ส.ส.นราธิวาส จะยื่นถาม"อภิสิทธิ์"ปัดรับข้อเสนอผู้นำมาเลยย์ตั้งเขตปกครองพิเศษจว.ชายแดนใต้ ระบุมุสลิม 90%เห็นด้วย อ้างสื่อมาเลย์ว่าไทยพลิ้ว เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิกุลทอง โรงแรมอิมพิเรียล อ.เมือง นราธิวาส นายแพทย์แวมาฮาดี แวดาโอะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งไทยและมาเลเซีย ในนามกลุ่มสัจจานุภาพ กรณีแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 6 ข้อ ซึ่งทั้งหมดเป็นประเด็นที่ ส.ส.แวมาฮาดี ได้เตรียมยื่นกระทู้ถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญครั้งหน้า โดยเป็นปัญหาเรื้อรังที่ประชาชนและสังคมต้องการทราบเพื่อคลายความสงสัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีความชัดเจนให้ปรากฏจากภาครัฐ ทำให้เป็นประเด็นที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจนำไปเป็นชนวนทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดยสื่อจากประเทศมาเลเซียทุกแขนงได้ให้ความสนใจ "โดยเฉพาะกรณีหนังสือพิมพ์มาเลเซียได้เสนอข่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของ ดาโต๊ะมูฮัมหมัดสรี นาจิป ต่วนอับดุลราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเป็นเขตปกครองตนเอง หรือออโตโนมี(Autonomi) และเป็นนโยบายที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เน้นเพื่อจัดตั้งเป็นนครรัฐปัตตานีเช่นกัน ขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์กล่าวยอมรับว่าให้สัมภาษณ์จริง แต่ไม่ได้หมายความว่ารับปากจะดำเนินการจัดตั้ง เป็นที่มาความหมางเมินใจของนายกฯมาเลเซียตามที่สื่อมาเลย์ได้ประโคมข่าวไป" นายแพทย์แวมาฮาดี กล่าวอีกว่าในความรู้สึกของตนเองเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจ เปลี่ยนแปลงจากสภาสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสภาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดของตนเองได้ ที่สำคัญเป็นการขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดไป และจากการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ 90% เห็นด้วยกับการตั้งเป็นเขตปกครองพิเศษ แต่ตนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 ไม่มีความพร้อมที่จะทำถึงขั้นนั้นได้ อย่างไรก็ตามการพูดคุยกันระหว่างผู้นำไทยและมาเลเซียและอาจจะไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้นั้น ก็คงไม่ทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งของสองประเทศ เหมือนเฉกเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา กรณีการส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ข้ามแดนกลับไทย จนเกิดเป็นปัญหาบานปลายใหญ่โต |