เอเจนซี – แม้ทำให้งบดุลบัญชีปั่นป่วน แต่ขณะเดียวกันวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้พนักงานกว่า 2 ใน 5 รู้สึกผูกพันเหนียวแน่นกับนายจ้างมากขึ้น

เศรษฐกิจโลกถดถอยทำให้พนักงานภักดีต่อบริษัทมากกว่าเดิม

       
        ผลสำรวจความคิดเห็นในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย-แปซิฟิกที่จัดทำโดยบริษัทจัดหางานระหว่างประเทศ เคลลี เซอร์วิส ยังพบว่าบริษัทที่มีการจัดการที่ดี ขวัญและกำลังใจแข็งแกร่ง และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ประสบความสำเร็จในการทำให้พนักงานทุ่มเทให้บริษัทมากขึ้นแม้ในยามที่ไร้ความแน่นอนเนื่องจากกำไรตกและบริษัทต่างๆ ต้องปลดคน
       
        ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ‘งานที่น่าสนใจหรือท้าทายมากขึ้น’ เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ตัวเองทุ่มเทกับงานมากขึ้น โดยมีอิทธิพลมากกว่าการขึ้นเงินเดือนหรือเพิ่มสวัสดิการ
       
        จอร์จ โคโรนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ของเคลลี เซอร์วิส บอกว่าองค์กรหลายแห่งผ่านช่วงเวลาที่มีปัญหาร้ายแรง แต่สามารถจัดการความท้าทายในแนวทางที่เป็นบวก และทำให้ความไว้วางใจในหมู่พนักงานเพิ่มสูงขึ้น
       
        ดัชนีแรงงานโลกประจำปีของเคลลีมาจากการสอบถามความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 134,000 คนใน 29 ประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงมกราคมปีนี้
       
        ผลสำรวจพบว่า พนักงาน 43% รู้สึกว่าตัวเอง ‘ผูกพันโดยสิ้นเชิง’ กับนายจ้างปัจจุบัน และ 26% รู้สึก ‘ค่อนข้างผูกพัน’
       
        กลุ่มตัวอย่าง 27% บอกว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยทำให้ตัวเองจงรักภักดีกับนายจ้างมากขึ้น มีเพียง 10% ที่รู้สึกจงรักภักดีน้อยลง และ 63% บอกว่าความรู้สึกนี้ไม่ได้มากขึ้นหรือน้อยลง
       
        พนักงาน ‘เจเนอเรชัน วาย’ หรือคนที่อายุระหว่าง 18-29 ปี เชื่อว่าเศรษฐกิจขาลงทำให้ตนเองจงรักภักดีกับบริษัทมากขึ้นมากกว่าพนักงาน ‘เจเนอเรชัน เอ็กซ์’ 28%
       
        ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า พนักงานที่ทุ่มเทมากที่สุดคือพนักงานในอเมริกาเหนือ ที่กลุ่มตัวอย่างถึง 52% บอกว่าผูกพันกับงานเต็มที่ เทียบกับ 47% ในเอเชีย-แปซิฟิก และ 36% ในยุโรป
       
        เมื่อพิจารณาว่าจะทำงานต่อหรือลาออก พนักงานหนุ่มสาวสนใจความเป็นไปได้ในความก้าวหน้าของอาชีพมากกว่า ขณะที่พนักงานสูงวัยให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริหารมากที่สุด
       
        นอกจากนี้ พนักงานทุกรุ่นกำลังติดตามใกล้ชิดว่า บริษัทบริหารชื่อเสียงองค์กรอย่างไร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป
       
        โคโรนาเสริมว่า การดึงดูดพนักงานและทำให้พนักงานมีส่วนร่วมในการสร้างผลผลิตอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในงานที่ท้าทายที่สุดสำหรับนายจ้าง
       
        “กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนหลายรุ่นไม่ได้มีความสำคัญในแง่การดึงดูดคนที่เก่งที่สุดไว้เท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมบรรยากาศที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ของพนักงานทั้งหมด”