คมชัดลึก : ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเวลากว่า 5 ปี ไม่เพียงแค่สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องทุกกลุ่มอาชีพในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังบั่นทอนคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ทรุดลงลงด้วย โดยเฉพาะเม็ดเงินหล่อเลี้ยงครอบครัว จากที่เคยได้เป็นกอบเป็นกำจากการทำสวนยาง สวนผลไม้ ทำประมง กลับหดหาย

สำหรับ “กลุ่มสตรีบ้านดาโต๊ะ” ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถือเป็นหนึ่งในข้อยกเว้นสำหรับปัญหาดังกล่าวข้างต้น เพราะเหล่าแม่บ้านทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ในชุมชนแห่งนี้ ไม่ยอมตกให้ชีวิตเป็นผู้ถูกกระทำจากผลแห่งความรุนแรงเพียงฝ่ายเดียว จึงรวมตัวกันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจนี้ด้วยการรวมกลุ่มทำขนมขาย โดยหยิบเอา "ขนมหัวเราะ" ขนมไทยเชื้อสายจีน ที่ในอดีตเป็นเมนูคู่เคียงของกาแฟยามเช้าในพื้นที่ชายแดนใต้ แต่ปัจจุบันเป็นของกินที่หาชิมได้ยากมาเป็นจุดขายเลี้ยงปากเลี้ยงท้องระหว่างรอสันติสุขกลับคืนอีกครั้ง

 ซาลิมะฮ์ วาเฮง ประธานกลุ่มสตรีบ้านดาโต๊ะ โต้โผคนสำคัญในการปลุกกระแสขนมหัวเราะจนกลายเป็นจุดรวมตัวในนาม “กลุ่มสตรีทำขนมบ้านดาโต๊ะ” ซึ่งสมาชิกแต่ละรายล้วนมีอาชีพหลักคือเกษตรกรรมและประมงพื้นบ้าน บอกว่าเริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน มีสมาชิกเพียงไม่กี่ชีวิต ปัจจุบันเพิ่มเป็นหลายสิบคน ด้วยเป้าหมายสร้างรายได้จากการรวมกลุ่ม “ทำขนม” เพื่อส่งออกสู่ตลาดผู้บริโภคในท้องถิ่น และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดชายแดนใต้

 ประธานกลุ่มกล่าวว่า การรวมกลุ่มเพื่อทำขนมจะเกิดขึ้น 2-3 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและงานบุญ จะมียอดสั่งสินค้าเข้ามายังกลุ่มแม่บ้านเป็นจำนวนมาก จึงส่งให้สมาชิกจะได้รับรายได้เฉลี่ยคนละ 2,000-3,000บาทต่อเดือน แม้จะไม่ใช่ตัวเลขที่สูงมากนัก แต่สำหรับคนในพื้นที่เงินทุกบาทที่หาได้ล้วนมีค่าและมีความหมายต่อชีวิต

 ส่วนที่มาของชื่อ “ขนมหัวเราะ” นั้น เป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของขนมที่แตกขณะทอดคล้ายกับคนกำลังหัวเราะ ที่สำคัญเมื่อรับประทานแล้วรสชาติของความอร่อยทำให้ผู้บริโภคมีความสุขล้นจนเก็บความรู้สึกไม่อยู่ถึงขั้นหัวเราะ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อขนมชนิดนี้

 ประธานกลุ่มสตรีบ้านดาโต๊ะ บอกถึงขั้นตอนการทำว่าไม่ยุ่งยาก โดยเริ่มจากการร่อนแป้ง(แป้งสาลี) เกลือและผงฟูเข้าด้วยกันแล้วพักไว้ จากนั้นตีไข่ไก่ ไข่แดง และเนยให้ขึ้นฟู แต่งกลิ่นด้วยรสวานิลา หรือรสอื่นๆ จากนั้นเติมน้ำตาลและตีต่อไปเรื่อยๆ จนขึ้นฟูขาว แล้วจึงนำแป้งที่พักไว้ใส่ลงไปสลับกับน้ำแล้วค่อยๆ ตะล่อมให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเป็นก้อนโต จากนั้นแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ ขนาด 1 นิ้ว คลุกงาขาว-งาดำ ให้ทั่ว

 จากนั้นใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟให้ร้อน โดยใช้ไฟอ่อน ก่อนนำแป้งที่ปั้นไว้ลงทอด ใช้ไม้ปลายแหลมคนกลับไปกลับมาจนขนมฟูและแตกออก โดยวิธีการสังเกตว่าขนมสุกหรือไม่นั้นให้ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มตรงรอยแยก ถ้าไม่มีเศษขนมติดออกมาแสดงว่าสุกแล้ว ตัดขึ้นและวางให้สะเด็ดน้ำมันเพียงเท่านี้ก็ได้ “ขนมหัวเราะ” ที่หอม อร่อย นำไปรับประทานคู่กับกาแฟ หรือเครื่องดื่มสมุนไพรได้ตามใจชอบ

 สำหรับใครที่สนใจติดต่อได้ที่โทร.08-7296-2271 เพราะไม่เพียงแค่ได้ลองลิ้มชิมรสชาติของความอร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยสนับสนุนกลุ่มให้มีรายได้เลี้ยงปากท้องในยามที่ต้องเผชิญวิกฤติจากปัญหาความไม่สงบอีกด้วย

สุพิชฌาย์ รัตนะ