รัฐบาลอิรักเริ่มคิดคำนวณเงินรายได้จำนวนมหาศาล ที่จะไหลเข้าคลังของประเทศ หลังเปิดประมูลสัมปทานพัฒนาแหล่งน้ำมันครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์-เสาร์ ที่ผ่านมา โดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของโลก ส่งตัวแทนไปแข่งประมูลแบ่งเค้กกันอย่างคึกคักถึง 44 บริษัท
แน่นอนงานนี้ต้องมีพลังทางการเมือง เป็นตัวช่วยอย่างไม่ต้องสงสัย
อิรักเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรอง มากเป็นอันดับ 3 ของโลก การประมูลครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา อิรักเสนอบ่อน้ำมันดิบขนาดใหญ่รวม 8 บ่อ แต่ปรากฏว่ามีผู้สนใจ คว้าประมูลไปได้แค่บ่อเดียว เหตุผลหลักคือ อัตราเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูงเกินไป
คราวนี้เปิดให้ประมูลทั้งหมด 15 บ่อใหญ่ แต่มีผู้คว้าไปได้แค่ 7 บ่อ เกือบครึ่ง โดย 4 ใน 7 บ่ออยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวอิรักมุสลิมนิกายชีอะห์ ความปลอดภัยในพื้นที่สูง
อีก 2 บ่ออยู่ในภาคเหนือ มีผู้สนใจยื่นประมูลแค่รายเดียว เลยได้ไปทั้ง 2 บ่อ คือบริษัทโซโนแกลของแองโกลา และบ่อสุดท้ายอยู่แถบภาคกลาง ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงยังอยู่ในระดับต่ำสุด
ผู้ชนะ คว้าสิทธิพัฒนาบ่อใหญ่สุด ในการประมูลรอบ 2 นี้ ได้แก่กลุ่มธุรกิจร่วมทุนนำโดย ลุคออยล์ บริษัทพลังงาน ยักษ์ใหญ่ของเอกชนรัสเซีย และบริษัทสเตทออยล์ เอเอสเอ ของนอร์เวย์ จะร่วมกันขุดเจาะบ่อเวสต์ กูร์นา เฟส 2 ในเขตบาสรา ซึ่งมีน้ำมันดิบรออยู่ก้นบ่อ 12,880 ล้านบาร์เรล
โดยบ่อนี้ ลุคออยล์-สเตทออยล์ เอาชนะคู่แข่งอีก 3 ราย ได้แก่ โท เทล ของฝรั่งเศส ปิโตรนาสของรัฐบาลมาเลเซีย และบีพีของอังกฤษ ที่ต่างก็พยายามงัดทุกกลยุทธ์เข้าสู้ แต่ในที่สุดก็แพ้ให้กับ 2 บริษัทแรกในยกสุดท้าย
ลุคออยล์-สเตทออยล์ เสนอที่จะยอมรับราคา 1.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และตั้งเป้าจะขุดน้ำมันดิบขึ้นมาวันละ 1.8 ล้านบาร์เรล เป็นเวลา 13 ปี
แต่ปิโตรนาสก็แก้ตัวได้ โดยชนะประมูลบ่อใหญ่อันดับ 2 บ่อมัจนูน ร่วมกับบริษัทเชลล์ ซึ่งมีน้ำมันดิบ 12,580 ล้านบาร์เรล โดยทั้งคู่เสนอที่จะรับบาร์เรลละ 1.39 ดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้าจะเพิ่มการผลิต จากวันละ 45,900 บาร์เรลในปัจจุบัน เป็นวันละ 1.8 ล้าน บาร์เรล
นอกจากนั้น ปิโตรนาสยังหุ้นกับโทเทล ต่อหางแถวบริษัทพลังงานของรัฐบาลจีน ไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ป หรือ ซีเอ็นพีซี คว้าประมูลบ่อ ฮาลฟายา ปริมาณน้ำมันดิบ 4,100 ล้านบาร์เรล ในราคาที่เสนอจะยอมรับ 1.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยตั้งเป้ายกระดับการผลิต จากวันละ 3,100 บาร์เรลในปัจจุบัน เป็นวันละ 535,000 บาร์เรล
เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเอ็กซอน โมบิล หรือเชฟรอน ต่างก็ไม่สนใจเข้า ร่วมประมูลแบ่งเค้ก จะมีก็เพียงบริษัทระดับรองบริษัทเดียวคือ อ็อกซิเดนทัล เข้าประมูลวันแรก แต่สู้รายอื่นไม่ได้
การขาดหายไปของบริษัทใหญ่จากสหรัฐ ประเด็นนี้น่าจะเป็นการให้ความร่วมมือรัฐบาล เพื่อตัดข้อครหา สหรัฐก่อสงครามบุกยึดอิรัก เพื่อครอบครองแหล่งพลังงาน
อัล-ชาห์ริสตานี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรัก รัฐบาลตัดสินใจ 5 บ่อจาก 15 บ่อที่นำออกประมูลกลับคืน เพื่อทำการพัฒนาเอง และการประมูลครั้งนี้จะทำให้อิรัก เพิ่มการผลิตน้ำมันดิบขึ้นเป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวันภายใน 6 ปี จากปัจจุบันที่ผลิตได้แค่วันละ 2.5 ล้านบาร์เรล จากภาวะสงครามและความไม่สงบในประเทศ นับตั้งแต่สหรัฐส่งกำลังเข้าไปขับไล่ และโค่นล้มรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน
และภายหลังการประมูลทั้ง 2 รอบ สัมปทานที่ให้กับบริษัทต่าง ๆ หากคิดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในขณะนี้ อิรักจะมีเงินรายได้เข้าประเทศ ปีละประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ. |
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน