|
| บิ๊กจิ๋วเปรียบชายแดนใต้เหมือนเพชรก้อนโตที่ยังไม่เจียรนัย |
|
|
พล.อ ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเป็นมาที่ตนเองกับพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งตนพยายามที่จะแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ตลอดจนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด พยามยามที่จะเป็นโซ่กลางแต่ไม่สำเร็จ ดังนั้น ตนจึงเลือกอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดของความขัดแย้ง เอากลุ่มที่มีพลังมากที่สุด และทำงานเร็วที่สุด มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย และตัดสินใจอยู่กับพรรคเพื่อไทย เพราะประชาชนที่นี่คนภาคใต้และประชาชนที่ยากจนเป็นคนเลือก ส่วนพรรคอื่นๆ ก็เป็นเพื่อนไม่ใช่เป็นศัตรู และเป็นเพื่อนที่จะช่วยกันสร้างพลังในการแก้ปัญหาชายแดนใต้
ที่ผ่านมา โครงการแรก ที่จะทำนำประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ติดคุกประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รอบไทย มีประมาณ 1,205 คน กลับมา แต่เกิดปัญหาไม่เข้าใจในกระบวนการจึงไม่สำเร็จ เรื่องที่ 2 คือ การสร้างความสัมพันธ์ของพระราชวงศ์กษัตริย์ไทยกับกษัตริย์ซาอุ ฯ ยังไม่สำเร็จ
มาครั้งนี้ไม่มีอำนาจในมือ ไม่มีงบ ไม่มีทหาร แต่มาเพื่อน้ำใจ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความสมานฉันท์สูงสุดให้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ซึ่งขบวนการที่จะได้มาคือการเจรจา แต่การกล่าวว่าเจรจาอาจมีปัญหา หรือเรียกว่าการพูดคุย ต้องให้องค์กรประชาสังคมเป็นส่วนหนี่งของการพูดคุย ส่วนหน่วยงานรัฐเองจะต้องดำรงซึ่งความยุติธรรมสูงสุด เพื่อให้การเจรจาเกิดขึ้นเร็ว
นอกจากนั้นข้าราชการอย่ามองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องแบ่งแยกดินแดน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แบ่งแยกอย่างเดียว ยังมีเรื่องอื่นๆอีกมาก แต่ถ้าจะแก้ปัญหา เรามองข้ามปัญหานี้ จำทำงานอิสระ เรามองประชาชนที่เจ็บปวด และไม่ยุติธรรม
นอกจากนั้นควร อโหสิกรรม นิรโทษกรรมผู้หลงผิด เพื่อให้มาอยู่กับเรา ถ้าไม่คิดเรื่องนี้ การแสวงหาสันติสุขก็ไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับที่เคยคิด แนวคิดดอกไม้หลากสี
ดังนั้นขอความร่วมมือคนในพื้นที่ ช่วยกันผลักดันสันติภาพให้เกิดขึ้น โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพราะอยากให้ชายแดนใต้ เป็นเพชรเม็ดโตที่ด้ามขวานทอง ที่มีความรุ่งโรจน์ ถูกเจรนัย ยืนเคียงข้างกับความสงบสุขสู่แผ่นดินทองแห่งนี้ |
|
| |
| เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|
|
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน