สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย ระบุในข้อความที่โพสต์ตามเว็บไซต์อิสลามหลายแห่งว่า เหตุพยายามระเบิดเครื่องบิน สายการบินนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์ เที่ยวบินอัมสเตอร์ดัม-ดีทรอยต์ จากเนเธอร์แลนด์ไปสหรัฐฯ ว่า  เป็นการแก้แค้นสหรัฐฯที่ โจมตีสมาชิกอัลกออิดะห์ในเยเมน ทางกลุ่มเป็นผู้ให้อุปกรณ์ระเบิดเทคโนโลยีสูงแก่นายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตัลลับ ชายชาวไนจีเรีย  วัย 23 ปี แต่เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคทำให้ไม่ระเบิด 

แถลงการณ์ทางอินเตอร์ ของกลุ่มอัลเคดา ยังระบุอีกว่า ขอเรียกร้องชาวมุสลิมทั่วโลกให้จัดการกับผู้ไม่เชื่อ ให้ออกไปจากคาบสมุทรอาหรับ โดยการฆ่า คนซึ่งทำงานในสถานทูตและที่อื่นๆ 

ก่อนหน้านี้นายอูมาร์ บอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของสหรัฐฯว่า สายลับอัล เคดาในเยเมน ได้จัดหาระเบิด และทำการฝึกสอนให้เขา 

ด้าน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวระหว่างพักผ่อนที่เกาะฮาวายว่า จะไม่ยอมรามือจนกว่าจะสามารถตามจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดและนำไปรับโทษ เขาจะใช้อำนาจทุกอย่างของสหรัฐฯขัดขวาง ขจัดและกำราบผู้มีแนวคิดสุดโต่งที่ข่มขู่สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนหรือวางแผนโจมตีสหรัฐฯจากที่ใด ขณะเดียวกันได้สั่งทบทวนกระบวนการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าสหรัฐฯเพื่อ ป้องกันไม่ให้มีผู้นำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องบินได้อีก 

ส่วนนายโจ ลีเบอร์แมน ประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในวุฒิสภา ซึ่งเป็น ส.ว.อิสระที่มักลงคะแนนให้พรรคเดโมแครต เผยว่า จะเปิดการไต่สวนเรื่องนี้ในเดือนมกราคม ว่าเหตุใดนายอับดุลมูตัลลับ จึงไม่ถูกตรวจสอบ ทั้งที่มีชื่อในผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย และเหตุใดท่าอากาศยานจึงไม่ใช้เครื่องสแกนร่างกายอย่างละเอียดกับผู้โดยสาร มากกว่าเดิม.