อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไม่ได้ใส่เสื้อเกราะอ่อนเพื่อป้องกันความปลอดภัย เพียงแต่เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ใส่เสื้อบางที่สุดออกไปร่วมงานชุมชนดีมีรอยยิ้ม ที่เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งถ้าคนคิดว่าใส่เสื้อเกราะแสดงว่าคงอ้วนขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้ปลด กระดุมเสื้อเพื่อให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบก็พบเพียงสร้อยคอซึ่งมีพระเครื่องนับสิบองค์แขวนอยู่ และไม่พบรอยสักยันต์ห้าแถวของอาจารย์หนูอย่างที่มีกระแสข่าวลือ

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ฝ่ายความมั่นคงจะมีการประชุมประเมินสถานการณ์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะทำรายงานถึงคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 ธ.ค. เพื่อพิจารณาว่าจะยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่กทม. ทั้งหมดหรือไม่

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า เท่าที่ได้ติดตามมาถึงขณะนี้ คิดว่าสถานการณ์อยู่ในขั้นที่สามารถยกเลิกการประกาศพื้นที่ความมั่นคงได้ เพราะทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนจะไม่มาชุมนุมในช่วงนี้ รัฐบาลก็น่าจะต้องกลับมาทบทวนกันอีกครั้ง และถ้าไม่ชุมนุมจริงก็ยกเลิกพ.ร.บ.ความมั่นคงได้

“ผมเคยเรียนไว้แล้วว่าในช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ไม่เหมาะสมกับการชุมนุม ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมคิดถึงหัวอกหัวใจของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ เลื่อนการชุมนุมไปหลังปีใหม่ก็ได้ ให้คนได้มีเวลาใช้ชีวิตช่วงปลายปีนี้ถวายความจงรักภักดี หลังจากนั้นจะชุมนุมอย่างไรก็ว่ากันไป” นายสุเทพ กล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่ว่าจะนัดหารือทางการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมจึงมีข่าวโดยที่ตนเองยังไม่ได้คิด และยืนยันได้ว่ายังไม่มีการนัดหารือ เพียงแต่พอปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลต้องมีการนัดหมายกันและประเมินสถานการณ์โดยรวมว่าเป็นอย่างไร เพราะพรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องมีการพูดคุยกันเป็นระยะๆ เพื่อทบทวนท่าที

“ช่วงนี้กำลังจะครบ 1 ปีของการร่วมรัฐบาล ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลคงต้องนัดพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือว่า 1 ปีที่ผ่านมาได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชนในเรื่องอะไรไปแล้ว และมีอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรค เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะนัดกันวันไหน แต่อาจจะเป็นช่วงหลังวันปีใหม่” นายสุเทพ กล่าว