ประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยข่าวกรองในยุคปัจจุบันลดน้อยลง อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ต้องจัดการกับข้อมูลข่าวสารที่มีจำนวนมากเกินไป นับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่อีก 16 หน่วย ...

ศาลใน เมืองดีทรอยต์ของสหรัฐฯ ตั้งข้อหาแก่นายอูมาร์ ฟารูค อับดุลมูตัลลับ คนร้ายชาวไนจีเรีย ซึ่งลอบนำวัตถุระเบิดขึ้นบนเครื่องบินสหรัฐฯเมื่อปลายปีที่แล้ว ฐานพยายามฆ่าและครอบครองอาวุธทำลายล้างอานุภาพร้ายแรง เป็นภัยต่อผู้โดยสารกว่า 300 คนบนเครื่องบิน เมื่อ 6 ม.ค. ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯเตรียมไต่สวนกระบวนการทำงานของศูนย์ต่อต้านการก่อการร้าย แห่งชาติ (NCTC) เพื่อสืบหาสาเหตุข้อผิดพลาดของระบบปฏิบัติการและบุคลากรด้านหน่วยข่าวกรอง ที่ไม่อาจป้องกันเหตุก่อการร้ายของอับดุลมูตัลลับได้

ด้านนายบรูซ รีเดล อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีพร้อมระบุประสิทธิภาพการทำงานของหน่วย ข่าวกรองในยุคปัจจุบันลดน้อยลง อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ต้องจัดการกับข้อมูลข่าวสารที่มีจำนวนมากเกินไป นับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่อีก 16 หน่วย และมีเจ้าหน้าที่กว่า 200,000 คน หลังเหตุการณ์วินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรด 9/11 ในปี 2544 เพื่อรับผิดชอบด้านการรวบรวมและแยกแยะข้อมูลลับของกลุ่มก่อการร้ายโดยเฉพาะ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถคัดกรองข้อมูลไปใช้ได้ทันท่วงที เพราะข้อมูล ได้มาจากหลายทาง ทำให้เกิดการทำงานซ้ำซ้อนในหลายหน่วยงาน

ขณะที่นาง ฮิลลารี คลินตัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยเรื่องทิศทางการรับมือปัญหากลุ่มก่อการร้ายที่สถาบันวิเคราะห์ เศรษฐกิจ ระหว่างประเทศปีเตอร์สันในกรุงวอชิงตัน ระบุการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิมคือปัจจัยสำคัญที่จะหยุดยั้งมิ ให้เยาวชนรุ่นใหม่เข้าไปเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อการร้าย เพราะความสิ้นหวัง ไร้อนาคต และไร้ซึ่งอาชีพการงานคือแรงผลักดันให้คนจำนวนมากเข้าร่วมขบวนการหัวรุนแรง ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อโลกตะวันตก คลินตันยังระบุอีกด้วยว่า สตรีชาวมุสลิมควรได้รับการส่งเสริมด้านการศึกษา รวมถึงการพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการลงทุน เพราะจะช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นในประเทศมุสลิมมีความเข้มแข็งมากขึ้น

ส่วน สถานการณ์กลุ่มก่อการร้ายที่อัฟกานิสถานยังไม่ลดระดับความรุนแรง คนร้ายระเบิดรถนักเรียนในเมืองนังกราฮาร์ ทางตะวันออกของอัฟกาฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ เป็นเด็กนักเรียนประถม 4 ศพ และตำรวจ 1 นาย รวมถึงผู้บาดเจ็บอีก 81 คน ด้านชีค มุสตาฟา อาบู อัล-ยาซิด รองหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัล เคดา ลำดับ 3 เพิ่งออกแถลงการณ์เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ อ้างตัวเป็นกลุ่มก่อเหตุระเบิดสำนักงานหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯในอัฟกาฯ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ทั้งที่ก่อนหน้านี้โฆษกกองกำลังตาลีบันชิงประกาศตัวเป็นผู้ก่อเหตุไปแล้ว โดยอ้างว่าต้องการล้างแค้นให้หัวหน้าหน่วยรบที่ถูกทหารนาโตสังหาร.