 | นายกฯไทย-มาเลย์ลงนราฯเปิดสะพานมิตรภาพ วันนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายนาจิบ ราซัค นายกฯ มาเลเซีย ร่วมเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์ ที่ จ.นราธิวาส โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ร่วมในพิธี
สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์ จะเชื่อมต่อระหว่างบ้านบูเกะตา ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส กับบ้านบูเกะบูงอ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซีย นอกจากนี้ คณะนายกฯ จะเดินทางไปเยี่ยมศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง บ้านรอตันบาตู และพบปะครู-นักเรียนโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามมียะห์ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส
|
ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตลอดทั้งคืนตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ตั้งจุดตรวจสกัดป้องกันคนร้ายแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุ โดยขณะทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 6 นาย ขับขี่รถ จยย.ออกลาดตระเวนเส้นทางริมถนนเลียบแม่น้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย ต.เกาะกระท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด ก่อนยิงถล่มซ้ำ ทำให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย
ส่วน นายสุเทพ เปิดเผยก่อนเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ว่า การลงไปภาคใต้ครั้งนี้เพื่อต้อนรับนายกฯ มาเลเซีย ส่วนกรณีที่กลุ่มโจรใต้ก่อเหตุในพื้นที่นั้น เป็นเพียงการสร้างภาพ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลเข้ม ส่วนกระแสข่าวผู้ก่อการร้ายข้ามชาติยังไม่มีรายงานเข้ามา ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยไว้แล้ว
"ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปร่วมพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่วนตนจะรอส่งนายกฯ มาเลเซียกลับประเทศ" สุเทพ กล่าว
มาร์คพานายกฯมาเลย์ลงใต้
สร้างความมั่นใจ และเดินหน้าแก้ปัญหาคน 2 สัญชาติ ให้เสร็จภายในปี 53 มั่นใจความปลอดภัยไม่มีปัญหา
วันนี้ (9 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารพรานของไทย กับกลุ่มก่อความไม่สงบ จนทำให้ทหารพรานเสียชีวิตถึง 2 นาย ว่า เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ และสิ่งที่นายกฯ มาเลเซีย และตนต้องการ คือ การไปทำความเข้าใจในเรื่องที่รัฐบาลต้องการที่จะทำให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ มีเรื่องของสะพานมิตรภาพ เรื่องโรงเรียน และเรื่องของเศรษฐกิจ ก็เป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และเชื่อว่า ประชนในพื้นที่เองก็ต้องการจะให้เกิดความสงบเรียบร้อย และมีความร่วมมือที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านด้วย ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องบุคคล 2 สัญชาตินั้น หลักก็คือต้องทำเรื่องของฐานข้อมูลที่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนกันได้ และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ที่ผ่านมาก็มีปัญหาทางด้านเทคนิคมาโดยตลอด และเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องสะสางให้จบ เพราะยังมีความร่วมมือหลายอย่างที่ค้างอยู่ เราก็ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปีหน้าทุกอย่างต้องจบ ซึ่งคิดว่า มีความเป็นไปได้
ถ้าเราสามารถแก้ปัญหาเรื่องบุคคล 2 สัญชาติได้ ก็จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการติดตามความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มซึ่งเป็นปัญหาอยู่ และอาศัยการเป็นพลเมืองที่มีสัญชาติทั้งสองฝั่ง ทำให้การติดตามการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ยาก แต่พอเราสามารถแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลตรงนี้ได้ ก็คงจะง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของผู้นำ 2 ประเทศครั้งนี้ คิดว่า มีความสำคัญในแง่ของการสร้างความมั่นใจ การสร้างความเข้าใจ เพราะทางมาเลเซียเองก็มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเขาก็ยอมรับว่า เป็นปัญหาภายในของประเทศไทย แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหานี้มันก็ส่งผลกระทบกระเทือน และเกิดความห่วงใยในภูมิภาคด้วย เพราะฉะนั้นเขาก็ควรจะได้รับรู้รับทราบในสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ได้มีการพูดคุยกันโดยเฉพาะในกลุ่มเล็ก ก็มีการทำความเข้าใจ และค่อนข้างที่จะมีแนวทางที่ดี จุดยืนที่นายกฯ มาเลเซียแสดงออกในการแถลงข่าว และให้สัมภาษณ์ ผมคิดว่า ช่วยเรามาก นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามถึง เรื่องพื้นที่เขตปกครองพิเศษใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางนายกฯ มาเลเซียได้มีการสอบถาม หรือแสดงความคิดเห็นอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการถาม เพราะเราพูดเข้าใจตรงกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใช้คำว่า กระจายอำนาจ หรือเขตปกครองพิเศษ เป้าหมายสุดท้ายคือเป้าหมายของการตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ และไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม มันต้องเป็นรูปแบบภายใต้รัฐธรรมนูญไทย ภายใต้รัฐไทย
ด้าน นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า คิดว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยคงไม่มีปัญหาต่อการที่ผู้นำไทย และมาเลเซียเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพราะมีการวางแผนป้องกันรักษาความปลอดภัย 100% ส่วนเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องปกติของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อการลงพื้นที่ของนายกฯ ไทย และมาเลเซียอย่างแน่นอน.