ก่อนการเคลื่อนไหวระดมพลเพื่อชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12-14 มีนาคมนี้ ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของบุคคลในครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยพบว่าเดินทางออกนอกประเทศแล้ว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากตารางการบินของ น.ส.แพทองธาร หรือ "อุ๊งอิ๊ง" บุตรสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ พบว่า จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินสวิสแอร์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม โดยระหว่างนั้น ได้จองเที่ยวบินเดินทางข้ามไปมาระหว่าง 3 ประเทศในยุโรป คือ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และฝรั่งเศส โดยระบุเที่ยวกลับกรุงเทพฯ ไว้ 2 วัน คือ วันที่ 17 หรือ 18 มีนาคม ขณะที่ตารางการบินของ น.ส.พินทองทา หรือ "เอม" บุตรคนกลาง จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินเดียวกันในวันที่ 10 มีนาคม และกำหนดเดินทางข้ามไปมาใน 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส และฮ่องกง โดยระบุวันเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันที่ 21 มีนาคม

 นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวสะพัดว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และนายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางไปฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะใช้เวลาพักอยู่นานนับสัปดาห์ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นไปอย่างฉุกละหุก ทำให้กำหนดการที่คุณหญิงพจมาน นัดพบกับคณะบุคคลต่างๆถูกยกเลิกออกไปอย่างกะทันหัน

 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กำหนดการเดินทางออกนอกประเทศของครอบครัวชินวัตรครั้งนี้ เป็นไปในช่วงก่อนการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง และจะเดินทางกลับเข้ามาในช่วงที่การชุนนุมสิ้นสุดลงไปแล้ว ตามที่หน่วยข่าววิเคราะห์ว่า ผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมโดยใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ซึ่งทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่า จะเป็นการส่งสัญญาณว่าจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ในระหว่างนั้นหรือไม่

 ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามคนใกล้ชิดนายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ปรากฏว่า เลขาฯ ส่วนตัวของทั้งสองคนยอมรับว่าในวันที่ 10 มีนาคม น.ส.พินทองทา และน.ส.แพทองธาร จะเดินทางไปกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อเปิดงานไอทีซี เบอร์ลิน 2010 ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว โดยเป็นกำหนดการที่กำหนดล่วงหน้ามาเป็นเดือนแล้ว ไม่เกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมว่าจะรุนแรงหรือไม่

แม้วลั่นไม่ยอมเป็นเถ้ากระดูกกลับมา

 ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์เข้ามาพูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นานกว่า 10 นาที โดยขอบคุณ ส.ส.ทุกคนที่ให้กำลังใจ และสนับสนุนคนเสื้อแดง จะขอต่อสู้ต่อไป ไม่หนีไปไหน บางคนชอบกระทำคนอื่นเขาเรียกว่า ซาดิสต์ แต่ตนถูกกระทำตลอด จนชินเสียแล้ว จะขอสู้ต่อไป ไม่หนีไปไหน ยิ่งโดนก็ต้องสู้ หากไม่สู้จะเหมือนผู้นำที่เป็นกบฏหลายคนที่ไปเสียชีวิตนอกประเทศ กลับเข้ามาได้แค่เถ้ากระดูก ดังนั้นต้องต่อสู้จะได้กลับมากกว่านั้น

แดงอีสานขอ 30 ล้านนำม็อบเข้ากรุง

 มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยว่า นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะประธาน ส.ส.ภาคอีสาน ร่วมหารือกับ ส.ส.อีสานและแกนนำคนเสื้อแดงสายอีสาน ช่วงหนึ่งได้หารือเตรียมความพร้อมการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงวัน ที่14 มีนาคม โดย ส.ส.แต่ละคนได้รายงานความเคลื่อนไหวให้ที่ประชุมทราบ ส่วนใหญ่บอกว่ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาตอนนี้คือเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่ต้องอยู่ชุมนุมอย่างน้อย 3 วัน พร้อมกับขอเงินสนับสนุนนายพายัพ จำนวน 30 ล้านบาท ทำให้นายพายัพถึงกับตกใจและสอบถามว่าจะเอาไปทำอะไร

 นายนิสิต สินธุไพร หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงสาย อีสาน บอกว่าจะใช้เป็นค่าน้ำมันในการขนคน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าอำนวยความสะดวก เพราะแต่ละจังหวัดมีค่าน้ำมันแตกต่างกัน เช่น ค่าอีสานตอนบน ค่าน้ำมันไปกลับ อยู่ที่ 6,000 บาท ต่อวัน แต่ถ้า จ.นครราชสีมา สกลนคร เดินทางมาไม่ไกลมากนัก ค่าน้ำมันไปกลับต่อคันอยู่ประมาณ 3,000-4,000 บาท ขณะที่แกนนำระดับนายทุน ตกลงจะช่วยเหลือเพียง 2,000 บาท  

 นายพายัพกล่าวว่า ขอให้ ส.ส.สำรองจ่ายไปก่อน เหมือนเป็นการวัดใจแล้วกัน ทำให้แกนนำเสื้อแดงสาย อีสานไม่พอใจ พร้อมบอกว่าจะมาเหมาจ่ายไม่ได้ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าน้ำมัน แต่มีทั้งค่าอาหารและค่ายา นายพายัพจึงสอบถามถึงเงินกองกลางของคนเสื้อแดงหาย ไปไหน เหตุใดไม่นำมาใช้จ่ายในศึกครั้งนี้ จากนั้นนายพายัพได้ลุกออกจากห้องประชุมชั่วคราว ต่อมามีเจ้าหน้าที่พรรคคนหนึ่งเดินเข้ามาแจ้งกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงสายอีสานว่า พร้อมสนับสนุนให้ 10 ล้านบาท ซึ่งทำให้แกนนำถึงกับบ่นอุบว่า สงครามรอบใหม่ อาจพ่ายแพ้อีกเหมือนเดิม

นายกฯย้อนถามเสื้อแดงสู้เพื่อใคร

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวว่าครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ ว่า ก็น่าสังเกต เพราะเมื่อครั้งเหตุการณ์เดือนเมษายน 2552 ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไปต่างประเทศ

 "ผมก็อยากจะให้ผู้มาชุมนุมช่วยพิจารณาดูว่า จะลุกมาสู้เพื่อใคร และเพื่ออะไร รัฐบาลพยายามให้สถานการณ์สงบ ไม่ใช้กำลัง เพราะหากมีการใช้กำลัง คนที่จะได้รับประโยชน์คนสุดท้ายคือรัฐบาล รวมทั้งยังมีความเสี่ยงมากขึ้น" นายกรัฐมนตรีกล่าว

 นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว ตนเชื่อว่าจะดูแลสถานการณ์ได้ดีขึ้น โดยได้สั่งให้ ครม.ช่วยประสานงานในการให้บริการประชาชนทุกกลุ่ม ส่วนตนและครอบครัวจะไปนอนเซฟเฮ้าส์หรือไม่นั้น ยังไม่ได้คิด แต่การทำงานร่วมกันนั้น ก็ต้องติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิด โดยตนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็น่าจะมาอยู่ด้วยกัน เพื่อปฏิบัติงานและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 เมื่อถามว่า นายกฯ จะบอกกับประชาชนได้หรือไม่ว่าเป้าหมายสุดท้ายของคนกลุ่มนี้คืออะไร นายกฯ กล่าวว่า เป็นความวุ่นวายที่ใช้คำว่าล้มกระดาน

 เมื่อถามว่า หมายถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองใช่หรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามนี้และเดินขึ้นรถประจำตำแหน่งทันที