กูเกิลปิดเว็บไซต์ google.cn ในจีนแล้ว ทำให้ชาวจีนกว่า 384 ล้านคน ต้องพึ่ง google.com.hk ของฮ่องกงแทน...

หลังกูเกิล อินค์ ปิดให้บริการเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล หรือเซิร์ชเอนจิ้นที่เป็นภาษาจีน google.cn อย่างถาวร ทำให้ชาวจีนในประเทศร่วม 384 ล้านคน ต้องหันไปพึ่งพาการบริการค้นหาข้อมูลความรู้ทั่วโลกของเว็บไซต์ google.com.hk ที่มีฐานอยู่บนเกาะฮ่องกงแทน แม้บางคำที่เปราะบางอาจถูกสกัดกั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจีนอาจใช้วิธีกลั่นกรองผลของการค้นหาผ่าน "เกรท ไฟล์วอลล์" หรือการตรวจพิจารณาอินเตอร์เน็ตในจีน หลังกูเกิลเกิดข้อ โต้แย้งกับรัฐบาลจีนที่คุกคามสิทธิและเสรีภาพด้วยการล้วงข้อมูลบัญชีลูกค้า จนตัดสินใจประกาศจะปิดเว็บไซต์ที่จีนอย่างเป็นทางการช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สร้างความตก ตะลึงให้กับโลกธุรกิจแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน ขณะที่จีนปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการโจรกรรมข้อมูล

นอก จากนี้ ผลกระทบภาคธุรกิจส่วนอื่นของกูเกิลที่จีนก็เริ่มคลุมเครือ แม้ฝ่ายขาย ฝ่ายวิจัยค้นคว้าและฝ่ายพัฒนายังทำงานเหมือนเดิม ไม่มีนโยบายการปลดพนักงานหรือโอนย้ายให้ไปทำงานที่ฮ่องกง ราคาหุ้นกูเกิลก็ตกลงกว่า 6% ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ตลาดค้าหลักทรัพย์ปิดทำการเมื่อวันจันทร์ 22 มี.ค. หุ้นกูเกิลก็ร่วง 2.50 เหรียญสหรัฐฯ ไปอยู่ที่ 557.60 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นไป่ตู เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่สุดของจีน กลับดีดตัวเพิ่มขึ้น 10.07 เหรียญสหรัฐฯ ไปอยู่ที่ 579.72 เหรียญสหรัฐฯ

กูเกิลเริ่มเปิดเว็บไซต์ภาคภาษาจีน เมื่อเดือน ม.ค.ปี 2549 ตามข้อตกลงยินยอมให้มีการตรวจสอบเนื้อหาหรือข้อมูลที่เสี่ยงต้องห้ามภายใต้ ก.ม.จีน และถือเป็นโครงข่ายการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ที่ใหญ่ เป็นอันดับ 2 ของจีน 35.6% รองจากเว็บไซต์ไป่ตูที่ครองตลาด 58.4%

ข่าวระบุเจ้า หน้าที่จีนที่ไม่ขอเอ่ยนาม ประจำสำนักงานสารสนเทศสภาประชาชนจีน เผยว่า กูเกิลละเมิดข้อสัญญา ซึ่งทางสำนักงานไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาสาระการพาณิชย์ในลักษณะการเมืองที่ ปรากฏในเว็บไซต์

อย่างไรก็ดี นายชิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เผยว่า ปัญหาของกูเกิลส่วนใหญ่เป็นประเด็นเชิงค้าขายรายบุคคล ไม่ควรโยงถึงความสัมพันธ์ทางการทูตกับทางการเมืองระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาล สหรัฐฯ และภาพพจน์ของจีนในสายตาชาวโลก เพราะตลาดจีนยังเปิดรับเสรีเหมือนเดิม

ขณะเดียวกัน นายไมค์ แฮมเมอร์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯอยู่บนเหตุผล และยืนยันถึงการเปิดเจรจาของสองตัวแทนระดับสูงเป็นครั้งแรกช่วงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ทั้งปัญหาระหองระแหงการขายอาวุธสงครามให้ไต้หวัน ค่าเงินหยวน องค์ดาไล ลามะ กับการเข้าพบประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่ทำเนียบขาว และเสรีภาพบนโลกอินเตอร์เน็ต.