หมวดหมู่
หน้าหลัก       ยินดีต้อนรับสู่มุสลิมไทย โพสต์
 
พิมพ์หน้านี้  |  ส่งให้เพื่อน
เขมร-ไทย ไล่เพิ่ม เลขาทูต พ้นภายใน48ชม.
"เขมร-ไทย"ไล่เพิ่ม เลขาทูต พ้นภายใน48ชม.

อภิสิทธิ์ถกสมช. ยกระดับตอบโต้ นัดตีซี้"โอบามา" แม้วโผล่นครวัด พบกลุ่มเสื้อแดง




ทัวร์เขมร - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเที่ยวชมปราสาทนครวัด ที่เสียมราฐ หลังจากไปบรรยายที่กระทรวงการคลังกัมพูชา โดยมีคนไทยกลุ่มเสื้อแดงเดินทางไปพบที่โรงแรมด้วย เมื่อวันที่ 12 พ.ย.

"มาร์ค"ประชุมหน่วยงานความมั่นคง เตรียมยกระดับมาตรการตอบโต้ หลังกัมพูชาประกาศไม่ส่งตัว"ทักษิณ" ให้ไทย สั่ง"บัวแก้ว"ทบทวนโครงการร่วมมือทั้งหมด ก่อนตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่ กัมพูชาชิงลงมือก่อนสั่งขับเลขาฯทูตไทย ออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ไทยแลกหมัดตอบโต้ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน "แม้ว"ขึ้นเวทีบรรยายนักธุรกิจเขมร ฉะรัฐบาลไทยปลุกกระแส"คลั่งชาติ" เสื้อแดงฝ่าจุดผ่านแดน ไปพบอดีตนายกฯ ที่นครวัด ขณะที่ส.ส.เพื่อไทย 50 ชีวิตเตรียมเดินทางไปพบ"นายใหญ่" วันนี้ที่กรุงพนมเปญ "นพดล"ระบุทักษิณอยู่เขมรอีก 2-3 วัน ส่วนจะเดินทางไปไหนต่อ ปิดเป็นความลับ อ้างมีกระแสข่าวถูกปองร้าย "เทพเทือก"เย้ยเสื้อแดง คิดล้มรัฐบาลตอนนี้ยากแล้วเพราะคนไม่เอาด้วย เผยเตรีมจัดคิว"มาร์ค"กระทบไหล่"โอบามา" ข่มขวัญเขมร

อภิสิทธิ์เรียกประชุมสมช.

เวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประ ชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ. ทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทอ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย น.พ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผบ.ตร.นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวก่อนประชุมว่า ทุกฝ่ายจะหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกัมพูชาหลังปฏิเสธส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาดำเนินคดีในไทย

หลังใช้เวลาประชุมนาน 2 ชั่วโมงครึ่ง นายอภิสิทธิ์เปิดห้องวิจิตวาทการ แถลงข่าว โดยมีนายสุเทพ พล.อ.ประวิตร ผบ.ทุกเหล่าทัพ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และเลขาธิการสมช. ร่วมแถลงด้วย

เพิ่มมาตรการตอบโต้เขมร

นายกฯ แถลงว่า ที่กัมพูชาปฏิเสธส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณไม่สอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากล รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศกำลังพิจารณามาตรการต่างๆ เพิ่มเติม และทบทวนโครงการความร่วมมือต่างๆ ยืนยันไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรง ทุกมาตรการรัฐบาลจะระมัดระวัง ไม่ให้กระทบกระเทือนกับการดำรงชีวิตและใช้ชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดนของ 2 ประเทศ ขณะนี้มีการพิจารณาทบทวนบางมาตรการและรอดูท่าทีจากรัฐบาลกัมพูชาด้วย พร้อมขอความร่วมมือให้คนไทยอดทนอดกลั้น เวลาที่เกิดปัญหาความไม่เข้าใจในบางส่วน เพื่อแสดงออกให้เห็นว่าทั้งหมดเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่ายไทย (อ่านรายละเอียด น.3)

ภายหลังแถลงข่าวนายอภิสิทธิ์เรียก ผบ. เหล่าทัพมาหารือสั่งการครู่หนึ่ง พร้อมยื่นเอกสาร 2 แผ่นให้พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ จากนั้นเรียกปลัดกระทรวงการต่างประเทศเข้าหารือในห้องรับรอง และเรียกพล.ต.อ. ปทีปหารืออีกราว 5 นาที

พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า บริเวณตามแนวชาย แดนไทย-กัมพูชาไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหาร ทุกอย่างยังเป็นปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกระแสลมที่ผ่านไปผ่านมา ไม่มีอะไร ส่วนความเคลื่อนไหวภายในกัมพูชาที่มีบางฝ่ายระบุว่าไม่ได้ตื่นเต้นกับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตนตอบไม่ได้ เพราะไม่สามารถไปวัดค่าได้ ความจริงเรื่องก็มีอยู่แค่นี้ไม่น่าเกิดความรุนแรง กองทัพไม่ต้องเตรียมความพร้อม เพราะมันไม่มีอะไร

ยังไม่มีเรื่องปิดด่านชายแดน

น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เผยว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ทั่วไปแต่ไม่มีเรื่องปิดด่านชายแดน ในส่วนของกระทรวงการคลัง นายกฯ สั่งการให้พิจารณาทบทวนการให้เงินกู้กับกัมพูชาเพื่อก่อสร้างถนนสาย 68 ช่องจอม-กัมพูชา เป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกอุปทูตไทยกลับจากกัมพูชา เนื่องจากต่างฝ่ายต่างรักษาท่าทีกันอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศได้รวบรวมมาตรการต่างๆ รายงานนายกฯ แล้ว และนายกฯ ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้มาตรการใด แต่ไม่ขอเปิดเผย

เมื่อถามว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติม หรือทบทวนการช่วยเหลือในโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการร่วมกับกัมพูชาหรือไม่ ปลัดกระ ทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ และที่ประชุมไม่ได้พูดถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เมื่อถามถึงกระแสข่าวกัมพูชาจะเชิญพ.ต.ท.ทักษิณไปประชุม รัฐมนตรีเอเปกที่สิงคโปร์ด้วย นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้สอบถามเรื่องนี้กับกัมพูชา แต่คิดว่ากัมพูชาคงไม่ทำเช่นนั้น ถึงแม้จะเชิญไปก็ไม่น่าเข้าร่วมประชุมได้

รุมชี้ต้นตอปัญหาคือ"กษิต"

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม สมช. นายกฯ กำชับให้หน่วยงานทุกหน่วยไปชี้แจงในเรื่องข่าวลือต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย นอกจากนี้ ในที่ประชุมหลายฝ่ายชี้ประเด็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับกัมพูชาสาเหตุหลักน่าจะมาจากตัวของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จนทำให้สถานการณ์บานปลายมาถึงทุกวันนี้ เพราะสมเด็จฮุนเซนไม่พอใจนายกษิตมาตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกุ๊ย เลยสร้างสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อตอบโต้ไทย

นอกจากนี้ทางกองทัพยังรายงานสถาน การณ์ภาพรวมบริเวณแนวชายแดนไทยที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านให้ที่ประชุมรับทราบ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งมาเลเซีย พม่า ลาว และกัมพูชา โดยเฉพาะกรณีลาวไม่พอใจที่ทางการไทยไม่ยอมส่งตัวม้งกลับ เพราะลาวเห็นว่าม้งเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในประเทศ นายกฯ จึงสั่งการให้กองทัพทำความเข้าใจและเคลียร์ปัญหาตามแนวชายแดนทั้งหมด ไม่ให้เกิดปัญหาคุกรุ่นเหมือนกัมพูชา

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักข่าวกรองรายงานต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้มีข่าวลือว่าสมเด็จฮุนเซน จะพาพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปสิงคโปร์ ใน ระหว่างการประชุมเอเปกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือ ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน และหากพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปจริงก็คงเข้าไม่ได้ เพราะไม่มีสถานะใดเกี่ยวข้อง จึงไม่น่าเป็นไปได้

ตีซี้"โอบามา"ข่มขวัญเขมร

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 17 และการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. โดยจะมีผู้นำ 3 ประเทศกลุ่มอาเซียนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเอเปก ได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว เข้าร่วมด้วย ซึ่งทางกัมพูชาอาจยกประเด็นความขัดแย้งไทย-กัมพูชาขึ้นมาหารือว่า เราพร้อมยืนยันว่าเวทีนี้ไม่ใช่เวทีที่จะมาพูด เรื่องนี้เป็นเวทีพหุภาคี ส่วนนายกฯ ไทยจะพูด 3 รอบ คือพูดเปิด-ปิด และการให้สัมภาษณ์คู่กับประธานาธิบดีบารัก โอมาบา ของสหรัฐเท่านั้น

รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายกฯ เผยว่า การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศความร่วมมือด้านเศรษฐกิจแห่งเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. ที่มีประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ เข้าร่วมด้วยนั้น จะเสนอให้นายอภิสิทธิ์ขอเข้าพบนายโอบามาเป็นการส่วนตัว ให้เกิดภาพความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายกรัฐมนตรีของไทย พร้อมใช้โอกาสดังกล่าวทำความเข้าใจกรณีความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ให้กัมพูชาเห็นว่าประธานาธิบดีสหรัฐให้ความสำคัญกับนายอภิสิทธิ์

"เทือก"ปัด"ฮุนเซน"ไม่ใช่เพื่อน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์หลังประชุม สมช.ว่า นายกฯ พูดชัดว่าอะไรก็ตามที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งไทยหรือกัมพูชาจะต้องพยายามไม่ให้กระทบ เพราะประชาชนไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย ส่วนเรื่องการระงับการลงทุนร่วมกันไม่มีการพูดถึง

ส่วนจะกลายเป็นความขัดแย้งตามแนว ชายแดนด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีความกังวลใจ ให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ในเรื่องตามแนวชายแดน ว่ารัฐบาลดูแลเรียบ ร้อยทุกอย่าง เรื่องปกป้องอธิปไตยประเทศไทยไม่มีสิ่งใดต้องกังวลใจ ฝ่ายความมั่นคงประชุมกันพร้อมดูแลอยู่เสมอ เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารหรือประกาศพ.ร.บ. ความมั่นคงฯ ตามแนวชายแดนหรือไม่ นาย สุเทพกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะโทรศัพท์ประสานไปยังนายกฯ ฮุนเซน หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ใช่เพื่อนนายฮุนเซน เป็นแค่คนเคยรู้จัก และไปมาหาสู่กันตามความจำเป็นในฐานะนักการเมือง เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีการปลุกกระแสปัญหาไทย-กัมพูชาขึ้น นาย สุเทพกล่าวว่า นายกฯ ย้ำกับคนไทยแล้วนอกจากต้องสามัคคียังต้องอดทนอดกลั้น อย่างไรก็ตามเรายังจำกัดวงเป็นเรื่องทวิภาคีได้โดยไม่ถูกยกเป็นปัญหาอาเซียน ต่อข้อถามว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้อภัยหากนายฮุนเซนพลิกท่าทีกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างเดิมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ดูท่าทีของเขาไปก่อน อย่าเพิ่งรีบตอบ

เสื้อแดงล้มรัฐบาลยากแล้ว

เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าปัญหาจะทวีความรุนแรงเพื่อนำไปสู่การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ นายสุเทพกล่าวว่า กัมพูชาไม่มีสิทธิ์มาทำอะไร ให้มีผลต่อไทยมากขนาดนั้น พ.ต.ท.ทักษิณนั้นชัดเจนว่าไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สั่งการสมุนบริวารให้ดำเนินการเต็มที่ แต่ถึงวันนี้คนที่เป็นสมุนบริวารควรหันกลับไปมองดูว่าพ.ต.ท.ทักษิณกำลังทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองหรือบ้านเมือง เหมาะสมแล้วหรือไม่ ที่สำคัญไม่มีอะไรเป็นสัญญาณว่าจะต้องยุบสภา ไม่ยุบแน่นอน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในไทยแน่ เดิมทีที่กลุ่มคนเสื้อแดงกับพ.ต.ท. ทักษิณประกาศล้มรัฐบาล คิดว่าถึงวันนี้คงทำได้ยากแล้ว ถ้าไปชัก ชวนประชาชนมาโค่นล้มรัฐบาลคงถูกถามว่าทำไปเพื่อใคร เพื่อฮุนเซนบวกทักษิณอย่างนั้นหรือ

ถก"สมช." - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดคุยกับพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และผบ. เหล่าทัพ ขณะประชุมสมช.ซึ่งประเมินว่าปัญ หาไทย-กัมพูชา เกิดจากสมเด็จฮุนเซนไม่พอใจนายกษิต ภิรมย์



เมื่อถามว่าจำเป็นต้องทบทวนโครงการก่อสร้างถนนหลายสาย ที่ไทยลงทุนในกัมพูชาช่วงรัฐบาลทักษิณหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มี 2 โครงการที่กัมพูชากู้เงินจากไทยแบบดอกเบี้ยผ่อนปรน จำนวน 1,400 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลอนุมัติไปหลายเดือนแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้อาจไม่ราบรื่นเท่าไหร่ และจากที่ไทยเคยให้เงินกู้เงินช่วยเหลือไปสร้างถนนสายหนึ่งโดยกัมพูชาขอเพิ่มเติมมา 31 ล้านบาท เรื่องนี้ ครม.ก็ยังไม่ได้อนุมัติ ดังนั้น อาจจะไม่ต้องพิจารณาแล้ว สำหรับถนนสาย 68 ช่องจอม-กัมพูชายังไม่ต้องทบทวน แต่คงเดินไปได้ไม่ราบเรียบเท่าไหร่

เตือนส.ส.พท.ทำหมิ่นเหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีหนังสือพิมพ์ไทมส์ ประเทศอังกฤษ ส่งจดหมายชี้แจงถึงนายกิตติ วะสีนนท์ เอกอัคร ราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เพื่อยืนยันคำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในไทมส์ออนไลน์ ว่า รัฐบาลชี้แจงว่ากระบวนการกฎหมายของแต่ละประเทศมีที่มาต่างกันตามวิถีปฏิบัติ ประเพณีวัฒนธรรม สิ่งที่รัฐบาลต้องทำความเข้าใจคือเรื่องที่พ.ต.ท. ทักษิณให้สัมภาษณ์และพาดพิงจาบจ้วงสถาบัน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตีความว่าสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดนั้นผิดหรือไม่ผิดกฎหมายหมิ่น แต่ประเด็นที่สัมภาษณ์นั้นกระทบกระเทือนจิตใจของประชาชนไทยซึ่งเหนือกว่ากฎหมายหมิ่น ฉะนั้นการพูดเรื่องกฎหมายหมิ่นถ้ามีเจตนาเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์กระทบและจาบจ้วงถึงสถาบันถือเป็นคนละเรื่องกัน ต้องแยกประเด็นให้ออก

นายสาทิตย์กล่าวว่า จะติดตามเรื่องขอเทปคำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณเพราะเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเสียงจะเป็นสิ่งยืนยันคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณว่าผิดหรือถูกอย่างไร ตำรวจ และกระทรวงการต่างประเทศได้ ดำเนินการเต็มที่ ส่วนที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยระบุบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาที่ดี และเตรียมแปลแจกจ่ายให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า การแปลแจกนั้นมีเสียงติติงออกมาแล้วว่าหมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย แต่ถ้าส.ส.พรรคเพื่อไทยยืนยันจะแจกต้องพร้อมรับผิดชอบทางกฎหมายเช่นกัน

อัดม็อบแดง-ชูม็อบ"พธม."

นายสาทิตย์กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนนี้สถาน การณ์จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในวันนี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดสืบพยานคดียึดทรัพย์ 7.5 หมื่นล้าน จะยิ่งมีการเคลื่อนไหวของบางกลุ่มรุนแรงขึ้น หากเคลื่อนไหวด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ทำผิดกฎหมายก็ทำได้ แต่ไม่ควรดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง หรือยืมมือต่างชาติมาเคลื่อนไหวทำลายประเทศ ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และการเคลื่อนไหวภายนอกประเทศนั้น รัฐบาลพร้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุมวันที่ 15 พ.ย. จะยิ่งเร่งให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า คิดว่าคนที่เคลื่อนไหวต้องการเคลื่อนไหวโดยสันติและปกป้องเกียรติภูมิของประเทศ เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลควบคุม แต่ฝั่งพ.ต.ท.ทักษิณคงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในการเคลื่อนไหวนั้นไร้สาระ รัฐบาลมองว่าการชุมนุมเป็นสิทธิ์แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ไม่มีหน้าที่สนับสนุนกลุ่มใด คนเสื้อแดงเมื่อไม่มีอะไรกล่าวหาก็มาพูดเรื่องไร้สาระ เพราะต้องการป่วนเพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ในเดือนก.พ.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์สมคบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ปลุกกระแสคลั่งชาตินั้น ไม่เป็นความจริง การแสดงออกของพันธ มิตรฯ ต่อการชุมนุมถือเป็นสิทธิในการปกป้องสถาบัน

ตามตื๊อเขมรส่งตัว"ทักษิณ"

นายเทพไทกล่าวว่า รัฐบาลไทยเตรียมจัดส่งข้อมูลคดีต่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทางการกัมพูชา ยืนยันความผิดทางอาญาของพ.ต.ท. ทักษิณ ว่าเข้าข่ายอนุสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน กัมพูชาจะอ้างว่าเป็นคดีการเมืองไม่ได้ ท่าทีของนายกฯ ฮุนเซนที่แข็งกร้าว ประกาศไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้ไทย เป็นการกระทำที่ใช้อารมณ์ ตัดสินด้วยตัวเอง ควรให้ศาลกัมพูชาพิจารณาว่าต้องทำตามข้อตกลงระหว่างประเทศหรือไม่

นายถาวร พานิชพันธุ์ รองอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีกัมพูชาไม่ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณให้ไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่า ต้องขอดูหนังสือแจ้งตอบและเหตุผลของกัมพูชา ว่ามีความเข้าใจข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนอย่างไร เรื่องนี้ละเอียดอ่อน หากกัมพูชาได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อนจริงรัฐบาลต้องหารือกับอัยการและกระทรวงการต่างประเทศว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หนังสือขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ส่งให้ทางการกัมพูชานั้นชี้แจงแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกดำเนินคดีอาญา ไม่ใช่คดีทาง การเมือง ทุกอย่างดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนใครจะเป็นผู้ชี้ขาดในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้นต้องดูกฎหมายภายในของกัมพูชาด้วย

รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า ตนและเจ้าหน้าที่อัยการจะศึกษาข้อสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และข้อกฎหมายภายในของ 2 ประเทศอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งหารืออัยการสูงสุดและกระทรวงต่างประเทศว่าควรดำเนินการอย่างไรจึงจะเหมาะสม หากกัมพูชาเข้าใจข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนก็จำเป็นต้องชี้แจงให้เข้าใจอีกครั้ง โดยจะดำเนินการด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรมที่สุด

ปัดข่าว"ลาว"จ้องป่วนซ้ำ

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า กระ ทรวงการต่างประเทศและสำนักงานอัยการสูงสุด กำลังพิจารณาร่วมกันกรณีรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป อาจพิจารณาทุกถ้อยคำว่าทางการไทยสามารถชี้แจงหรือทำความเข้าใจกับกัมพูชาในประเด็นใดได้บ้าง ต้องใช้เวลาพอสมควรในการดำเนินการตามข้อกฎหมาย การที่พ.ต.ท. ทักษิณอาจเดินทางออกจากกัมพูชาก่อนที่จะส่งเรื่องไปกัมพูชานั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

ส่วนกรณีมีข่าวลาวปฏิเสธความช่วยเหลือของไทยในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ นายธานีกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา เพราะในภาพรวมลาวยังขอความร่วมมือจากไทย ขณะที่ไทยก็ยังให้ความร่วมมือกับลาว เชื่อว่าลาวจะไม่ฉวยโอกาสขณะที่ไทยมีปัญหากับกัมพูชามาโจมตีไทย เพราะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวเป็นเสมือนพี่น้องกัน อีกทั้งยังมีประโยชน์ร่วมกันอยู่

นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วย รมว.ต่างประ เทศ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลไทยออกมาปกป้องความชอบธรรมระบบศาลและตุลาการไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ที่อาจเกิดปัญหาในอนาคตหลังจากรัฐบาลกัมพูชาไม่เห็นความศักดิ์สิทธิ์ และเคารพกระบวนการศาลไทย เนื่องจากจดหมายทุกฉบับที่รัฐบาลไทยส่งไปยังรัฐบาลกัมพูชาหยุดอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และไม่ได้ส่งเรื่องต่อไปให้กระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาดำเนินการ นั่นหมายความว่ากัมพูชาย่ำยีกระบวนการยุติธรรมของเรา เราต้องให้นานา ชาติรับทราบว่ากัมพูชาไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการยุติธรรมของไทย

ถอดยศ"แม้ว"ต้องรอเม.ย.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการถอดยศและริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ใกล้แล้ว ขณะนี้อยู่ที่กองทะเบียนพลกำลังประมวลเรื่องเข้ามา ซึ่งต้องทำคู่กันทั้งการถอดยศและริบเครื่องราชฯ เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการเสร็จแล้วจะส่งไปยังสำนักนายกฯ เมื่อถามว่าหลังจากพ.ต.ท.ทักษิณไปเคลื่อนไหวที่กัมพูชาทำให้ต้องเร่งเรื่องถอดยศหรือไม่ พล.ต.อ. ปทีปกล่าวว่า "ครับๆ" ส่วนการประสานตำรวจสากลเพื่อตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศนั้นอัยการสูงสุดเป็นคนดำเนินการ ไม่ได้เป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนการกวดขันนักพนันก็กวดขันตามปกติอยู่แล้ว กำชับไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้เข้มข้นตรวจตราเพิ่มขึ้นแล้ว ทั้งคนเข้าและออกชายแดนทั้งหมดที่ติดต่อกับกัมพูชา

ด้านพล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมเอกสารเพื่อถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังมีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น การถอดยศมีวาระดำเนินการ 2 ครั้ง คือเดือนเม.ย.และต.ค. กรณีของ พ.ต.ท. ทักษิณจะรวบรวมเอกสารต่างๆ และส่งให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในเดือนเม.ย. เราดำเนินการตามหลักเกณฑ์เพราะมีตำรวจหลายคนถูกถอดยศ จะทำพร้อมกันทีเดียว ขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล เพื่อเสนอให้ รรท.ผบ.ตร. พิจารณา

"กษิต"บินกลับถกด่วน"มาร์ค"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ ที่ร่วมประชุมเวทีเอเปกอยู่ที่สิงคโปร์ จะเดินทางกลับมาหารือกับนาย อภิสิทธิ์ ในคืนวันที่ 12 พ.ย. ถึงท่าทีต่อกัมพูชา ก่อนจะร่วมกับนายกฯ เดินทางกลับไปประชุมเอเปกอีกครั้งวันที่ 13 พ.ย.

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง และขอให้กองทัพดูแลประชาชนอย่างดี สำหรับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลนั้น นายกฯ ขอให้กระทรวงการต่างประเทศไปทำรายงาน เพื่อชี้แจงในรายละเอียดข้อดีและข้อเสีย พร้อมทั้งจัดระบบและวางมาตรการรองรับหากมีการยกเลิก ทั้งนี้ ก่อนที่ ครม.จะเห็นชอบเรื่องนี้ได้ปรึกษาหารือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเห็นสอดคล้องกันให้รัฐบาลเดินหน้า เราประเมินแล้วว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย อีกทั้ง 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าใดๆ ต่อไปขึ้นอยู่กับสภาพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือไม่

แหล่งข่าวนายทหารระดับสูง เปิดเผยว่า ในที่ประชุม สมช. หน่วยงานด้านการข่าวได้สรุปสถานการณ์และขั้นตอนการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนของทุกกองกำลัง รวมถึงประเมินการสับเปลี่ยนกำลังของฝ่ายกัมพูชา นายกฯ ย้ำว่าการดำเนินการของรัฐบาลป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติตามหลักสากล และจะไม่ให้ขยายความขัดแย้ง ในอนาคตจะให้ลดดีกรีตามสถานการณ์ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางออกจากกัมพูชาวันที่ 14 พ.ย. ซึ่ง สมช.ได้สรุปภาพรวมให้นายกฯ รับทราบ และเตรียมความพร้อมประชุมที่สิงคโปร์วันที่ 15 พ.ย. ซึ่งจะพบกับประธานาธิบดีสหรัฐด้วย

"เขมร-ไทย"ขับเลขาฯทูตอีก

ต่อมาช่วงเย็น วันเดียวกัน นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันข่าวกัมพูชาขับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ออกจากประเทศว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้กัมพูชาขอให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูต ณ กรุงพนมเปญ เดินทางออกจากประเทศไทย ใน 48 ชั่วโมง โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล เพียงแต่แจ้งว่าถือเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา ประเทศไทยจึงตอบโต้ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน ขอย้ำว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายดำเนินการก่อน นอกจากนี้ นายธานียังกล่าวยืนยันว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เดิน ทางกลับมาประเทศไทยจริง เพื่อประเมินสถานการณ์ ในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุหรือยืนยันได้ว่านายกษิตจะเดินทางกลับไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ในวันที่ 15 พ.ย.หรือไม่

นายปณิธาน วัฒนายากร กล่าวถึงกรณีทางการกัมพูชาให้เลขานุการเอกสถานทูตไทย ประจำกัมพูชา เดินทางออกนอกประเทศ ภายในเวลา 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่ 12 พ.ย.ว่า ทางการไทยก็จะเชิญเลขานุการเอกสถานทูตกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศไทยใน 48 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน เพราะตามหลักสากลจะต้องปรับระดับทางการทูตให้เท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลกัมพูชามีมาตรการทางการทูตตอบโต้ใดออกมาอีก รัฐบาลไทยก็ต้องหารือกันว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป เชื่อว่าปัญหาไม่น่าจะบานปลาย

รบ.เตือน"แม้ว"เล่นเกมเสี่ยง

นายปณิธานกล่าวว่า อย่างไรก็ตามนายอภิสิทธิ์ยังยืนยันว่าปัญหาเกิดจากรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา หากต้องการให้สถานะทางการทูตกลับมาเป็นปกติจะต้องย้อนเวลากลับไปก่อนที่รัฐบาลกัมพูชาจะตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ หรือเอาสิ่งอื่นที่เท่าเทียมกันมาแล้ว แต่เชื่อว่าการยกเลิกแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

นายปณิธานกล่าวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาประเทศกัมพูชาครั้งนี้เป็นการเล่นที่เสี่ยง เพราะไม่เหลือทางให้เดินมากนัก พ.ต.ท.ทักษิณคงหวังว่าจะให้นายอภิสิทธิ์ตบะแตกจนอาจทำให้เกิดเหตุนองเลือด นายกฯ ก็รู้เกมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ไม่หลงกลและตั้งรับด้วยความใจเย็น ความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่ประสบความสำเร็จ จน ต้องกลับไปตั้งหลักที่ดูไบอีกครั้ง เชื่อว่าการเปิดเกมบุกครั้งต่อไปจะต้องทอดเวลาจากครั้งนี้สักระยะ จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาเคลื่อนไหวรอบประเทศไทยอีกครั้ง เท่าที่ตรวจสอบเชื่อว่าประเทศพม่า มาเลเซีย และจีนจะไม่ยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับกัมพูชา

นายปณิธานกล่าวว่า การเดินเกมเสี่ยงของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ผลที่ออกมาก็กระทบกับผู้สนับสนุนของพ.ต.ท.ทักษิณจำนวนหนึ่ง ที่คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่กลับมาเป็นตัวปัญหาเสียเอง

เวลา 19.00 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานเรื่องที่กัมพูชาขับเลขานุการเอกสถานทูตไทย กลับประเทศภายใน 24 ชั่วโมงแล้ว และทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ตอบโต้แล้ว

แม้วฉะปลุกกระแสคลั่งชาติ

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ ระหว่างพักที่ประเทศกัมพูชา เป็นวันที่ 3 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ได้เปิดการบรรยายหัวข้อ "กัมพูชาและโลกหลังวิกฤตการเงิน" ที่กระทรวงการคลัง กรุงพนมเปญ มีนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจและเจ้าหน้าที่รัฐบาล เข้าฟังประมาณ 300 คน ทางการกัมพูชาเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการปาฐกถาของพ.ต.ท.ทักษิณ เพียง 3 นาที ก่อนเชิญออกจากห้องบรรยาย

ช่วงหนึ่งของการบรรยาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนเล็งเห็นถึงประโยชน์จากการร่วมมือกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ประโยชน์ใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ย่อมส่งผลดีต่อไทยเช่นกันในฐานะเพื่อนบ้าน แต่แน่นอนว่ามีเพื่อนร่วมชาติของตนบางส่วนไม่ได้มองแบบเดียวกัน ขณะนี้การเมืองภายในของไทยกำลังบีบบังคับสร้างกระแสให้ประชาชนคลั่งชาติอย่างผิดๆ และหวังว่า สักวันคนเหล่านั้นจะเข้าใจได้ในที่สุดว่าความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยและกัมพูชาคือสิ่งดีที่สุด

นายเกียต ชน รมต.เศรษฐกิจและการคลัง กัมพูชา ผู้นั่งร่วมโต๊ะบรรยาย กล่าวยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณว่า มีความเชี่ยวชาญในการขจัดความยากจนตามเขตชนบท และนำระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาใช้ในไทย ซึ่งล้วนเป็นนโยบายที่โดดเด่น ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณแตกต่างไปจากบรรดาผู้นำก่อนหน้า

เสื้อแดงบุกพบแม้วตัวเป็นๆ

ด้านนายไพ สีพัน โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผย หลังจากปาฐกถาจบ พ.ต.ท. ทักษิณ มีกำหนดเดินทางไปยังจังหวัดเสียมราฐ เพื่อเยี่ยมชมปราสาทนครวัด และอาจร่วมตีกอล์ฟกับนายกฯฮุนเซน

เอเอฟพีแจ้งด้วยว่า นายกฯฮุนเซน ให้สัม ภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมากัมพูชาเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนกรณีรัฐบาลไทยลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะแผนงานต่างๆ ต้องดำเนินการต่อไป

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจาก จ.นครราชสีมา จำนวน 17 คน มาติดต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องสะงำ ขออนุญาตเข้าไปยัง จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เพื่อไปให้กำลังใจพ.ต.ท.ทักษิณ หลังมีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมายัง จ.เสียมราฐ เพื่อพบปะกับกลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่ไปรอพบอยู่แล้ว โดยนำใบผ่านแดนชั่วคราวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าใบผ่านแดนชั่วคราวไม่สามารถเข้าไปถึง จ.เสียมราฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครวัดได้ จะเข้าไปได้เพียง จ.อุดรมีชัย เท่านั้น ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องติดอยู่ที่ด่านช่องสะงำ อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งถือพาสปอร์ตผ่านเข้ากัมพูชา และเดินทางไปพบพ.ต.ท. ทักษิณได้

"สมชาย"เมินถูกด่าพบผู้ร้าย

ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ น้องเขยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชา เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ เพราะกัมพูชาอยู่ใกล้ไทย ค่าเดินทางไม่แพง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ฝากหรือแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การเมือง เพราะตนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และจะมีส.ส.เพื่อไทยเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณเพื่อรับฟังความเห็นอยู่แล้ว

ส่วนที่นายกฯระบุส.ส.ที่ไปพบพ.ต.ท. ทักษิณ คือไปพบกับผู้ร้าย นายสมชาย กล่าวว่า ใครจะว่าอะไรก็ช่าง เพราะเป็นความผูกพันส่วนตัวและเป็นสิทธิ์ของส.ส. หากกัมพูชาอนุญาตให้เข้าประเทศได้ก็ไม่มีปัญหา เป็นเรื่องปกติที่ส.ส.จะเดินทางไปพบเพราะเมื่อเจ้านายมาก็คิดถึงเป็นธรรมดา ใครจะว่าไปพบผู้ร้ายอะไรก็แล้ว แต่ตนไปได้ทั่วโลก ซื้อตั๋วเครื่องบิน มีพาสสปอร์ตก็ไปได้ตามปกติ และตอนไปนายกฯฮุนเซน ก็ไม่ได้พูดอะไรกับตน เรื่องแบบนี้ถ้าไปพูดอะไรก็จะหาว่าตนไปยุ่งกับการเมือง ส่วนที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณไปกัมพูชาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวนั้น พ.ต.ท. ทักษิณบอกเองว่าถ้าตรวจสอบพบว่ามีธุรกิจอยู่ก็จะยกให้ แต่คิดว่าไม่มี

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มส.ว.แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นสถาบันกับพ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย กล่าวว่า เมื่อถูกแจ้งความก็ตั้งทนายดำเนินการไป ส่วนคำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณผ่านสื่อต่างประเทศ ตนอ่านภาษาอังกฤษไม่เก่งจึงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่ามองเจตนาการให้สัมภาษณ์อย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ถามคำถามอื่นเถอะ คำถามนี้ตนไม่รู้เรื่อง

50ส.ส.ยกโขยงไปพนมเปญ

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เผยว่า วันที่ 13 พ.ย. เวลา 12.00 น. หลังปิดประชุมสภา ส.ส.พรรคเพื่อไทยประมาณ 50 คน อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส. เชียงราย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จะไปรวมตัวกันที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขึ้นรถบัสเดินทางไปกัมพูชา โดยพ.ต.ท.ทักษิณนัดหมายไว้ที่โรง แรมในกรุงพนมเปญ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าโรงแรมใด เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัย ส่วนกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางออกจากกัมพูชาวันที่ 13 พ.ย.นั้น ยืนยันว่าจากการพูดคุยพ.ต.ท.ทักษิณ จะยังพักอยู่ในพนมเปญจนถึงวันที่ 14 พ.ย. ก่อนเดินทางออกจากกัมพูชา

ที่รัฐสภา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส. กทม. รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า สัปดาห์หน้าตนและส.ส.อีกหลายคนจะรวบรวมรายชื่อถอดถอนส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปกัมพูชาเพื่อต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณที่ทำงานรับใช้กัมพูชา เนื่องจากมีพฤติกรรมขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 กระทำการเพื่อให้ได้อำนาจการปกครองโดยวิธีที่ไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ เพราะไปสมคบคิดกับนักโทษหลบคดีอาญาที่กำลังลี้ภัยอยู่นอกประเทศเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาล มีสิทธิจะถูกถอดถอนตาม ม.270 ให้อำนาจไว้

"ม็อบแท็กซี่"โผล่ประท้วง

เมื่อเวลา 06.30 น. กลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ใช้ชื่อว่ากลุ่มรักชาติ 52 จำนวนประมาณ 120 คน พร้อมรถแท็กซี่ 30 คัน และรถกระบะบรรทุกเครื่องขยายเสียง 2 คัน เดินทางมาชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตกัมพูชา ถ.ประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง โดยได้ปิดการจราจรหน้าสถานทูตฝั่งด้านขาออก 2 ช่องทาง ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ทำให้ทาง สน.วังทองหลาง ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาคอยอำนวยการจราจร พร้อมฝ่ายสืบสวนคอยเฝ้าสังเกตการณ์ เบื้องต้นกลุ่มดังกล่าวไม่มีผู้เผยตัวว่าใครเป็นผู้นำกลุ่ม

ต่อมานายกัสสปะ หันพานิชย์ รอง ผอ. เอกสิทธิ์และความคุ้มครองทางการทูต กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้เดินทางมารับหนังสือประท้วงจากทางกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาออกมารับหนังสือแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในหนังสือประท้วงเรียกร้องให้นายกฯ กัมพูชาหยุดพฤติกรรมก้าวล่วง แทรกแซงขบวนการยุติธรรมไทย เรียกร้องให้เคารพกติกาสากลโดยการส่งตัว พ.ต.ท. ทักษิณ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และต้องการให้นายกฯ กัมพูชาหยุดพฤติกรรมในการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยภายหลังตัวแทนยื่นหนังสือแล้ว ได้แยกย้ายเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

"ประเวศ"แนะเลิกแก้แค้น

น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐ กิจของกัมพูชา ว่า เป็นเพียงประเด็นเล็ก แต่ถูกหยิบยกให้เป็นเรื่องใหญ่โดยสมเด็จฮุนเซน ซึ่งประชาชนทั้งสองประเทศต้องมองให้ออกว่าผู้นำกัมพูชาต้องการอะไร เพราะค่านิยมสามารถปลุกกระแสได้ในชั่วพริบตา จึงฝากให้ประชาชน 2 ประเทศ ไม่รับข่าวสารด้านเดียว ตีความให้ออก และมีแง่คิดว่าผู้นำที่ดีต้องไม่นำพาประชาชนไปสู่สงคราม เมื่อใดที่ผู้นำปลุกกระแสชาตินิยม เมื่อนั้นถือว่ารัฐบาลอ่อนแอ

น.พ.ประเวศ กล่าวว่า รัฐบาลไทยต้องปฏิบัติตามหลักการ ไขปัญหาคาใจทำความจริงให้ปรากฏโดยไม่มีอคติ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลประโยชน์กับสมเด็จฮุนเซน จริงหรือไม่ และขอแนะให้พ.ต.ท.ทักษิณเลิกต่อสู้ หรือ แก้แค้นในแนวระนาบได้แล้ว ควรสร้างจิต สำนึกใหม่ หรือหาสถานที่ทำสังคม เศรษฐกิจพอเพียงที่อยู่ในอุดมคติให้เห็นภาพจริงให้ได้ คนก็จะชื่นชมเอง

อ้างแม้วช่วยชูศก.พอเพียง

ที่พรรคเพื่อไทย มีการสัมมนาและปฐม นิเทศน์สมาชิกใหม่ อาทิ คณะนายทหาร ตท.10 จำนวน 50 คน นำโดย พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี กลุ่มกรุงเทพฯ 50 จำนวน 48 คน และกลุ่มของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย อีกประมาณ 30 คน เข้าร่วมสัมมนา

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธ มิตรฯ วันที่ 15 พ.ย.ว่า เป็นการปลุกกระแสและลัทธิคลั่งชาติ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นำสถาบันมาแอบอ้างและประกาศระดมคนให้มาร่วมชุมนุมกว่า 1 แสนคน ลำพังกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีศักยภาพพอจะชักจูงให้ประชาชนจำนวนมากมาร่วมชุมนุมได้ แต่มีรายงานจากประชาชนหลายจังหวัดแจ้งว่า หน่วยงานในกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบความมั่นคงได้ระดมประชาชนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ฉะนั้นหากเกิดความรุนแรงขึ้นรัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ต้องรับผิดชอบ

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กรณีพ.ต.ท. ทักษิณบรรยายพิเศษ ที่กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชาว่า เนื้อหาที่บรรยายเป็นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงมหภาคของกัมพูชา การพัฒนาการเกษตร และเผยแพร่เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการศิลปาชีพพิเศษ รวมถึงสินค้าโอท็อป ไม่มีเรื่องใดที่นำความลับไปขายหรือทำให้ชาติเสียหาย

"นพดล"ปูดข่าวถูกปองร้าย

"จุดที่ทำให้เกิดความเสียหายกับกัมพูชานั้นเป็นเพราะนายกฯ เลือกนายกษิตเป็น รมว.ต่างประเทศ และท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารตั้งแต่สมัยเป็นฝ่ายค้าน สมเด็จฮุนเซนบอกชัดเจนว่าไม่ได้ทะเลาะกับประเทศไทย หรือรัฐบาลไทย แต่เป็นความไม่ถูกกันกับนายอภิสิทธิ์ ต้นเหตุปัญหาของประเทศคือการยึดอำนาจ การมีสองมาตรฐาน การอยุติธรรม คดีความต่างๆ หลังจากยึดอำนาจนั้นคือแก่นของปัญหา" นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะอยู่ที่กัมพูชาอีก 2-3 วัน ส่วนจะไปไหนต่อไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะมีกระแสข่าวที่ไม่ยืนยันว่าอาจมีการปองร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ เราควรป้องกันไว้ก่อนและไม่ไปกล่าวหาใคร และ พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่ไปกัมพูชาบ่อยเพราะทำงานทางอินเตอร์เน็ตได้

เมื่อถามว่ามีข่าวจากอดีต คตส.ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับประโยชน์จากกองทุนบลูไดมอนส์ ซึ่งเป็นกองทุนลับที่ใช้เพื่อกิจ กรรมทางการเมือง นายนพดลกล่าวว่า ตนไม่มีข้อมูล คิดว่ากองทุนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าใครมีข้อมูลขอให้แจ้งนาย กษิต กองปราบปราม หรือดีเอสไอ ไปดำเนินการ

"จิ๋ว"โต้นิ่มถูกหาเป็นต้นตอ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาว่า ขณะนี้ความขัดแย้งถึงจุดสูงสุดแล้ว ต้องคืนสู่ภาวะปกติ ต่างฝ่ายต้องมองว่าไม่ควรทำหรือพูดอย่างนี้ วิธีอะไรที่สร้างความเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านต้องช่วยกัน สิ่งไหนที่ยังไม่สบายใจก็ค่อยๆ แก้ไปเงียบๆ ทั้งนี้ ตนคงไม่ต้องไปแนะนำรัฐบาลในการสร้างความสัมพันธ์กับกัมพูชา เพราะแต่ละคนมีความรู้ความสามารถ เป็นแต่เพียงอารมณ์ที่เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ถึงจุดสูงสุดแล้วก็จะเบาลง ท้ายที่สุดจะเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนเดิม

เมื่อถามว่ารัฐบาลบอกว่าปัญหาเกิดขึ้นหลังจากพล.อ.ชวลิตกลับจากกัมพูชา พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ตนไม่ว่าอะไร ถ้าใครติดขัดอะไรก็โยนมา ตนพร้อมรับ กลับมาจากกัมพูชาพูดแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น กัมพูชาบอกจะไม่เผชิญหน้ากับไทย ต่างคนต่างถอนทหาร ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนบอกว่ารักพ.ต.ท.ทักษิณ มีความผูกพันกัน แค่นี้เอง ก็ไปหยิบเอาประเด็นนี้ขึ้นมา ตนไม่ว่าอะไรเพราะผ่านไปแล้วต่อไปนี้จะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณออกจากกัมพูชาไปแล้วสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า อย่าไปพูดเช่นนั้น ควรดูที่หลักการ ที่สำคัญเรากับกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านต้องเป็นมิตรกัน ต้องรักกันช่วยเหลือกัน

ประชุม 2 สภาหวิด"ล่ม"อีก

ผู้สื่อข่าวรายงาน การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันเดียวกัน เมื่อถึงเวลาเปิดประชุม 09.30 น. องค์ประชุมไม่ครบ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จึงแจ้งว่ายังไม่เปิดประชุม และของดการหารือ กระทั่งเวลาผ่านไปถึง 10.00 น. องค์ประชุมยังมีอยู่เพียง 245 คน นายชัยจึงขอเลื่อนการประชุมไปเป็นเวลา 11.00 น. หลังเปิดประชุมนายชัยสำรวจองค์ประชุมทันที พบว่ามีผู้ลงชื่อประชุม 355 คน เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสองสภารวมกัน 623 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จึงได้ดำเนินการประชุมเพื่อพิจารณากรอบเจรจาและความตกลงต่างๆ ของรัฐบาลกับต่างประเทศ ที่ต้องให้รัฐสภาเห็นชอบ

โดยที่ประชุมพิจารณาวาระที่ ครม.เสนอ 3 เรื่อง คือ พิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ภายใต้พิธีสารระหว่างไทยกับเปรู เพื่อเร่งการเปิดเสรีทางการค้า, ท่าทีและกรอบการเจรจาของไทยสำหรับการเจรจาในการประชุมรัฐภาคี อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในกรอบอาเซียนเกี่ยวกับแผนการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้ ก่อนมีมติเห็นชอบทั้ง 3 ฉบับ

ช่วงค่ำ พิจารณากรอบการเจรจา 4 ฉบับ ได้แก่ ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับญี่ปุ่น สำหรับโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 8, ร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้สำหรับโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 8, ร่างสัญญาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย และร่างสัญญาเงินกู้กับธนาคาร โลก สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2)

กระทั่งเวลา 21.30 น. นายชัย ได้สั่งปิดประชุม และนัดประชุมต่อในเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พ.ย.
 
  เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :-
 
  เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :-
บทความที่น่าสนใจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
340 ลาดพร้าว 112 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 0-2514-0593 แฟ็กซ์ 0-2538-4215 Email : [email protected]

Warning: include(../../main/globalsitemap.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185

Warning: include(): Failed opening '../../main/globalsitemap.php' for inclusion (include_path='.:/usr/lib/php:/usr/local/lib/php') in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185