เรียกคืน"ฮอนด้าซิตี้"รุ่นปี2551 ซ่อมด่วน เสี่ยงไฟไหม้น้ำรั่วเข้าสวิตช์ประตูด้านคนขับ มีเด็กตายแล้ว

เรียกคืน"ฮอนด้า ซิตี้"รุ่นปี 2551 จำนวน 2,760 คันในไทยมาแก้ไขปรับปรุงชุดควบคุมกระจกหน้าต่างบริเวณคนขับ เผยไม่มีระบบป้องกัน หากน้ำเข้าไปขังอาจเกิดไฟช็อร์ตไหม้ได้ คนโพสท์ติดต่อลูกค้าให้ครบทุกคน หวั่นเจ้าของรถไม่รู้แล้วเกิดเหตุภายหลัง

ความคืบหน้ากรณีบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์นั่งฮอนด้า แจ๊ซ และซิตี้ เตรียมเรียกคืนรถทั้งสองรุ่นทั่วโลกจำนวน 646,000 คัน ซึ่งส่วนหนึ่งผลิตในไทย กลับไปปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากถ้ามีน้ำจำนวนหนึ่งเข้าไปขังบริเวณชุดควบคุมกระจกหน้าต่างบริเวณด้านคนขับ หรือ "เพาเวอร์ วินโดว์" อาจจะเกิดไฟฟ้าช็อร์ตและไฟไหม้ดังที่เคยเกิดขึ้นจนมีเด็กเสียชีวิตมาแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มกราคม แหล่งข่าวในบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ชี้แจงว่า มาตรการเรียกรถคืน หรือ "รีคอลล์" นั้น เป็นมาตรการเชิงป้องกันของบริษัทรถยนต์ทุกแห่งต้องดำเนินการ เมื่อทราบว่ารถที่ผลิตมีความไม่สมบูรณ์ สำหรับกรณีดังกล่าว ทางบริษัทมีรถที่อยู่ในข่ายดังกล่าวจำนวน 2,760 คัน เป็นเฉพาะ "ฮอนด้า ซิตี้" รุ่นปี 2008 (พ.ศ.2551) เท่านั้น เกิดจากชุดควบคุมกระจกหน้าต่างบริเวณด้านคนขับ หรือเพาเวอร์ วินโดว์ ถ้ามีน้ำเข้าไปบริเวณปุ่มควบคุมจำนวนมาก จึงจะมีปัญหา ปัญหาดังกล่าวนี้ได้ตรวจพบในประเทศแอฟริกา สหรัฐอเมริกา และในยุโรปบางประเทศ สำหรับในประเทศไทยยังไม่เคยได้รับรายงานเลย อย่างไรก็ดี บริษัทจะทำหนังสือแจ้งไปยังลูกค้ารุ่นดังกล่าวทุกคนล่วงหน้า เพื่อให้นำรถเข้ามารับการแก้ไขโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

"เมื่อเราพบปัญหา ไม่มีระบบโพรเทค (ป้องกัน) ในระบบไฟฟ้าควบคุมการเปิดปิดหน้าต่างขับรถบริเวณจุดพักแขนคนขับ เราก็ต้องแก้ไขให้ลูกค้า แต่สำหรับรถทุกรุ่นนอกเหนือจากล็อตนี้ ยืนยันว่าจะมีระบบปกป้องปัญหาดังกล่าวเป็นปกติ" แหล่งข่าวคนเดิมระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดปัญหาดังกล่าว มีลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าโพสท์ข้อความเข้ามาในเว็บไซต์ "ซิตี้คลับ" และห้องรัชดา เว็บไซต์พันทิป เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรุ่นรถฮอนด้าที่มีปัญหาหลายราย บางความเห็นแสดงความเป็นกังวลว่ารถรุ่นที่ตนเองใช้อยู่จะเข้าข่ายด้วยหรือไม่ แต่บางความเห็นอย่างเช่น ในห้องรัชดาของพันทิป ผู้ที่ใช้ชื่อว่า Haro มองว่าเป็นเรื่องเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้บริโภคคนไทยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ จะได้เรียนรู้และพัฒนาระบบการคุ้มครองผู้บริโภคของไทย เพราะที่ผ่านมาในต่างประเทศมีการเรียกคืนรถยนต์ที่มีปัญหากันมาตั้งนานเป็นสิบปีแล้ว แต่ในเมืองไทยยังไม่มีประกาศเรียกคืนรถยนต์ออกมาเลย เพราะผู้ผลิตรถยนต์มักจะยืนกราน และไม่ยอมรับกับลูกค้าว่าสินค้าของตนมีปัญหาเรื่องคุณภาพ

"อยากฝากถึงผู้จำหน่ายรถยนต์ด้วยว่า ฐานข้อมูลที่อยู่ของลูกค้าอาจจะไม่อัพเดต จึงควรหาวิธีติดตามลูกค้าแบบอื่นๆ ในการเรียกคืนรถจากลูกค้าด้วย เช่น ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ ติดบอร์ดที่ศูนย์บริการ โฆษณาทีวี และวิทยุ ฯลฯ เพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมและทำอย่างจริงจัง เพราะถ้าลูกค้ารายใดไม่ได้รับการติดต่อแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นภายหลัง จะเป็นเรื่องใหญ่ของผู้ผลิต" ข้อความตอนหนึ่งที่โพสท์ในห้องรัชดา

วันเดียวกัน นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัท โตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาขอโทษลูกค้ากรณีการเรียกคืนรถยนต์เกือบ 10 ล้านคันทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นรถที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา และยุโรป หลังจากเกิดปัญหาเกี่ยวกับคันเร่งค้าง โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ทางบริษัทขออภัยอย่างสูงที่ทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ

ก่อนหน้านี้ ทางโตโยต้าได้เสนอแผนการซ่อมคันเร่งไปยังหน่วยงานด้านความปลอดภัยบนถนนของสหรัฐแล้ว ซึ่งมีรายงานว่าทางหน่วยงานพอใจกับแผนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเรียกคืนรถยนต์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงด้านความปลอดภัยของโตโยต้าอย่างมาก ทางบริษัทเองให้คำมั่นว่าจะกู้ชื่อเสียงของบริษัทกลับมาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ โตโยต้าเรียกคืนรถยนต์จากสหรัฐหลายรอบในช่วงไม่นานมานี้รวมแล้ว 5 ล้าน 6 แสนคัน หลังพบความผิดปกติของคันเร่งในรถหลายคัน การเรียกคืนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสหรัฐ ส่วนที่ยุโรปนั้น โตโยต้าเรียกรถยนต์คืนไปเกือบ 2 ล้านคันแล้ว