เตือนภัยนั่งท้ายกระบะ

เตือนภัยผู้ปกครอง นำลูกหลานนั่งท้ายรถกระบะ เสี่ยงอุบัติเหตุ-บาดเจ็บรุนแรงสูง เสี่ยงตายสูงกว่านั่งกระบะตอนหน้า 8 เท่า
   
แม้เป็นคำเตือนมาตั้งแต่วันเด็ก แต่ก็ยังเป็นประโยชน์อยู่ คุณหมอธนะพงษ์ จินวงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ เตือนไว้ว่า ผู้ปกครองมักนำเด็กขึ้นท้ายรถกระบะ แต่สิ่งที่หลายคนมักมองข้าม คือ ความปลอดภัย เพราะการบรรทุกคนจำนวนมาก โอกาสเสี่ยงต่อการเสียหลักพลิกคว่ำจะสูงกว่าปกติ บทเรียนของเหตุการณ์รถกระบะบรรทุกเด็ก ๆ 19 คน เสียหลักพลิกคว่ำชนต้นไม้ เป็นเหตุให้มีเด็กเสียชีวิตถึง 9 ศพ เมื่อปีที่แล้ว ที่จังหวัดนราธิวาส คงเป็นอุทาหรณ์เตือนใจได้เป็นอย่างดี
   
คุณหมอธนะพงษ์ บอกว่า ข้อมูลจากศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย พบว่าหากเกิดอุบัติเหตุ ผู้โดยสารรถกระบะหลังจะได้รับความรุนแรงจากการบาดเจ็บมากกว่าผู้โดยสารที่นั่งข้างหน้า สอดคล้องกับการศึกษาในอเมริกาที่ยืนยันว่าความเสี่ยงที่ผู้โดยสารกระบะหลังจะเสียชีวิตมีมากกว่าผู้โดยสารตอนหน้าถึง 8 เท่า ซึ่งร้อยละ 25 ถึง 50 ของผู้ประสบอุบัติเหตุเกิดจากอุบัติเหตุเสียหลักที่ไม่ได้ชนกับรถคันอื่น ๆ
   
สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างปี 2545 ถึง 2550 ระบุว่า อุบัติเหตุจากรถกระบะเกิดขึ้นเป็นลำดับ 3 รองจากจักรยาน ยนต์และรถยนต์ แต่เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้บาดเจ็บ เป็นรองเพียงจักรยานยนต์ เนื่องจากผู้โดยสารรถกระบะหลังจะไม่ได้รับการป้องกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะพุ่งอย่างไร้ทิศทางไปกระแทกกับสิ่งต่าง ๆ ของรถ หรือชนวัตถุข้างทางอื่น ๆ เช่น พื้นถนน ต้นไม้ จึงเกิดความรุนแรงจากการบาดเจ็บมาก
   
ในการขับขี่นั้น มีน้อยคนที่รู้ว่าการบรรทุกคนหรือของบนรถกระบะหลังมาก ๆ ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเสียหลักหรือพลิกคว่ำมากกว่าปกติ เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงสูงขึ้น เมื่อประเมินจากเสถียรภาพของรถพบว่า หากมีผู้โดยสารนั่งกระบะหลัง 10 คน น้ำหนักคนละ 60 กิโลกรัม มีโอกาสพลิกคว่ำมากกว่าเดิม 2 เท่า แต่หากผู้โดยสารทั้งหมดยืนขึ้นจะมีโอกาสพลิกคว่ำมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า
   
นอกจากผู้ปกครองจะต้องช่วยกันระมัดระวังและดูแลแล้ว ตำรวจต้องช่วยกวดขันรถกระบะที่บรรทุกคนจำนวนมาก ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ.