ทางการจีนออกโรงโต้ข้อกล่าวหาของผู้นำพลัดถิ่นอุยกูร์ ปฏิเสธไม่เคยกดดันให้กัมพูชาส่งตัวมุสลิมอุยกูร์กลับบ้านเพื่อแลกกับความ ช่วยเหลือ กัมพูชาลงนามข้อตกลง 14 ฉบับกับจีน รวมมูลค่ากว่า 850 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อวันจันทร์ สองวันหลังกัมพูชาเมินเสียงประณามจากประชาคมโลกตัดสินใจส่งตัวผู้ขอลี้ภัย ชาวอุยกูร์ 20 คนคืนให้ทางการจีน
ชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ซึ่งมีเชื้อสายตุรกี เคยเป็นคนส่วนใหญ่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงทางตะวันตกของจีนก่อนที่ชาวจีน ฮั่นจะเข้ามาตั้งรกราก แต่ด้วยวัฒนธรรมและศาสนาที่แตกต่าง ทำให้ชาวอุยกูร์ได้รับการปฏิบัติจากรัฐบาลอย่างไม่เท่าเทียม นำมาซึ่งความโกรธแค้นและความขัดแย้งกับชาวจีนฮั่น จนในที่สุดเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่เมื่อเดือน ก.ค. มีคนตาย 197 รายและบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
ปัญหานี้ทำให้ชาวอุยกูร์กลุ่มหนึ่งลักลอบเข้ากัมพูชาเมื่อราว 1 เดือนก่อน เพื่อมาสมัครขอลี้ภัยที่สำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ
แม้หลายฝ่ายพยายามยับยั้ง แต่ทางการกัมพูชาก็ตัดสินใจส่งตัวคนเหล่านี้กลับโดยไม่สนว่าพวกเขาจะมีชะตากรรมเช่นไรเมื่อกลับถึงจีน
เรบิยา คาเดียร์ ผู้นำชาวอุยกูร์พลัดถิ่นในสหรัฐ เขียนบทวิจารณ์ลงวอลสตรีทเจอร์นัล ระบุการตัดสินใจของกัมพูชาเป็นผลมาจากแรงกดดันและสิ่งล่อใจเป็นความช่วย เหลือมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์จากจีนอย่างไม่ต้องสงสัย
เจียง หยู โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ออกโรงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทันที พร้อมปัดไม่ยอมเปิดเผยว่าขณะนี้ชาวอุยกูร์ทั้ง 20 คนถูกควบคุมตัวไว้ที่ใด "การลักลอบข้ามชายแดนไปยังกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองของทั้งสองประเทศ นอกจากนั้นเรายังสงสัยว่าคนกลุ่มนี้อาจพัวพันกับคดีอาชญากรรมด้วย"
ปัจจุบัน จีนถือเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังไม่นับรวมเงินอัดฉีดมหาศาลในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ไล่ตั้งแต่ถนนหนทางและการชลประทาน ไปจนถึงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
อย่างไรก็ดี โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศจีนยืนยันความช่วยเหลือที่จีนให้แก่กัมพูชา นั้นไม่มีเงื่อนไขผูกพัน "จีนและกัมพูชาเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมานาน เราช่วยเหลือกัมพูชาเท่าที่เราจะช่วยได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น". |