สหรัฐจ่อฟื้นฝึกรบพิเศษอิเหนา รัฐบาลโอบามาเตรียมเอาจริงกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับอินโดนีเซียขนานใหญ่ โฆษกเพนตากอนเผย สหรัฐกำลังทบทวนรื้อฟื้นความร่วมมือฝึกซ้อมหน่วยรบพิเศษโคปัสซัสที่มีบทบาทสำคัญยุคล่าคอมมิวนิสต์และรุกรานติมอร์ตะวันออก ขณะ ส.ว.ผู้ร่างกฎหมายห้ามทัพมะกันร่วมมือทัพต่างชาติที่พัวพันละเมิดสิทธิมนุษยชนเตือนต้องไม่ลืมอดีต
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา มีกำหนดเดินทางเยือนเกาะกวม, อินโดนีเซีย และออสเตรเลียวันที่ 21 มีนาคมนี้ โดยนักวิเคราะห์กำลังจับตาการเจรจากระชับความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐกับอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกและเป็นดินแดนที่โอบามาเคยใช้ชีวิตหลายปีในวัยเด็ก
เออร์นี บาวเออร์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ของศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษา กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางทหารถือเป็นรากเหง้าอย่างแท้จริงหากรัฐบาลโอบามาจริงจังกับการปรับเปลี่ยนความร่วมมือกับอินโดนีเซีย
เขาชี้ว่า อินโดนีเซียจะกลายเป็นเหมือนอินเดียในสมัยรัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ที่รื้อฟื้นความร่วมมือกับอินเดีย ยุติความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันที่เรื้อรังมานานหลายทศวรรษ
ไบรอัน วิตแมน โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังหารือเกี่ยวกับการรื้อฟื้นการติดต่อเกี่ยวพันกับกองกำลังโคปัสซัส เนื่องจากการปฏิรูปประชาธิปไตยของอินโดนีเซียช่วงทศวรรษที่ผ่านมาค่อนข้างโดดเด่นและยังมีการปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างมากมาย ที่ทำให้สหรัฐสามารถขยับขยายความร่วมมือให้กว้างขวางขึ้น โดยเป็นไปตามกฎหมายและค่านิยม รวมถึงการขยายผลประโยชน์ของประเทศ
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกองกำลังพิเศษหน่วยนี้หลายนายได้เดินทางไปเยือนวอชิงตันล่วงหน้าการมาเยือนของผู้นำสหรัฐ โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดการเจรจาเผยว่าเป็นการหารือเกี่ยวกับการรื้อฟื้นความร่วมมือการฝึกซ้อมทางทหาร
หน่วยโคปัสซัสของอินโดนีเซียมีประวัติฉาวโฉ่สมัยเป็นหัวขบวนการสังหารหมู่ยุคปราบปรามคอมมิวนิสต์ปี 2508 ที่มีประชาชนถูกเข่นฆ่ากว่า 500,000 คน หน่วยนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการรุกรานติมอร์ตะวันออกปี 2518 และเหตุการณ์รุนแรงปี 2542 หลังจากติมอร์ตะวันออกลงมติเรียกร้องเอกราช
รัฐบาลสหรัฐยกเลิกให้การสนับสนุนโคปัสซัส ตามรัฐบัญญัติของกฎหมายเลฮี พ.ศ. 2540 ที่เขียนโดย ส.ว.แพทริก เลฮี ห้ามกองทัพสหรัฐร่วมการฝึกซ้อมกับกองกำลังทหารต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อมาในปี 2548 สหรัฐตัดสินใจยุติการคว่ำบาตรกองทัพอินโดนีเซียทั้งหมด ขณะที่ปีเดียวกันนี้กองทัพออสเตรเลียได้รื้อฟื้นการฝึกซ้อมรบร่วมกันกับโคปัสซัส
ด้าน ส.ว.เลฮียืนกรานต่อต้านการฝึกดังกล่าว โดยชี้ว่าอินโดนีเซียต้องนำสมาชิกกองกำลังโคปัสซัสที่เคยก่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอดีตมาดำเนินคดีเสียก่อน
"เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนชาวอินโดนีเซียได้เห็นว่าความยุติธรรมบังเกิดได้จริง และการนิรโทษกรรมให้อาชญากรรมร้ายแรงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป" ส.ว.เดโมแครตจากรัฐเวอร์มอนต์กล่าว และว่า ถึงแม้อินโดนีเซียจะมีความก้าวหน้าด้านประชาธิปไตยและการจำกัดบทบาทของกองทัพในระดับหนึ่ง แต่เรื่องราวในอดีตต้องไม่ถูกลืม
ทั้งนี้ ทางเลือกหนึ่งของการรอมชอมที่อยู่ในข่ายพิจารณาคือสหรัฐจะช่วยฝึกให้เฉพาะสมาชิกหน่วยรบพิเศษรุ่นใหม่เท่านั้น
ที กุมาร จากแอมเนสตีอินเตอร์เนชั่นแนลสหรัฐ กล่าวว่า อินโดนีเซียควรดำเนินคดีกับพวกนายทหารโคปัสซัสที่กระทำผิดในอดีต โคปัสซัสมีประวัติฉาวโฉ่ แต่ก็ไม่เคยมีใครถูกลงโทษ สิ่งนี้จะกลายเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ ถึงหน่วยอื่นๆ ด้วย |