กระทรวง พาณิชย์ เผยเหตุม็อบคนเสื้อแดงป่วน ทำคนเซ็ง หันซื้อสินค้าออนไลน์ คาดปีนี้ดันยอดซื้อพุ่ง 20% แฟชั่น เครื่องสำอางมาแรง เดินหน้าพัฒนาอี-คอมเมิร์ซไทยต่อเนื่อง......
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงแนวโน้มการค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ปี 53 ว่า จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดจะเติบโตมากถึง 10-20% จากปี 52 เพราะขณะนี้คนไทยใช้บริการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หันมาซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ที่สะดวกสบายกว่าแทน
"ในช่วงการชุมนุม ที่มีการปิดถนน และเดินทางไม่สะดวก รวมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ทำให้ประชาชนซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ทดแทนการเดินทางไปซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า ทำให้ร้านค้าค่อนข้างเงียบเหงา สวนทางกับสินค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยม โดยสินค้าที่ซื้อขายผ่านระบบออนไลน์มาก ได้แก่ แฟชั่น เครื่องสำอาง และสินค้าด้านความบันเทิง (ดิจิตอลคอนเทนท์)"
นายบรรยงค์ กล่าวต่อว่า กรมมีแผนส่งเสริมธุรกิจการค้าออนไลน์ต่อเนื่อง โดยจะเน้นพัฒนาทักษะ และสร้างความเชื่อมั่นในระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยให้เครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสร้างความเชื่อมั่นโดยการแสดงความคิดเห็น และคะแนนความน่าเชื่อถือจากผู้ซื้อ ผู้ขาย นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสทางการค้าระบบอี-คอมเมิร์ซ ผ่านตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มช่องทางการตลาด โดยจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเปิดร้านค้าในเว็บไซต์ www.DBDmart.com 450 ราย พัฒนาให้เกิดผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ 240 ราย จัด e-Commerce Clinic เพื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) 100 ราย เป็นต้น.