หมวดหมู่
หน้าหลัก       ยินดีต้อนรับสู่มุสลิมไทย โพสต์
 
พิมพ์หน้านี้  |  ส่งให้เพื่อน
คุณนุ้ย และ น้องเนย สองชีวิตที่หัวใจไม่พิการ 2 ชีวิตที่น่าทึ่ง





ขอขอบคุณข้อมูลจาก youtube.com , รายการตีสิบ กระปุกดอทคอม


         ในขณะที่บางคนกำลังท้อแท้สิ้นหวังกับโชคชะตา พร้อม ๆ กับคอยโทษดินฟ้าอากาศที่ชีวิตไม่เป็นดั่งใจหวังแต่ในมุมเล็ก ๆ ของสังคม ยังมีสองชีวิตที่เรียกได้ว่าเกิดมาไม่ได้สมบูรณณ์เหมือน ๆ กับคนปกติทั่วไป ซึ่งพวกเขากลับไม่เคยหมดหวังที่จะต่อสู้ และตั้งหน้าตั้งตาดำรงชีพอยู่ในโลกกลม ๆ ใบนี้ให้มีความสุขที่สุด เพราะคิดเสมอว่าฟ้าไม่ได้มีแค่ด้านมืดเสมอ และวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสกับสองชีวิต ที่ไม่ต้องพึ่งแขนและขาก็เป็นคนดีของสังคมได้ คนที่กำลังท้อแท้ในชีวิต ลองหันกลับมามองบุคคลทั้งสองนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตยังมีอะไรดี ๆ ให้ได้ค้นหาอีกมากมาย และคุณจะเชื่อว่าความสุขสร้างขึ้นได้ด้วยตัวคุณเอง 

         คน แรกที่เราจะพาไปรู้จัก คือหนูน้อยวัย 4 เดือน ตากลมโต แก้มยุ้ย ๆ สะดุดตาผู้คนทำให้ใครต่อใครต่างก็เอ็นดูในความน่ารักของ น้องเนย หรือ เด็กหญิงพลอยประภัส บุญขุนทศ ที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด เกิดมามีแต่หัวกับตัว แขนขวาไม่มี มีเพียงแขนซ้ายที่งอกออกมาเล็กน้อย 

         นางสาวจันจิรา เกิดแก้ว หรือ น้องน้ำ คุณแม่วัย 16 ปี เผยความในใจถึงวินาทีแรกที่รับรู้ว่าลูกคลอดออกมาไม่ครบ 32 ว่า ตอนที่ท้องน้องเนยก็ไม่รู้ถึงความผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่อัลตร้าซาวด์ วินาทีแรกที่น้ำเห็นลูกก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็ทำใจได้ในวินาทีนั้นเลย น้ำเสียใจนะคะ แต่ว่าทุกคนร้องไห้กันหมดแล้ว ถ้าน้ำร้องอีกคนหนึ่ง โตขึ้นมาน้องจะคิดอย่างไร อาจคิดว่าเป็นเพราะเค้าที่ทำให้ทุกคนร้องไห้ เค้าก็จะเสียใจไปด้วย และถึงน้ำร้องไห้ไปลูกน้ำก็ไม่ได้แขนไม่ได้ขาคืนขา ซึ่งคุณหมอยังไม่ได้บอกถึงสาเหตุที่ลูกเป็นอย่างนี้ บอกเพียงแต่ว่ากำลังหาสาเหตุอยู่

         "เคยมีคนมาขอน้องเนยไปเลี้ยงเหมือนกัน แต่เค้าคือลูกของเรา ออกมาแล้วมันเป็นความรับผิดชอบของเรา ยังไงเราก็ต้องเลี้ยง แต่พอลูกโตขึ้นสิ่งหนึ่งที่กลัวคือ กลัวว่าลูกจะถามว่าทำไมน้องเนยไม่เหมือนคนอื่น ทำไมน้องเนยไม่เหมือนเพื่อน ซึ่งน้ำก็เตรียมคำตอบไว้ให้ลูกได้แล้วว่า คนเราทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องมีครบก็เป็นคนดีได้ ฉลาดได้ เก่งได้ และอีกอย่างหนึ่งคือน้ำอยากให้ลูกได้เรียนสูง ๆ และตัวน้ำเองและตัวพ่อของน้องเองก็จะขยันให้มากขึ้น น้ำก็จะเรียนสูง ๆ ทำงานดี ๆ หาเงินหาทำแขนขาให้น้อง จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด" น้องน้ำ กล่าว 






         ส่วนคนที่สองก็เกิดมาร่างกายไม่สมบูรณ์ ไม่มีแขน ไม่มีขา แต่เธอกลับสู้ชีวิตปัจจุบันเธอสามารถเลี้ยงตัวเอง ที่สำคัญเธอทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี เธอต่อสู้กับความพิการและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติในสังคมได้อย่างดี นั่นก็คือ นุ้ย หรือ นางสาวธนารี ฟุ้งภิญโญภาพ อายุ 29 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ โดยใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนเพียง 3 ปีครึ่ง เพราะเธอเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า "ถ้ามีความรู้ ย่อมมีโอกาสได้งานที่ดีทำ" ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ศูนย์คณะพระมหาไถ่ พัทยา ในตำแหน่งรับจองห้องพัก

         "ดูภายนอกนุ้ยอาจจะไม่สมบูรณ์พร้อม แต่เราก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป นุ้ยว่าการเลี้ยงดูเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้พ่อแม่นุ้ยจะเลิกกันตั้งแต่เล็ก นุ้ยอยู่กับพ่อ และพ่อพยายามจะเลี้ยงดูเราให้เหมือนคนปกติทั่วไป เคยมีกระแสว่าทำไมไม่เอานุ้ยไปทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์ แต่พ่อก็ไม่ทำ พ่อมองว่าโตขึ้นนุ้ยจะไม่ได้เป็นภาระของใคร พ่อจะสอนนุ้ยเสมอว่าลูกพิการแต่ตัวแต่ไม่ได้พิการใจ คนที่มองลูกด้วยสายตาดูถูกต่างหากที่เค้าพิการใจ ลูกยังเดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง ไม่ได้ทำตัวเป็นภาระของใคร จงภาคภูมิใจในความสามารถของลูก พ่อสอนให้เรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง เพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้า และพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ไม่มีสิ่งไหนในโลกใบนี้ที่หากเพียรพยายามอย่างเต็มกำลังแล้ว จะทำไม่ได้ แม้ต้องใช้กำลังกาย กำลังใจ เวลา และการทุ่มเทมากกว่าคนอื่นเป็นร้อยเท่า พันเท่า แต่เมื่อถึงความสำเร็จ รางวัลก็จะมากกว่าคนอื่นเป็นร้อยเท่าพันเท่าเช่นกัน" นุ้ย เปิดใจ

         นุ้ย กล่าวอีกว่า ตอนเด็ก ๆ มีคนแนะนำให้คุณพ่อพาไปใส่แขนขาเทียมที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งคุณหมอก็บอกมาว่า สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ที่กายอุปกรณ์ แต่เป็นที่จิตใจ ทำอย่างไรให้เค้ายอมรับในสายตาที่คนมองได้ โดยที่เค้าไม่รู้สึกว่าเค้าแปลกกว่าคนอื่น นั่นคือสิ่งสำคัญ และกายอุปกรณ์มันมีเวลา ต้องเปลี่ยนทำกายภาพบำบัดทุก ๆ 6 เดือน ซึ่งตรงนั้นพ่อไม่มีเวลาพาเราไปเข้าคอร์สแบบนั้นตลอด เพราะเมื่อ 20 ปีก่อน มันไม่ใช่เทคโนโลยีเหมือนสมัยนี้ คุณหมอจึงแนะนำว่าให้ธรรมชาติช่วยเหลือเค้า แล้วถึงวันนั้นเค้าจะไม่ต้องการกายอุปกรณ์ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คุณหมอแนะนำ พอหลังจากนั้นพ่อก็พาเราไปทุก ๆ ที่ที่มีคนเยอะ ๆ และบอกเราเสมอว่าไม่ต้องไปอาย ไม่ต้องไปแคร์ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้ไปขอข้าวใครกิน และเราก็เป็นคนปกติเหมือนคนอื่นทั่วไป 

         ทุกวันนี้ นุ้ย ก็ใช้ชีวิตปกติเฉกเช่นคนทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็น การเขียนหนังสือ พิมพ์คอมพิวเตอร์ ชงกาแฟ แปรงฟัน กินข้าว แต่งหน้า ทาแป้ง หรือแม้แต่สอยเข็ม คือเรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้กายอุปรณ์อะไรใด ๆ ช่วย แถม นุ้ย ยังเป็นคนรักสวยรักงาม อารมณ์ดี สดใส ร่าเริง ไม่เคยคิดว่าความพิการของตัวเองคือปมด้อย และทำให้ชีวิตมัวหมอง แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เธอก้าวออกไปเผชิญโลกภายนนอกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ใจ 

         "กำลังใจที่สำคัญต้องมาจากพ่อแม่เป็นหลัก คือพ่อแม่ต้องมีกำลังใจเข้มแข็งมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของคน สายตา พ่อแม่ต้องเป็นหลักให้กับลูก ไม่ต้องไปกลัวสายตาใคร ไม่ต้องไปแคร์ใคร นุ้ยเชื่อมั่นว่าสังคมไทยมีความรักความเมตตาให้กันอยู่แล้ว อาจจะมีบ้างที่คนมองเราไม่ดีก็ปล่อยเค้าไป เค้ารังเกียจก็ปล่อยเค้าไป แต่ตัวเราต้องเข้มแข็ง และพ่อแม่ต้องพาเค้าออกไปสู่สังคมภายนอก อย่าหลบหรือเลี้ยงแบบเก็บอยู่ในบ้าน ไม่ได้เจอใคร เพราะเมื่อวันหนึ่งที่เค้าต้องออกไปเผชิญเค้าจะรู้สึกอาย เค้าจะรู้สึกว่าเค้าแตกต่าง และสุขภาพจิตคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดนุ้ยอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนพิการ หลาย ๆ คน ยืนหยัดด้วยความสามารถของตัวเอง เพราะนุ้ยเชื่อว่าความพิการทางร่างกายมิได้เป็นอุปสรรคกับชีวิตเรา" นุ้ย กล่าวทิ้งท้าย 

         และนี่คือเรื่องราวดี ๆ ของสองชีวิตที่พระเจ้าไม่ได้ประทานความสมบูรณ์พร้อมมาให้ แต่พวกเขากลับไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาของตัวเอง ... หวังว่าบทความดี ๆ นี้จะได้กำลังใจให้เพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย

 

ตี10 แม่หัวใจเพชร ไม่เคยคิดจะทิ้งลูก แม้ลูกจะเกิดมาไม่มีแขน-ขา Part 1/4





ตี10 แม่หัวใจเพชร ไม่เคยคิดจะทิ้งลูก แม้ลูกจะเกิดมาไม่มีแขน-ขา Part 2/4




ตี10 แม่หัวใจเพชร ไม่เคยคิดจะทิ้งลูก แม้ลูกจะเกิดมาไม่มีแขน-ขา Part 3/4




ตี10 แม่หัวใจเพชร ไม่เคยคิดจะทิ้งลูก แม้ลูกจะเกิดมาไม่มีแขน-ขา Part 4/4

 
  เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :-
 
  เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :-
บทความที่น่าสนใจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
340 ลาดพร้าว 112 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 0-2514-0593 แฟ็กซ์ 0-2538-4215 Email : [email protected]

Warning: include(../../main/globalsitemap.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185

Warning: include(): Failed opening '../../main/globalsitemap.php' for inclusion (include_path='.:/usr/lib/php:/usr/local/lib/php') in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185