ในหลวง ทรงมีพระราชดำรัสความสุขพระองค์ เกิดจากบ้านเมืองเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข ให้ทุก ฝ่ายทำหน้าที่ของตนอย่างมีสติ ปัญญา ขณะที่ผองไทยปลื้มปีติเป็นล้นพ้นพระองค์ท่านทรงแย้ม พระสรวล พร้อมใจกันเปล่งเสียง ทรงพระเจริญกึกก้อง สีชมพูอร่ามตามีความสุขล้นใจ หลัง เฝ้าชมพระบารมี นายกฯรับใส่เกล้าฯ วอนคนไทยทุกฝ่ายช่วยกันทำบ้านเมืองสงบสุข เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.52 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ โดยรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา เวลา 10.30 น. เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประทับรถเข็นไฟฟ้าเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทุกพระองค์ จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าแถวพระบรมวงศ์ใกล้มุมเสาด้านซ้ายพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พร้อมแล้วเจ้าพนักงานรัวกรับ และเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตรมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี - ถวายพระพรชัยมงคล ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ความว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้บรรลุอุดมมงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษา ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ บรรดาที่ได้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในวันนี้ ต่างบังเกิดความปีติปราโมทย์เป็นล้นพ้น ที่ได้เห็นใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระพลานามัยแข็งแรง ผ่านพ้นโรคาพยาธิทั้งปวงมาโดยสวัสดี ข้าพระพุทธเจ้าสำนึกรู้อยู่ทุกเวลาว่าเป็นผู้มีโชค วาสนาอย่างยิ่ง ที่เกิดมาในแผ่นดินไทยภายใต้พระบุญญาบารมี จึงได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุข ความเจริญ และมีเกียรติเป็นที่เชิดชูพร้อมทุกสิ่ง ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ จึงขอพระราชทานถวายสัตย์ปฏิญาณจากใจจริงว่า จักมุ่งมั่นปฏิบัติตัว ปฏิบัติงาน ทั้งในฐานะที่เป็นคนไทย และในฐานะที่กำเนิดมาในพระบรมราชจักกรีวงศ์ ให้เต็มกำลังความรู้ ความสามารถ โดยยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และชาติบ้านเมืองตลอดไป กับขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเกษมสุข ปราศจากมลทินทุกข์ และพยาธิภัย มีพระราชประสงค์จำนงใดที่จะอำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประเทศชาติและประชาชน ขอจงสำเร็จสรรพศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ -ขอทรงพระเกษมสำราญ ต่อมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ความว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ถึงความปีติชื่นชมโสมนัส ของปวงข้าพระพุทธเจ้าและอาณาประชาราษฎร์ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงหายจากพระอาการประชวร มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนมีความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นล้นพ้น ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในอภิลักขิตสมัยคล้ายวันพระบรมราชสมภพที่เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงลาฏร้างห่างไกลโรคาพยาธิทั้งปวง พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญสถิตสถาพรไพบูลย์ในสิริราชสมบัติทรงพระเจริญจำรัส ด้วยพระเกียรติคุณอดุลยศ ปรากฏขจายขจรไปทั่วทิศานุทิศ ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาราษฎร์ ตราบกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ -ทรงเป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทอง จากนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ความว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกรัฐสภา ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล โดยขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช สมเด็จพระบูรพระมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ และพระบุญญาบารมี ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงบำเพ็ญมา ได้โปรดดลบันดาล อภิบาล และประสาทพรให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยชื่นบาน ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีพระชนพรรษายิ่งยืนนาน พระเกียรติคุณขจรขจายแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศ สถิตเสถียรใน มไหศวรรย์ราชสมบัติ ทรงเป็นพระมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทองของปวงชนของข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรชาวไทย ตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ -พระราชดำรัส5ธันวาฯ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบผู้เข้าเฝ้าฯ ใจความว่า ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิต พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรมาจากใจจริง ซึ่งปรารถนาดี มุ่งหมายให้ข้าพเจ้ามีความสุข ความสวัสดีด้วยประการต่างๆ ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้นจะสำเร็จผลเป็นจริงไปได้ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติ รู้ตัว ด้วยปัญญา รู้ผิด และด้วยความสุจริต จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น จึงขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรงหนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมือง อันเป็นถิ่นที่อยู่ที่ทำกินของเรา มีความเจริญ มั่นคง ยั่งยืนไป ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ปราศจากภัย และอำนวยสุขสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลให้สัมฤทธิผลขึ้นแก่ท่าน ทั่วหน้ากัน จากนั้น ในเวลา 12.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงพยาบาลศิริราช -ปชช.แซ่ซ้อง ทรงพระเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้นเสด็จลงจากอาคารที่ประทับ โรงพยาบาลศิริราช เหล่าพสกนิกรจำนวนมากที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ ต่างเปล่งเสียง ทรงพระเจริญและโบกธงชาติ ธงสัญลักษณ์เพื่อถวายพระพร ทั้งนี้ตลอดเส้นทางเสด็จฯ จากโรงพยาบาลศิริราช กระทั่งถึงพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย นั้นเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรที่สวมใส่เสื้อสีชมพู โดยพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพร้อมกับแย้มพระสรวล สร้างความปีติแก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น ซึ่งบางรายเมื่อเห็นพระองค์ท่าน ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อย่างไรก็ดี ที่โรงพยาบาลศิริราช ยังคงมีพสกนิกรที่ปักหลักเฝ้าฯ ถวายพระพรอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ได้นำเทปบันทึกภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จออกมหาสมาคม มาเผยแพร่แก่พสกนิกรได้ชื่นชมพระบารมีด้วย -สื่อเทศเผยแพร่พระราชดำรัส อย่างไรก็ตาม สื่อต่างชาติหลายสำนัก ต่างรายงานถึงพระราชดำรัส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสให้คนไทยตั้งมั่นอยู่ในความสามัคคี เนื่องในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โดยส่วนใหญ่ต่างหยิบยกพระราชดำรัสในประเด็นที่ทรงตรัสว่า ความสุข ความสวัสดี ของข้าพเจ้าเกิดขึ้นได้ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุขและความปรารถนาดี มุ่งหมายให้ข้าพเจ้ามีความสุข ความสวัสดี โดยประการต่างๆ นั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคน ทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติ รู้ตัว ด้วยปัญญา รู้คิด และด้วยความสุจริต จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น -ทั่วไทยตักบาตร วันพ่อ ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า พสกนิกรทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยบรรยากาศที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็น ประธานนำข้าราชการจากกระทรวงต่างๆ ตัวแทนในหน่วยงานกทม. และประชาชนทั่วไปร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 283 รูป ซึ่งทางมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เป็นเจ้าภาพจัดพื้นที่กิจกรรมมหามงคลดังกล่าว ขณะที่ต่างจังหวัดไม่ว่าเป็นที่สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ ได้นำข้าราชการทุกหมู่เหล่า และชาวอุตรดิตถ์ พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีชมพูทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 83 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล ขณะที่ ชาวจ.พิจิตร จำนวนมากร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร จากวัดท่าหลวง พระอารามหลวง จำนวน 99 รูป ที่บริเวณหน้าตึก อบจ.พิจิตร ด้านพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส พร้อมใจกันทำบุญถวายพระราชกุศล เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ พร้อมปลูกพันธุ์ไม้พระราชทาน ต้นตะเคียนชันตาแมวจำนวน 200 ต้น ขณะที่ผู้นำศาสนาอิสลามนำสวดดุอาร์ ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง - พ่อหลวงไม่เคยทิ้งราษฎร น.ส.อิสวานา แวดือราแม ราษฎรหมู่ 2 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา เปิดเผยว่า ในฐานะประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รักในหลวงอย่างหาที่สุดมิได้ ได้ร่วมถวายพระพรเนื่องในวันมหามงคล 5 ธันวาคม พร้อมกับสวดดุอาร์ ให้ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวไทยตลอดไป เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมานับแต่เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ในหลวงไม่เคยทอดทิ้งราษฎรของพระองค์ ดูแลในทุกข์ร้อนของประชาชนในพื้นที่นี้มาตลอด โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา พระองค์ท่านได้พระราชทานสร้างโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เพื่อเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบได้มีโอกาสทางการศึกษา ลูกหลานได้กลับมาเรียนอีกครั้ง เพราะบารมีของพระองค์ท่าน ดังนั้นอะไรที่ทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านได้ เรายินดีทุกอย่าง โดยเฉพาะการขอดุอาร์ ถวายพระพรเป็นสิ่งที่ตั้งใจทำมากที่สุดในวันสำคัญนี้ รู้สึกปลาบปลื้มปีติ ที่เห็นในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวร เสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช และเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งเป็นภาพที่เชื่อว่าคนไทยทั้งแผ่นดิน ต่างรู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น ไม่มีอะไรจะพูด นอกจากความตื้นตันใจที่ได้เห็นพระองค์ท่าน และขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นพระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป น.ส.อิสวานา กล่าว - ช้างต้นถวายราชสักการะ ขณะที่หลายจังหวัดต่างจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ โดยที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง จ.ลำปาง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้จัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82พรรษา 5 ธันวามหาราช ซึ่งในพิธีทางสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง ได้รับการอนุญาตจากสำนักพระราชวัง ให้เชิญพระเศวตภาสุรคเชนทร์ฯ ซึ่งเป็นช้างสำคัญ หรือว่าช้างเผือกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกมาให้ประชาชนได้ชมพระบารมี ช้างในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังได้ประกอบพิธี ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันมหามงคลนี้ โดยพระเศวตภาสุรคเชนทร์ฯ ในเครื่องทรงเต็มยศได้ถวายราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้วยการลงคุกเข่า และการหมอบกับพื้น เพื่อแสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ - เรือใบ100ลำสวนสนามทางน้ำ ขณะที่ บริเวณหน้าหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เวลาประมาณ 09.30 น.บรรดานักแล่นเรือใบทั่วโลก ร่วมนำเรือใบกว่า 100 ลำ สวนสนามทางน้ำเทิดพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวามหาราช โดยมี พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ภาคที่ 3 กองเรือยุทธการเรือหลวงบางปะกง เป็นประธาน ซึ่งเรือใบกว่า 100 ลำ จาก 33 ประเทศทั่วโลกนี้ ต่างเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน ภูเก็ต คิงส์ คัพ รีกัตต้า ครั้งที่ 23 เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ที่ทรงพระราชกรณียกิจ ด้วยพระวิริยะและพระอัจฉริยภาพ เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก -จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ วันเดียวกัน นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะทำงานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดแสดงกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง พ่อ...The Greatest of The Kings, The Greetings of The Landว่า ขณะนี้ทีมงานได้จัดเก้าอี้เสริมอีกประมาณ 30,000 ตัวเพื่อรองรับประชาชนที่เข้าชม เต็มบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และได้ประสานขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยประชาชนให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายเนวิน ยังระบุว่าภายหลังจากจัดแสดงครบ 9 วัน ในกรุงเทพฯ แล้ว จะเปิดการแสดงให้ประชาชนใน 30 จังหวัดทั่วประเทศได้รับชม โดยจะไล่เรียงจากจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดคือ นครราชสีมา ซึ่งจัดแสดงจังหวัดละ 1 วัน ทั้งนี้ จะประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง -วอนช่วยกันทำบ้านเมืองปกติสุข วันเดียวกัน ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) เวลาประมาณ 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ชาวไทยทั้งประเทศคงจะได้ยินกระแสพระราชดำรัส ที่พระราชทานอย่างชัดเจนว่าที่พวกเราทุกคนตั้งใจถวายความจงรักภักดี และถวายพระพรพระองค์ท่านจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อ บ้านเมืองมีความปกติสุข และมีความมั่นคง ฉะนั้นก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน ที่จะต้องช่วยกันทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ และน้อมนำกระแสพระราชดำรัสใส่เกล้าใส่กระหม่อม และนำไปปฏิบัติ ในส่วนของรัฐบาล ผมจะกำชับกับคณะรัฐมนตรี และหน่วยราชการทุกหน่วย ที่จะพร้อมนำกระแสพระราชดำรัสไปปฏิบัติ ร่วมถึงมีการจัดพิมพ์กระแสพระราชดำรัสให้คณะรัฐมนตรีทุกคน นำไปเผยแพร่ให้กับหน่วยงานทุกหน่วยด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ และพยายามที่จะเชิญชวนให้ทุกคนได้ทุ่มเทเต็มกำลัง เพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมือง และเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยนายอภิสิทธิ์ กล่าว -โพลล์เผยคนไทยสุขล้นใจ อย่างไรก็ตาม เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยถึงผลสำรวจเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน กับความสุขมวลรวมของคนไทยวันนี้ พบว่า ประชาชนมีความสุขพุ่งสูงถึง 9.86 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน สูงกว่างานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีเมื่อเดือนมิถุนายน 2549 ซึ่งอยู่ที่ 9.21 คะแนน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการได้เฝ้าชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ซึ่งพบว่า กว่าร้อยละ 80.7 มีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคในชีวิตเพิ่มมากขึ้น นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 88.3 ต่างน้อมนำพระราชดำรัสเรื่องความพอเพียง มาใช้ในชีวิต ร้อยละ 86.9 จะช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ร้อยละ 85 ตั้งจิตตั้งใจทำความดีเพื่อตัวเองและสังคม ร้อยละ 84 มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้ผิดรู้ชอบ - มหาชนร่วมจุดเทียนชัย ผู้สื่อข่าวรายงานจาก มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เวลา 19.29 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวามหาราช พร้อมนำประชาชนกล่าวถวายราชสดุดี จากนั้น พสกนิกรชาวไทยที่รวมใจกันสวมใส่เสื้อสีชมพู เต็มพื้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงและยาวไปจนถึงถนนราชดำเนิน พร้อมใจกันจุดเทียนชัยถวายพระพร จนแสงเทียนสว่างไสวไปทั่วบริเวณ พร้อมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเปล่งเสียงถวายพระพร ทรงพระเจริญ ดังกึกก้อง จากนั้นได้มีการจุดพลุดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติ ยิ่งใหญ่ตระการตา สำหรับการจุดเทียนชัยถวายพระพร จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ และทั่วโลกเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว |