รัฐบาลมาเลเซียเรียกทูตต่างเข้าฟังคำชี้แจง กรณีเกิดเหตุลอบโจมตีวางเพลิงโบสถ์แล้วร่วม 10 แห่งในประเทศ สืบเนื่องจากความพยายามห้ามคนนอกอิสลามใช้คำ "อัลลอฮ์" เรียกขานพระเจ้า รัฐมนตรีมหาดไทยเอาสีข้างเข้าถูอ้างข้างๆ คูๆ ภูมิทัศน์มาเลเซียต่างจากเพื่อนบ้านอาหรับและอินโดนีเซียที่ชาวคริสต์ใช้คำ นี้ได้
การลอบทำลายทรัพย์สินโดยปาระเบิดและโจมตีโบสถ์คริสต์ในมาเลเซียยังเกิดต่อ เนื่อง โดยโบสถ์ซิดังอินจิลบอร์เนียว ในรัฐเนกรีเซมบีลัน เป็นเหยื่อล่าสุดแห่งที่ 9 เมื่อวันจันทร์ สาธุคุณเอ็ดดี มาร์ซัน ยาซีร์ เผยว่า ประตูทางเข้าโบสถ์ซึ่งทำด้วยไม้ถูกไฟไหม้เกรียม แต่ไม่พบหลักฐานว่าเป็นการใช้ลูกระเบิดขวด ด้านในโบสถ์มีร่องรอยควันไฟด้วย โชคดีที่เพลิงไม่ลุกลาม โบสถ์ซึ่งมีคริสต์ศาสนิกชนราว 400 คนแห่งนี้ใช้ภาษามาเลย์ในการประกอบพิธี เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่พูดภาษามาเลย์ และมีการใช้คำ "อัลลอฮ์" ในการเทศน์และสวดภาวนา
การโจมตีโบสถ์คริสต์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยมีโบสถ์ 4 แห่งที่เมืองหลวงถูกมือดีปาระเบิดขวดจนไฟไหม้เสียหายไป 1 หลัง ต่อมาโบสถ์อีกหลายหลังในรัฐอื่นถูกลอบปาระเบิดขวดและปากระจก รวมถึงนำสีดำมาป้าย ทำให้ทางการมาเลเซียต้องเพิ่มการคุ้มครองศาสนสถานทั่วประเทศ
ต้นตอของความไม่พอใจมาจากคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ตัดสินยกเลิกคำสั่งห้ามของรัฐบาล ที่ไม่อนุญาตให้คริสตจักรโรมันคาทอลิกใช้คำอัลลอฮ์เรียกขานพระเจ้า ในการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์เฮรัลด์ของคริสตจักรฉบับภาษามาเลย์ คำตัดสินนี้ยังมีผลยกเลิกคำสั่งห้ามกรณีอื่นๆ เช่น การตีพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลภาษามาเลย์ ซึ่งไม่นานมานี้ถูกทางการยึดไป 10,000 เล่ม รัฐบาลมาเลเซียกำลังอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว
เฮรัลด์ใช้คำคำนี้ในการตีพิมพ์ฉบับภาษามาเลย์มาตั้งแต่ปี 2538 แต่เพิ่งมาเกิดปัญหาในปี 2549 เมื่อรัฐบาลมีคำสั่งให้เลิกใช้ นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า คำสั่งห้ามของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่าพรรคองค์การสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ของนายกฯ นาจิบ ราซัก กำลังใช้ศาสนาอิสลามเรียกเสียงสนับสนุนจากชนเชื้อสายมาเลย์ ทำให้เส้นแบ่งระหว่างศาสนากับเชื้อชาติรางเลือน
ในวันจันทร์ กระทรวงมหาดไทยได้เชิญนักการทูตต่างชาติ 70 รายมารับฟังคำชี้แจงราว 1 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และรับปากว่ารัฐบาลจะ "ปกป้องความศักดิ์สิทธิ์" ของความหลากหลายทางศาสนาในมาเลเซีย โดยตำรวจจะเพิ่มการลาดตระเวนตรวจตราตามโบสถ์และมัสยิดทั่วประเทศ
มะห์มูด อดัม รัฐมนตรีมหาดไทย เปิดเผยว่า พวกทูตได้ซักถามด้วยว่าเหตุใดมาเลเซียจึงห้ามศาสนาอื่นใช้คำอัลลอฮ์ ทั้งที่ชาวคริสต์ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดใน โลก และประเทศอาหรับอื่นๆ เช่นซีเรียและเลบานอน ก็ใช้คำนี้มายาวนานแล้ว
"พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณที่นี่ พวกเขาแค่อยากรู้ว่าทำไมประเทศอื่นๆ จึงใช้ได้ แต่ที่นี่กลับใช้ไม่ได้" เขาเผยกับผู้สื่อข่าว "พูดให้ยุติธรรม คุณต้องเปรียบเทียบแอปเปิลกับแอปเปิล, ส้มกับส้ม ภูมิทัศน์ของเราต่างจากประเทศอื่นๆ คนมาเลย์ที่นี่ต่างจากคน (มุสลิม) ประเทศอื่น ภูมิทัศน์ที่นี่ต่างจากอินโดนีเซีย จึงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้". |
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน