บริษัท เอเอซีอี เทคโนโลยีส์ ได้เปิดตัวเครื่องชำระล้างร่างกายของชาวมุสลิมก่อนจะเข้าร่วมพิธีละหมาดแบบ ประหยัดน้ำ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเครื่องมือดังกล่าวมีรูปลักษณ์หรูหราสีเขียว มีอ่างน้ำและระบบเซ็นเซอร์น้ำออโตเมติกเพื่อทำการควบคุมปริมาณน้ำที่จะถูก ใช้ในพิธีวุฎอ์ อันหมายถึง การล้างหน้า แขน และขา ของชาวมุสลิมก่อนเข้าละหมาด

การชำระล้างอวัยวะดังกล่าวเป็นพิธีกรรมที่ชาวมุสลิมจำเป็นต้องกระทำ ก่อนการละหมาด อย่างไรก็ตาม ชาวมุสลิมจำนวนมากที่อยู่อาศัยในทวีปแอฟริกาและภูมิภาคตะวันออกกลาง กลับประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ดังนั้น บริษัทเอเอซีอีจึงตั้งเป้าหมายว่าประเทศร่ำรวยในสองภูมิภาคดังกล่าวจะหันมา ใช้บริการเครื่องมือที่ตนประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งจะวางจำหน่ายในอีก 6 เดือนข้างหน้า ในราคาประมาณ 3-4 พันเหรียญสหรัฐ หรือราว 99,000-132,000 บาท

"การประหยัดน้ำจะเป็นแรงดึงดูดใจให้ผู้คนหันมาใช้บริการ เครื่องชำระล้างร่างกายในระบบใหม่นี้มากกว่าวิธีการชำระล้างแบบดั้งเดิม ซึ่งต้องสิ้นเปลืองน้ำมากกว่า" แอนโธนี่ โกเมซ ประธานบริษัทเอเอซีอี แถลงกับนักข่าวขณะเปิดตัวเครื่องมือชำระล้างกายที่บริษัทของตนเองประดิษฐ์ขึ้น

เครื่องมือที่สูง 1.65 เมตร และมีเสียงการสวดอัลกุรอานดังประกอบชนิดนี้ จะใช้น้ำเพียง 1.3 ลิตร ในการประกอบพิธีวุฎอ์ ซึ่งถือว่าน้อยมากหากนำไปเปรียบเทียบกับวิธีการชำระล้างร่างกายแบบเดิม ที่จะปล่อยให้น้ำไหลออกจากก๊อกไปเรื่อย ๆ ระหว่างพิธีการล้างหน้า แขน ขา ซึ่งใช้เวลาหลายนาที

"ในระหว่างการประกอบพิธีฮัจญ์ ที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ผู้คนราว 2 ล้านคนได้ใช้น้ำประมาณ 50 ล้านลิตร ในการประกอบพิธีชำระล้างร่างกายต่อหนึ่งวัน แต่ถ้าใช้เครื่องมือแบบใหม่นี้จะสามารถประหยัดน้ำไปได้ 40 ล้านลิตรต่อหนึ่งวัน" ประธานบริษัทเอเอซีอี กล่าวต่อ

อย่างไรก็ตาม มีชาวมุสลิมในประเทศมาเลเซียบางส่วนที่รู้สึกว่าเครื่องมือไฮเทคดังกล่าวไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับตนเอง

"เครื่องมือดังกล่าวถูกสร้างขึ้นจากความคิดที่ดีและถูกต้อง ตามหลักคำสอนทางศาสนา แต่น้ำในประเทศของเรามีราคาถูกอยู่แล้ว มันจึงไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ที่จะต้องใช้เครื่องชำระล้างร่างกายแบบนี้" อามินุดดิน พนักงานบริษัทในประเทศมาเลเซีย กล่าว

แต่ชาวสิงคโปร์ซึ่งประสบปัญหาเรื่องทรัพยากรน้ำมีจำกัด กลับเห็นว่าเครื่องมือแบบนี้มีประโยชน์ในการช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ

"ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แน่นอน พวกเรากำลังพยายามค้นหาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ที่จะช่วยธำรงรักษามนุษยชาติและธรรมชาติเอาไว้" อัซมัน โมฮัมเหม็ด นัวร์ กล่าว