เอเอฟพี - รัฐบาลเวียดนามประกาศลดค่าเงินด่งจากวานนี้ (25 พ.ย.) เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นกับเงินด่งของเวียดนามนี้ นับเป็นการลดค่าของเงินอย่างรวดเร็วที่สุดภายในระยะเวลา 6 เดือน

       
       ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ได้พยายามที่จะลดแรงกดดันที่มีต่อเงินด่งและรับมือกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศ
       
       ธนาคารแห่งประเทศเวียดนาม กำหนดอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างธนาคารในอัตรา 17,961 ด่งต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันนี้ (26 พ.ย.) จากที่อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อวันที่ 25 พ.ย.อยู่ที่ 17,034 ด่งต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ
       
       ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นกับเวียดนามนี้ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศเวียดนามต้องลดเงินทุนสำรองในสกุลดอลลาร์ลง นอกจากนี้ ธนาคารยังจะตรึงการซื้อขายดอลลาร์สหรัฐฯโดยลดปริมาณการซื้อขายดอลลาร์สหรัฐฯ ของธนาคารพาณิชย์จาก 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 3 เปอร์เซ็นต์
       
       ธนาคารแห่งประเทศเวียดนาม ได้ประกาศเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 1 ธ.ค.ภายหลังจากที่สำนักงานสถิติออกมาให้ข้อมูล ว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น 4.35 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน พ.ย.ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นมา
       
       รัฐบาลเวียดนามมุ่งที่จะรักษาระดับเงินเฟ้อไว้ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2552 นี้ หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 23 เปอร์เซ็นต์
       
       ทางการเวียดนามคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 5 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2552 ซึ่งนับเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบทศวรรษ
       
       ทั้งนี้ รมต.คลังไทย นายกรณ์ จาติกวณิช กล่าวว่า ไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการลดค่าเงินของเวียดนามในครั้งนี้