ราชินี"พระราชทานทรัพย์ หนุนเครือข่ายตาสับปะรด ช่วยอาสาฯคุ้มกันเมืองนราฯ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนถึงกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า ไม่อยากคิดไปไกลว่าจะทำให้เกิดปัญหาเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่กัมพูชา แต่ขอให้พล.อ.ชวลิตคำนึงถึงประโยชน์ของคนไทยทั้ง 60 ล้านคน และความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก อย่าหวังผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคที่สังกัดมาทำให้ประชาชนเดือดร้อน และประเทศเสียหาย เชื่อว่าคนที่มีวุฒิภาวะต้องคิดถึงบ้านเมืองไม่ใช่การเมือง
"ผมไม่รู้สึกเป็นห่วงที่พล.อ.ชวลิตจะเดินทางไปพบหรือทำอะไรก็ตาม เพราะถือว่าคนแก่คนหนึ่งที่อยากทำงานการเมืองก็เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ไม่อยากให้กระทบกับบ้านเมือง" นายถาวร กล่าว และว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด แต่จะตีตนไปก่อนไข้คงไม่ได้ ที่ดำเนินการขณะนี้คือ กระชับความสัมพันธ์และให้เกียรติประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย พม่า จีน หรือลาว หรือกลุ่มประเทศอาเซียน พร้อมกันนี้ ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนและข้าราชการกระทรวงที่ต้องดูแลประชาชนให้เข้มงวดเรื่องการข่าว โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติตามแนวตะเข็บชายแดนทุกด้าน ต้องไม่ประมาท
นายถาวรกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังจะเดินทางเยือนมาเลเซียตามกำหนดการเดิม เชื่อว่าเมื่อผู้นำสองประเทศพบกันแล้วจะเกิดประโยชน์อันดี โดยทางการมาเลเซียจะปล่อยนักโทษคนไทย 403 คนโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งส่วนใหญ่ถูกข้อหาหลบหนีเข้าเมือง หรือทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต
สำหรับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ยังคงเกิดเหตุร้ายรายวันต่อเนื่อง โดยช่วงสายวันเดียวกันนี้ เกิดเหตุนางสุรีนา อาแว อายุ 21 ปี ชาวบ้านคลองชิง อ.กาบัง จ.ยะลาที่ออกไปกรีดยางระหว่างทางทำมีดหล่นลงกอหญ้า เมื่อใช้มือควานหาไปถูกกล่องระเบิดแสวงเครื่องจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ได้บาดเจ็บบริเวณข้อมือ สะโพก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าเป็นระเบิดที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนำมาวางไว้
เวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุยิงกันที่บ้านเป้าะเส้ง ม.4 อ.เมือง จ.ยะลา และมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 คน โดยคนร้ายใช้รถกระบะมาสด้าสีดำไม่ทราบทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงครามไล่ยิงชายวัยรุ่น 2 คนซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนน เมื่อทั้งสองทิ้งรถวิ่งหนี แล้วหนึ่งในนั้นถูกกระสุนปืนล้มลง คนร้ายเดินเข้าไปจ่อยิงซ้ำที่ศีรษะ 1 นัดเสียชีวิตคาที่ ก่อนหลบหนีคนร้ายขโมยเอาอาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 ของผู้ตายไปด้วย ส่วนเพื่อนอีกคนของผู้ตายหนีไปได้ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสุภา มะแซ อายุ 17 ปี ลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ และอดีตลูกจ้างตามโครงการเร่งด่วนของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตำรวจตั้งประเด็นเรื่องส่วนตัวและการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
ช่วงเย็นวันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดแล้วยิงถล่มซ้ำเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัดร้อย ร. 15134 ฉก.นราธิวาส 31 บนถนนสายบาโงดุดุง-ลูโบ๊ะเยาะ ม.6 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บสาหัส 4 นาย โดยคนร้ายแอบซุ่มอยู่ในป่าริมทางและจุดชนวนระเบิดที่ลอบฝังไว้กลางถนน จนเกิดระเบิดขณะรถยนต์จี๊ปของเจ้าหน้าที่ขับผ่าน ทำให้รถยนต์จี๊ปเสียหลักตกไหล่ทางไปชนกับต้นยางพารา ก่อนคนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มซ้ำ จนทั้งสองฝ่ายเปิดฉากยิงปะทะกัน เป็นเวลาเดียวกับ พ.ท.จรัล เอี่ยมฐานนท์ รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 45และทหารรวม 6 นาย ผ่านมายังจุดเกิด จึงใช้อาวุธปืนสงครามยิงสนับสนุนใส่กลุ่มคนร้าย กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้อาศัยความชำนาญพื้นล่าถอยไป โดยทำอาวุธปืนพกสั้น 11 ม.ม. ตกไว้ในป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอาวุธดังกล่าว คนร้ายบุกปล้นไปจากกองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ที่ผ่านมา
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 นำคณะผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 6 คน ประกอบด้วยผู้สื่อข่าวจากสหรัฐ 4 คน อินโดนีเซีย 2 คน เดินทางไปที่ทำการชมรมรักษ์บางนรา ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาสาสมัครรักษาเมือง ถ.พิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมือง จ.นราธิวาส เพื่อเข้าเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ และรับฟังมาตรการรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมืองและเขตรอยต่อ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้ ชมรมรักษ์บางนรามีกำลังพลเป็นอาสาสมัครรักษาเมืองจำนวน 900 คน มีทั้งไทยพุทธ และมุสลิม ที่รวมตัวกันภายใต้จิตสำนึกรักบ้านเกิดตามโครงการเครือข่ายตาสับปะรด มีนายพงศ์ศักดิ์ ชุติเชาวน์กุล เป็นประธานชมรม โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ แก่อาสาสมัครรักษาเมือง ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มนี้ เพื่อใช้สนับสนุนในการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างราบรื่น |