|
ไล่บี้เอาผิดนักการเมือง ล้วงโผตำรวจขอเป็นธรรมให้กับจ่าเพียร |
|
|
ล้วงโผตำรวจขอเป็นธรรมให้กับจ่าเพียร
ชมรมพิทักษ์ตำรวจ ตบเท้าออกโรง ยื่นหนังสือถึงกมธ.ตร.วุฒิสภา ทวงความชอบธรรมให้ จ่าเพียร นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ไล่บี้เอาผิดนักการเมือง ล้วงลูกแต่งตั้งโยกย้ายโปลิศ ย้ำต้องมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ส.ว.อุดรธานี แนะนายกฯเร่งทำคุณไถ่บาป ถ้ากล้าแก้ไขพ.ร.บ.สตช. ให้ปลอดจากนักการเมืองได้ เชื่อคนสีกากีอาจยอมให้อภัยบ้าง ขณะที่อนุฯก.ตร.นัดประชุม เรื่องการร้องทุกข์ของ จ่าเพียร และปัญหาตำรวจ 3 จว.ชายแดนใต้ ลุ้นผลสรุปออกหัวหรือก้อย
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก ประธานชมรมอาสาพิทักษ์ ปกป้องตำรวจและครอบครัว ได้เข้ายื่นหนังสือ ต่อนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ. บันนังสตา จ.ยะลา เจ้าของฉายา จ่าเพียร นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา สุดท้ายทำให้ต้องมาถูกกลุ่มโจรใต้ลอบวางระเบิดสังหารขณะออกปฏิบัติหน้าที่จนจบชีวิตพร้อมลูกน้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากรณีดังกล่าวมีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองใช้เงินซื้อตำแหน่ง ทำให้ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนเสียสละ เป็นตำรวจที่ดีไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้บังคับบัญชา กระทบขวัญกำลังใจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการตำรวจ หากปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปโดยไม่ได้รับการเยียวยาจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นจึงขอให้คณะกรรมาธิการดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงในกระบวนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.สมเพียร เรื่องนี้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและคำสั่งว่าด้วยการแต่งตั้งหรือไม่ และปฏิบัติตามมติครม.กรณีการให้บำเหน็จความชอบการแต่งตั้ง สิทธิพิเศษแก่ผู้ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ มีการทุจริตหรือแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงขอให้คณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาในอนาคตเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลภายใน สตช. พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวทิ้งท้าย ด้าน พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการได้มีการพิจารณาไปบ้างแล้ว ได้ตั้งข้อเสนอแนะต่อนายกฯและรองนายกฯที่กำกับดูแล สตช. ใน 3 ข้อคือ 1.ฝ่ายการเมืองต้องยุติการแทรกแซง แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ 2.นายกฯต้อง กล้าหาญ ทำบุญไถ่โทษโดยการแก้ไข พ.ร.บ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายต้องไม่เปิดช่องให้ผู้มีอำนาจทาง การเมืองเข้ามาแทรกแซง 3.ต้องกล้าหาญ ทบทวน การเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธาน ก.ตร. ประธาน กตช. โดยฝ่ายการเมือง เพราะตราบใดที่ฝ่ายการเมืองเป็นประธานก็หนีไม่พ้นที่จะมีการแทรกแซงจาก ส.ส. ถ้ากล้าทำคุณไถ่โทษเชื่อว่าพี่น้องตำรวจจะให้อภัยได้ และจะได้พิสูจน์ว่าเอาจริงเอาจังหรือไม่ จะได้รู้กันว่าที่พูดกันว่านักการเมืองพูดปากอย่าง ทำอีกอย่างจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานโดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้หารือถึงกรณี พล.ต.อ.สมเพียร สละชีพใน การปฏิบัติหน้าที่ว่า ตนเคยทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.สมเพียร สมัยเป็นนายอำเภอที่ จ.ยะลา ประมาณ 5 ปี ทำให้รู้ว่าเป็นตำรวจที่มีผลงานยอดเยี่ยมต่อสู้มานานกว่า 40 ปี เรื่องนี้ตนจึงให้อภัยนายกฯไม่ได้เพราะยังไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบ ดังนั้นนายกฯต้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ ส่วน พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว. สรรหา หารือว่า ขอให้นายกฯตั้งกรรมการสอบสวนตามที่ พล.ต.อ.สมเพียร มาร้องเรียนว่า มีการเรียกรับเงินในการโยกย้ายตำแหน่ง โดยต้องสอบสวนให้พบว่า ใครอยู่เบื้องหลัง มีนักการเมืองคนใดบ้างที่มีการเกี่ยวข้องซื้อขายตำแหน่ง และต้องประกาศผลการสอบสวนให้สาธารณะรับทราบ เพื่อดำเนินการให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ตำรวจทั่วประเทศมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ถึงเวลาแล้วที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปลอดจากการที่นักการเมืองเข้ามาควบคุมการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง โดยต้องให้ผู้บริหารสตช.พิจารณาการแต่งตั้งเอง ส่วนฝ่ายการเมือง นายกฯต้องทำแค่มอบนโยบาย ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวควบคุมการแต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.ต.เกริก กล่าวอย่างจริงจัง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการประชุมคณะอนุฯก.ตร.ร้องทุกข์ เกี่ยวกับการร้องทุกข์ของ พล.ต.อ.สมเพียร และการประชุมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในภาพรวมของข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวม 9 ประการในวันที่ 23 มี.ค. คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ที่พล.ต.อ.สมเพียร มาเรียกร้อง อนุฯก.ตร. ในการดูแลกระบวนการแต่งตั้งโยกย้าย การซื้อขายตำแหน่ง และสิ่งที่พล.ต.อ.สมเพียร ร้องขอเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย เพื่อดูว่าข้อมูลที่ทาง ผบช.ภ.9 และ สชต. ชี้แจงมายัง ตร. มีความบกพร่องอย่างไร เป็นไปตามระเบียบที่ ตร. และกฎ ก.ตร. กำหนดไว้หรือไม่ โดยจะมีการชี้แจงหลังการประชุมให้ทราบต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถหาผู้รับ ผิดชอบกรณีที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.ต.ท. พงศพัศ ตอบว่า ในการประชุมคงเป็นการดูเรื่องกฎระเบียบว่ามีการดำเนินการบกพร่องตรงไหน ส่วนจะหาผู้รับผิดชอบหรือไม่ขึ้นอยู่กับการประชุมของ อนุฯก.ตร. เพราะ อนุฯก.ตร. ทราบว่าทั้งตำรวจและประชาชนรอคำตอบอยู่ เมื่อถามต่อว่าหากตรวจสอบพบว่า มีนักการเมืองเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายครั้งนี้ รวมถึงเป็นผู้ทำให้ต้องนำรายชื่อ พล.ต.อ. สมเพียร ออกจากคำสั่งแต่งตั้งแล้วตำรวจ จะกล้าดำเนินการหรือไม่ พล.ต.ท. พงศพัศ กล่าวว่า ต้องรอให้ข้อเท็จจริงปรากฏ ก่อน หาก อนุฯก.ตร. ไม่สามารถตัดสินใจ ได้ก็จะนำเข้า ก.ตร ชุดใหญ่ ขณะเดียวกันที่สภ.บันนังสตา จ.ยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผวจ.ยะลา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผวจ. พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ รอง ผบ.ศชต. พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบปะตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ หน่วยกำลัง 3 ฝ่าย (ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง) ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ภายหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ลอบวางระเบิด และซุ่มยิงรถยนต์ของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก. สภ.บันนังสตา จนทำให้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฤษฎา กล่าวว่า การเดินทางมาพบปะเยี่ยมเยือนกำลังพลในครั้งนี้ สืบเนื่อง มาจากความห่วงใยของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ สภ.บันนังสตา แห่งนี้จึงได้ทรงพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อครั้งเสด็จฯมาทรงงานในพื้นที่ อ.บันนังสตา ให้กับหน่วยกำลัง 3 ฝ่ายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ ผบก.-รองผบก. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และภาครัฐ คณะกรรมการอิสลามจังหวัด ภาคเอกชน ได้เคยทำหนังสือมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้พิจารณานายตำรวจระดับ รอง ผบก. ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 2 นายที่ยังครองตำแหน่งไม่ครบ 3 ปีตามกฎก.ตร. แต่หากนับอายุทวีคูณตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2550 จะครบหลักเกณฑ์สามารถขึ้นเป็น ผบก. ได้ แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ยอมพิจารณาโดยยังอ้างว่าต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตร.เท่านั้น ขณะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรม จำนวนหนึ่งได้จัดทำเสื้อยืดสีดำ เขียนข้อความว่า จ่าเพียร 12 มี.ค. 53 ซึ่งเป็น วันที่ พล.ต.อ.สมเพียร เสียชีวิตเพื่อเป็นการไว้อาลัย โดยนัดหมายจะสวมเสื้อดังกล่าวมาในวันที่ 23 มี.ค. เพื่อทำข่าวการพิจารณาหา ผู้บกพร่องในการแต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.อ. สมเพียร และการพิจารณาสิทธิประโยชน์ตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้. |
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|