดิษฐานอยู่ที่ศาลเจ้า ริมถนนเจริญเขต อ.สุไหงโก-ลก และทุกปีตามปฏิทินจีน เดือน 3 วันที่ 23 จะมีการจัดงานฉลองสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์และศรัทธาที่มีอย่างล้นเหลือ
 ของที่ ระลึก"ใบไม้สีทอง".
 หัตถกรรม กระจูด.
เส้น ทางบุญท่องแดนธรรม 2 แผ่นดิน ในวันที่สองข้ามไปเยือนฝั่งมาเลเซียกันบ้าง โดยข้ามแดนผ่านทางด่านสุไหงโก-ลก ผ่านด่านรันตูปันยัง มุ่งหน้าตรงไปยังเมืองโกตาบารู เมืองหลวงของรัฐกลันตัน แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน้าซุ้มประตูพระราชวังเก่าแห่งสุลต่านรัฐกลันตัน เยี่ยมพิพิธภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนพระองค์ฯ ชมภาพถ่ายประวัติศาสตร์ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 เสด็จเยี่ยมพระยากลันตัน (สมัยที่ยังเป็นประเทศราชของไทย) เข้าเยี่ยมคารวะ "คุณสุรพล เพชรวา" กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู เจ้าของผลงาน "เฟรนส์ออฟไทยแลนด์" ชักชวนกลุ่มนักธุรกิจและภาคเอกชนของมาเลเซียเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยใช้เส้นทางบินจากนราธิวาสสู่จุดหมายปลายทางต่างๆของประเทศไทยจนประสบความ สำเร็จอย่างงดงาม จากนั้นมุ่งหน้าไปกราบไหว้พระพุทธไสยาสน์ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์วิหาร และพระพุทธรูปนั่งปางสมาธิ ณ วัดชิมาราม หรือวัดยูงเกา ย้อนกลับมาฝั่งไทยทาง อ.สุไหงโก-ลก เข้าสู่ อ.เมืองนราธิวาส ตกดึกแวะไปชิม "ชาชัก-โรตีมะตะบะ" ลือชื่อร้าน "แบลี" ชมลีลาการร่อนแป้ง "โรตีลอยฟ้า" ที่ไม่มีใครเหมือน
 ภาพวาด บนเพดานพิพิธภัณฑ์วัดชลฯ.
 เรือกอ และ.
รุ่ง ขึ้นวันที่ 3 เดินทางไปเยี่ยมชม "มัสยิด 300 ปี" หรือมัสยิดวาดีอัล-ฮูเซ็น ต.ลุโบะสาวอ ห่างจากตัวเมืองนราธิวาสเพียง 25 กม. ตัวมัสยิดสร้างจากไม้ทั้งหลังโดยไม่ใช้ตะปูตอกยึดแม้แต่ตัวเดียว มีเพียงลิ่มและสลักไม้ตอกยึดไว้อย่างมั่นคงแข็งแรงท้าแดดท้าฝนมาหลายร้อยปี แวะนมัสการ "พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล" ในพุทธอุทยานเขากง ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เยี่ยมชม "วิหารองค์พ่อจตุคามรามเทพ ศาลหลักเมืองจำลอง และพระพิฆเนศ" ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 5.50 เมตร กว้างที่สุดในประเทศไทย แวะพักร้อนผ่อนคลายสูดดมไอทะเลที่ "อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง" ตื่นตะลึงกับหาดทรายขาวบริสุทธิ์สุดเขตแดนสยามฝั่งอ่าวไทย
 ชม "ปาล์มสาคู".
สิ่ง สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับรายการ "ทัวร์แบบไทยๆ" คือการช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์จากกระจูด เช่น กระเป๋า เสื่อ ตูมู (กล่องใส่ของใช้) ชมพิพิธภัณฑ์เรือกอและจำลอง ที่หมู่บ้านทอน จ.นราธิวาส และกรอบรูป "ใบไม้สีทอง" หรือ "ย่านดาโอ๊ะ" ค้นพบครั้งแรกที่ จ.นราธิวาส ลักษณะคล้ายใบชงโคหรือใบเสี้ยว ทุกส่วนของใบจะปกคลุมด้วยเส้นขนอ่อนๆคล้ายกำมะหยี่สีน้ำตาลแดงหรือสีทอง เชื่อกันว่าเป็นใบไม้นำโชค
 ลีลา ร่อนโรตี.
 ชงชา ชัก.
วันนี้ ...แม้ว่าสถานการณ์ในภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิด ขึ้น แต่มันก็ไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายอย่างที่ใครคิด...ทั้งคนมาเลย์ คนสิงคโปร์ หรือแม้กระทั่งฝรั่งตาน้ำข้าว ยังคงเดินขวักไขว่กันเต็มเมือง ถึงเวลาแล้วที่พวกเรา "คนไทย" ทุกคนจะต้องช่วยกันพลิกฟื้น "ดับไฟใต้" ให้มอดสนิท ไม่ต้องใช้อาวุธเข่นฆ่ากัน แค่...ไปเที่ยว ไปชม "บ้านของเรา" ประกาศก้องให้รู้ว่า ไม่มีใครหน้าไหนมาแบ่งผืนดินแดนสยามไปได้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว
 ชายหาด อ่าวมะนาว.
หาก มีข้อสงสัยหรือต้องการความมั่นใจเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ ททท.สนง.นราธิวาส หมายเลข 0-7352-2411 และ 0-7354-2345 รับประกันว่า...คุณจะไม่ผิดหวัง!!
|