โจรใต้ยังปฏิบัติการเหี้ยมโหด ยิงถล่มผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมลูกสาววัย 2 ขวบจ.ยะลาดับอนาถ ก่อนหยิบปืนคาบิ้นติดมือหลบหนีไป ส่วนที่ปัตตานี ลอบวางระเบิดทหารชุดรปภ.ครู ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย วางบึมหน้าร้านบะหมี่เกี๊ยวกลางใจเมือง มีผู้บาดเจ็บเพียบ อส.ถูกยิงดับ 1 ศพ ตำรวจชุดรปภ.ครูนราฯถูกลอบวางระเบิดดักสังหารเช่นกัน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ก่อนคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ไปสอบสวนเนื่องจากพบสารปนเปื้อนวัตถุระเบิดติดตามเสื้อผ้า ปธ.ครูนราฯหวั่นปลายปี โจรใต้บึ้มถี่ จี้จนท.เอ็กซเรย์เข้ม                

                จากกรณีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.15 อ.บันนังสตา และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตาจ.ยะลา เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นเนินเขาใกล้หมู่บ้านอูแบ หมู่ที่ 1 ต.บาเจาะอ.บันนังสตาและได้เกิดการปะทะกับกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน เป็นเหตุให้นายฮัมดี สามะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/1 บ้านอูแบ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตาเสียชีวิต พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซีแซด ขนาด 9 มม. ได้ 1 กระบอกนั้น  

                ล่าสุดวันที่ 17 ธ.ค.52 เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.15 อ.บันนังสตา และตำรวจ สภ.บันนังสตา พร้อมด้วยฝ่ายปกครองกว่า 50 นาย ยังคงอยู่ในพื้นที่บ้านอูแบและหมู่บ้านใกล้เคียง ในพื้นที่ ต.บาเจาะ เพื่อกดดันและไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่คาดว่าจะหลบหนีจากการปะทะ ส่วนอาวุธปืนที่ยึดได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบว่าเคยใช้ก่อเหตุร้ายมาแล้วกี่ครั้งกี่คดี สำหรับผู้ต้องสงสัย จำนวน 3 คน ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว คือนายมอซือรี กอลำ อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 1 ต.กอลำ อ.ยะรัง นายอับดุลนาเซะ กะตา อยู่บ้านเลขที่ 94/1 หมู่ที่ 2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และนายดอรอแม กอลำ อยู่บ้านเลขที่ 58/2 หมู่ที่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่   

                ส่วนเหตุความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ จ.ยะลา ช่วงเช้าวันเดียวกัน ตำรวจ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน พร้อมด้วยทหารและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 8 คน ใช้อาวุธสงครามยิงนายเจ๊ะอารง ยามา อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 และ ด.ญ.นัรมี ยามา อายุ 2 ขวบ 7 เดือน ลูกสาวจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะนำอาวุธปืนยาวคาบิ้น หมายเลข 2189829 หลบหนีไปด้วย เหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้านหมู่ที่ 2 ต.จะกว๊ะ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตายและลูกสาวกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก

                เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์การณ์เนื่องจากนายเจ๊ะอารง ได้ช่วยเหลือและป้อนข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด จนทำให้คนร้ายโกรธแค้นและลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น                 

ที่จ.ปัตตานี เวลา 07.55 น.คนร้ายลอบวางระเบิดแบบแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ไว้ใต้ผิวถนนบริเวณบ้านโคกหญ้าคา หมู่ที่ 6 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง ก่อนที่จะจุดชนวนเพื่อหวังสังหารเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร้อย ร.3034 ฉก.ปัตตานี 21 ที่กำลังลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มครูที่จะไปโรงเรียน แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นายคือ ส.อ.สุระพงศ์ ศรีสุธรรม,ส.อ.วิชัย โตทรายมูล,ส.อ.ศรีสุทธิ หะไกลลาศ,ส.อ.สิทธิเดช วังนาทันและ พลทหารโกมุท เน้นอุดร แต่ละคนมีบาดแผลจากแรงระเบิดและอาการปลอดภัยหมดแล้ว

                จากนั้นเวลา 12.30 น.เกิดเหตุระเบิดหน้าร้านอาหาร “ราชาบะหมี่เกี๊ยว”ริมถนนหนองจิก ตรงข้ามปั๊มน้ำมันบางจาก เขตเทศบาลเมืองปัตตานี หมู่ที่ 5 ต.รูสะมิแล โดยคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือวางไว้ในกระถางต้นไม้หน้าร้าน ซึ่งในขณะเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานและประชาชนกำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงเป็นจำนวนมาก แรงระเบิดทำให้ข้าวของและรถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าร้านล้มระเนระนาด และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 13 ราย ประกอบด้วย อส.ทพ.พันธกิจ บัวกราน,อส.ทพ.ประสิทธิ์ หนูโฆระ,นายรังสิทธิ์ เมตตามะตะกุล,นางเยาวนิช ชื่นชัวหาย,น.ส.ฐิตารี นันทอง,นายไพศาล อ่อนหัวโทน,นางบุษบา คงเหมือนเพชร,นายสุมิตร ขุนสา,ร.ต.มนฑล ชื่นหมี้,นางมะลิ ใจบริสุทธ์,นางปิ่นรัตน์ นวลละออง,นางบุญมา จันทร์น้อม,นายกฤษนะ เพชรภิมล ทั้งหมดมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ แขน ขา และหูอื้อ อาการไม่สาหัส ก่อนนำตัวส่ง รพ.ปัตตานีเพื่อให้แพทย์ทำแผลและกลับบ้านได้     

ก่อนหน้านี้เวลา 00.30 น. วันเดียวกัน นายอิสเลาะ เจ๊ะนิ อายุ 28 ปี อาสาสมัคร อ.ยะหริ่ง อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ที่ 3 ต.ตอหลัง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตขณะขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากซื้อของที่ร้านค้า เหตุเกิดบนถนน สายตอหลัง- อ.ปะนาเระ

                ส่วนที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 08.15 น.วันที่ 17 ธ.ค.เช่นเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดดักสังหารตำรวจชุด รปภ.ครูโรงเรียนบ้านดอเฮะ จำนวน 13 นาย บริเวณพงหญ้าใต้ป้ายชื่อ อบต.ริโก๋ ริมถนนสายสากอ-สุไหงปาดี ช่วงบ้านดอเฮะ หมู่ที่ 3 ต.ริโก๋

                ในที่เกิดเหตุพบหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุตที่เกิดจากแรงระเบิดประมาณ 5 กิโลกรัม ที่คนร้ายบรรจุในกล่องเหล็กจุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย

                จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้สนธิกำลังปิดล้อมสวนยางพาราใกล้จุดเกิดเหตุซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายได้อาศัยพื้นที่ดังกล่าวแฝงตัวจุดชนวนระเบิด และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือนายมหามะ เฮาะสนิ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ที่ 1 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี ซึ่งกำลังกรีดยางพาราอยู่ และเมื่อนำเครื่อง จี.ที.200 ตรวจตามร่างกายปรากฏสารปนเปื้อนวัตถุระเบิดตามเสื้อผ้า จึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนขยายผล 

                ด้านนายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดชุดรปภ.ครูที่นราธิวาส ปัตตานีและยะลา ได้แจ้งเตือนไปยังเพื่อนครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ระวังมากขึ้นในช่วงปลายปี โดยเฉพาะเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลในเชิงลึกจากเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานว่า คนร้ายพยายามก่อเหตุด้วยการใช้วัตถุระเบิด และพุ่งเป้าไปยังเป้าหมายที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมไปยังอำนาจรัฐได้มากที่สุด ดังนั้นข้าราชการครูและบุคคลากรทางศึกษาจึงต้องไม่ประมาทในสถานการณ์ขณะนี้ ขณะที่เดียวกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องตรวจสอบเฝ้าระวังและทำงานหนักมากขึ้น

                ทางด้านนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึบกรคะแสข่าวกลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมแผนที่จะป่วนช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะงานเคาท์ดาวน์ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานข่าวดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าจะเดินทางไปร่วมงานดังกล่าวอย่างแน่นอนขอให้ประชาชนมาเที่ยวกันให้มากๆ ซึ่งได้กำชับให้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้เป็นอย่างดี