หนุ่มใหญ่เมืองคอน ทะเลาะ กก.มัสยิด เรื่องทางเข้าออกที่ดิน ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ฝ่ายกก.มัสยิดสู้ไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุสยองหนุ่มใหญ่ถูกยิงด้วยปืนลูกซองโป้งเดียวจอด ตำรวจเตรียมออกหมายจับคู่กรณี

เมื่อเวลา 00.10น.วันที่ 17 ต.ค. ร.ต.ท.บรรจง สิทธิศักดิ์ ร้อยเวร สภ.ย่อยมหาชัย อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายที่ข้างบ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ ผู้กำกับการ สภ.ย่อยมหาชัย พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รองผู้กำกับการสืบสวนสภ.ย่อยมหาชัย พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สารวัตร ปราบปราม สภ.ย่อยมหาชัย พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ย่อยมหาชัย แพทย์เวรโรงพยาบาล มหาราชนครศรีธรรมราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ้งรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุอยู่หน้าบ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 หลังมัสยิดนูรุสดีน (มัสยอดบ้านป่าไหม้) พบศพนายอาสาร เขตนคร อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุนอนตายจมกองเลือดในลักษณะนอนหงายนุ่งโสร่งสีขาวสลับเทา ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าบริเวณท้ายทอยด้านซ้ายกะโหลกศีรษะ เปิดเป็นแผลกว้างมันสมองกระจายในที่เกิดเหตุพบหมอนรองกระสุนลูกซองฉีกขาด ตกกระจายอยู่ 4 ชิ้น บริเวณพุ่มไม้ริมรั้วมัสยิดพบรอยย่ำจนพื้นหญ้าราบเรียบ คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายซุ่มยิงนายอาสาร และห่างออกไปประมาณ 30 เมตรพบอาวุธปืนลูกซองยาวซุกซ่อนอยู่ใต้ต้นมะนาว 1 กระบอกในรังเพลิงมีปลอกกระสุนปืนคาอยู่ 1 ปลอก คาดว่าเป็นอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิงนายอาสาร จนเสียชีวิต จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายอาสาร ผู้ตาย เป็นคนมีชื่อเสียงในพื้นที่ ปลูกบ้านอยู่ด้านหลังมัสยิดนูรุสดีน ต่อมา มัสยิดได้สร้างรั้วลวดหนามกั้นบริเวณที่ดินของมัสยิดทั้งหมดจึงปิดทางเข้า-ออกบ้านของนายอาสาร ส่งผลกระทบต่อนายอาสารและคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงได้ขอให้มัสยิดเปิดทางเข้าออกให้และตัวเองจะทำถนนเข้าบ้าน   ช่วง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุทางคณะกรรมการมัสยิดจึงมีการประชุมว่าจะเปิดทางให้หรือไม่ ปรากฏว่ามีคณะกรรมการมัสยิดคนหนึ่งไม่ยินยอมสร้างความไม่พอใจให้กับนายอาสาร เป็นอย่างมาก จึงเกิดการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกับกรรมการมัสยิดคนดังกล่าวอย่างรุนแรง ถึงขั้นวางมวยใส่กัน  กรรมการมัสยิดรายนี้สู้ไม่ได้ถูกหมัดเท้าเข่าศอกของนายอาสาร จนบอบช้ำ สันนิษฐานว่าประเด็นดังกล่าวอาจนำมาสู่การสังหารโหดนายอาสาดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวคณะกรรมการมัสยิดคู่กรณีของนายอาสาร มาสอบปากคำที่โรงพัก แต่ผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าคณะกรรมการมัสยิดผู้ต้อง สงสัยรายนี้คือมือปืนสังหารนายอาสาร เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับกุมมือปืนรายนี้มาดำเนิน คดีตามกฎหมายต่อไป