ได้มีการจัดงานรับน้องใหม่ปีการศึกษา 2010 ของสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นครั้งแรก รู้สึกปลื้มเมื่อได้เห็นการมาลงชื่อรายงานตัวของน้องใหม่ปีนี้ทั้งหญิงชายทั้งหมด 160 คน ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการจัดงานรับน้องก็ว่าได้ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง

ขอให้นักศึกษาทุกท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในทุกรูปแบบเพื่อการดำรงชีวิตที่ดีในอนาคตและสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือเรื่องสุขภาพ หากมุ่งแต่เรียนโดยไม่สนใจสุขภาพของตัวเองก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี การศึกษาดี การงานเด่น แต่ถ้าร่างกายป่วยเป็นโรค นอกจากจะไม่ดีกับตัวเองแล้วพ่อแม่ก็คงไม่ปลื้มกับความสำเร็จของลูกอย่างแน่นอน" อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ ประกิจ ศิวะรัตนธำรงค์ กล่าวเปิดงานรับน้องอย่างเป็นทางการ
การจัดงานของสมาคมในครั้งนี้ คณะกรรมการบริหารสมาคมทุกฝ่ายต่างร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ทั้งประธานชมรมภาคกลาง ภาคใต้ ประธานอุสเราะใหญ่ ที่มีส่วนร่วมในการผลักดันและให้กำลังใจทำให้การรับน้องในปีนี้เป็นไปอย่างสนุกสนานด้วยจำนวนที่มากกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตที่ช่วยประสานงานให้โครงการดำเนินเกิดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด
ในวันงานนอกเหนือจากการได้เห็นการละเล่นต่างๆ ที่รุ่นพี่จัดไว้เพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่แล้ว ยังได้เห็นการพูดคุยกันระหว่างน้องๆ นักศึกษาต่างสถาบันในเมืองไทยเสมือนหนึ่งรู้จักกันมานานและการเปิดร้านขายของเพื่อให้บริการแก่น้องๆ และสมาชิกที่มาร่วมงานกว่า 300 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง 100 คน
งานรับน้องในครั้งนี้ ผมในนามรุ่นพี่คนหนึ่งอยากเห็นน้องๆ และสังคมนักเรียนไทยในประเทศอียิปต์ไม่ว่าในมหาวิทยาลัยไหนก็ตามมีการพัฒนาและการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง รู้สึกภูมิใจที่ได้รับเชิญจากนายกสมาคมให้ขึ้นไปแนะแนวแนะน้องและสร้างมุมมองใหม่ให้แก่นักศึกษาใหม่ทุกคน อยากจะบอกว่า นักศึกษาใหม่ หรือนักศึกษาเก่า ไม่ควรเฝ้านับวันเวลาที่จะจบการศึกษาอย่างเดียว โดยไม่นับวันเวลาที่ได้ใช้ไปในแต่ละวันและกับสิ่งที่จะต้องนำไปใช้ในอนาคตวันข้างหน้า การศึกษาย่อมไม่มีวันจบแม้คนจะมีวันจบก็ตาม ขอให้สังคมนักเรียนไทยในไคโรและสังคมทุกสังคมจงมีความรักความปรองดองอย่างนี้ตลอดไปด้วยเทอญ...อามีน ยาร็อบ...