เตือนผู้ประกอบการไทยอย่ามองข้ามตลาดสินค้ามุสลิม ในจีนที่กำลังขยายตัวและเติบโต อย่างรวดเร็ว เน้นเร่งสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคชาวมุสลิม
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (สอ.) กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่เป็น หน่วยงานที่ส่งเสริมและผลักดัน สินค้าฮาลาลสู่ตลาดโลก ได้กล่าว ฝากแก่ผู้ประกอบการไทยในกลุ่ม ธุรกิจสินค้าฮาลาลว่า ปี 2552 ตลาดสินค้าอาหารฮาลาลมีมูลค่า รวมสูงถึง 547,000 ล้านเหรียญ สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 12 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรกรรม ของโลก และมีแนวโน้มขยายตัว ในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินว่า ตลาดสินค้าอาหารฮาลาลจะมีมูลค่ากว่า 550,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2553 นอกจากนี้ ปัจจุบันมีชาวมุสลิมทั่วโลกอยู่กว่า 2,000 ล้านคน ในกว่า 110 ประเทศ และประ เมินว่าผลจากการขยายตัวของ จำนวนประชากรโลกที่นับถือศาสนาอิสลาม คาดว่าจะมีชาว มุสลิมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรโลกในปี 2568 ซึ่งนั่นหมายถึงตลาดสินค้าอาหารฮาลาลขนาดมหึมาที่รออยู่
โดยประเทศที่น่าจับตามอง มากก็คือประเทศจีน ซึ่งมีชาวมุสลิมกว่า 30 ล้านคน คิดเป็น 2.3 ของจำนวนประชากรจีน โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในมลฑลหนิงเซี่ยะ กานซู่ เขตปกครองอิสระมองโกเลียในซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีร้านอาหารอิสลาม อยู่จำนวนมาก เป็นโอกาสในการ เจาะตลาดสินค้าฮาลาลอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการที่ อุปสงค์สินค้าอาหารฮาลาลในจีน กำลังขยายตัว ในอีกด้านหนึ่ง ก็พบว่า อุปทานทั้งจากภายในและ ต่างประเทศกำลังถาโถมเข้าจีน มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าอาหาร ฮาลาลของไทยจึงควรเร่งศึกษา วิเคราะห์และส่งเสริมการทำตลาดสินค้านี้อย่างจริงจังและต่อเนื่องเพราะตลาดอาหาร ฮาลาลในจีนนี้นับว่า สร้างยาก แต่เมื่อสร้างขึ้นมาได้แล้ว ก็ง่ายต่อการขยายตลาด ในทางกลับกัน หากสูญเสียตลาดนี้ให้คู่แข่งขัน ก็จะเป็นการยากที่จะ เรียกคืนกลับมา |