คมชัดลึก :วอชิงตัน-สหรัฐประกาศลั่นจะไม่ปล่อยให้พม่าเป็นอุปสรรคขัดขวางสัมพันธ์กับอาเซียน ขณะที่โอบามาจะร้องขอเป็นการส่วนตัวให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนางซูจีเป็นอิสระ นายเจฟฟรีย์ เบเดอร์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเอเชียของผู้นำสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) ว่า หนึ่งในปัญหาอึดอัดใจเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐที่มีต่อพม่าในช่วงหลายปีมานี้ คือ การที่สหรัฐไม่สามารถติดต่อสัมพันธ์กับพม่าได้ ทำให้ไม่สามารถติดต่อสัมพันธ์บางอย่างกับชาติสมาชิกอาเซียนทั้งหมดได้ตามไปด้วย และรัฐบาลต้องการประกาศให้ทราบว่า สหรัฐจะไม่ปล่อยให้ความขัดแย้งกับพม่าเป็นอุปสรรคขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอาเซียนเป็นอันขาด นายเบเดอร์ยังกล่าวด้วยว่า การหารือระหว่างประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐ กับผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ทั้ง 10 ประเทศเป็นครั้งแรก รวมถึงนายกรัฐมนตรีเต็ง เส่งของพม่า ซึ่งจะมีขึ้นในการประชุมนอกรอบของการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่สิงคโปร์ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ จะเป็นการหารือแบบพหุภาคี โดยสหรัฐไม่ต้องการที่จะลงโทษสมาชิกอาเซียนอีก 9 ชาติเพียงเพราะพม่าเข้าร่วมการประชุมด้วย ทั้งนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและอาเซียนเกิดขึ้น เพราะผู้นำสหรัฐไม่อยากร่วมโต๊ะเจรจากับผู้นำพม่าซึ่งถูกนานาประเทศโจมตีเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง รวมถึงการกักตัวนางออง ซาน ซูจี ผู้นำการเรียกร้องประชาธิปไตยเอาไว้นานถึง 14 ปี แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปเยือนพม่า และหารือกับผู้นำรัฐบาลทหารเพื่อส่งเสริมการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ด้านหนังสือพิมพ์สเตรทส์ ไทม์สของสิงคโปร์ รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐว่า โอบามาจะเรียกร้องเป็นการส่วนตัวให้ทางการพม่าปล่อยตัวนางซูจีเป็นอิสระ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารพม่ามากกว่าที่เคยเป็นมา วันเดียวกัน ประธานาธิบดีหู จิน เถาแห่งจีนได้เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อเริ่มต้นการเยือนมาเลเซียอย่างป็นทางการก่อนหน้าเข้าร่วมการประชุมเอเปกในสุดสัปดาห์นี้ โดยนายหู ซึ่งเป็นผู้นำจีนคนแรกที่เดินทางเยือนมาเลเซียในรอบ 15 ปี ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ โดยทางการได้ยิงปืนใหญ่ 21 นัดบริเวณจัตุรัสรัฐสภา นอกเหนือจากสมเด็จพระราชาธิปไตยเต็งกู มิซาน ไซนัล อาไบดินเสด็จไปต้อนรับ พร้อมนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค บุตรชายของนายอับดุล ราซัค ฮุสเซน อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่เป็นผู้สถาปนาความสัมพันธ์กับจีนเมื่อ 35 ปีก่อน โดยผู้นำทั้งสองมีแผนจะลงนามในความร่วมมือต่างๆ ระหว่างกัน |